‘ขจิตร’ ซัด ‘ประยุทธ์’ กิริยาไม่เปลี่ยน ทำงบฯไม่รับผิดชอบ ‘บิ๊กตู่’ สวนทันควัน ยันรับผิดชอบทุกอย่าง แต่ขอให้เข้าใจบางครั้งอารมณ์รุนแรง เพราะเป็นมนุษย์ธรรมดา
เมื่อเวลา 12.05 น. วันที่ 1 มิ.ย.65 นายขจิตร ชัยนิคม ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย อภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประชุมปีงบประมาณปี 2566 ว่า การที่นายกฯบอกว่าพูดอะไร ส.ส.ก็ไม่ฟัง ก็แสดงว่าส.ส.ไม่นั่งอยู่แปลว่าไม่ฟัง แต่ตอนนี้ตนพูดนายกฯก็ไม่นั่งฟัง ซึ่งจริงๆแล้วเราฟัง เห็นทั้งกิริยาท่าทางของนายกฯ แต่ท่านไม่เปลี่ยนพฤติกรรม ฟังแล้วก็ไม่รู้จักเปลี่ยนแปลง เวลาทำงบประมาณก็ไม่รู้สึกรู้สาต่อสถานการณ์ มาตอบในสภาฯเหมือนไม่รับผิดชอบบอกว่าไม่ได้ทำเอง ถ้าไม่อยากรับผิดชอบกับงบฯที่แถลงมา และในเอกสาร ก็ลาออกไป แล้วให้คนอื่นเขามารับผิดชอบ
“ผมเจอนายกฯหลายท่านมากไม่ต่ำว่าสิบท่านในเวลา 40 ปี ที่ผมทำงานการเมือง ทุกคนต้องรับผิดชอบหมด ไม่ว่าอะไรก็ตามที่อยู่ในเอกสาร คนที่รับผิดชอบต่อสภาฯคนแรกคือนากยฯ จะปฏิเสธไม่ได้ นายกฯท่านต้องรับผิดชอบในโครงการทั้งหมดของงบประมาณ ผมเห็นใจท่านนายกฯเหนื่อยมาตั้งแต่มีสภาฯ แต่เดี๋ยวนี้สภาฯทำบทบาทได้ 30เปอร์เซนต์เท่านั้น นอกนั้นเป็นอำนาจของฝ่ายบริหาร
ท่านเหนื่อยมากผมเข้าใจ ท่านทำงานทุกอย่างเพื่อจะรับผิดชอบประเทศนี้ แต่บนความเหนื่อยของท่านใช้งบประมาณ ยืมเงินมา เป็นหนี้สาธาณะ 10 ล้านล้านบาท มากกว่าคนอื่น ท่านรับผิดชอบหรือไม่ และเป็นผลงานของท่านหรือไม่ แล้วถ้าไปตรวจดูการใช้งบฯของท่านทั้งหมดที่ท่านใช้ไปประมาณปีละ 3 ล้านล้านบาท และปีนี้ 3.18 ล้านล้านบาท มีผลอย่างไรต้องไปดูทั่วประเทศ ซึ่งนายกฯที่ชื่อประยุทธ์ ต้องรับผิดชอบ”นายขจิตร กล่าว
นายขจิตร อภิปรายต่อว่า สำหรับกระทรวงศึกษาธิการ กับกระทรวงอุดมศึกษาฯ ใช้เงินประมาณ 4-5 แสนล้านบาท 80 เปอร์เซนต์ของกระทรวงศึกษาฯ ใช้กับงบบุคคลากร เหลืออยู่ประมาณ 9,775 ล้านบาท เซึ่งเป็นงบพัฒนา และ 90 เปอร์เวนต์เป็นงบค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งไม่ถึงมือครู ครูยังต้องใช้เงินตัวเองทำกิจกรรมการเรียนการสอนเอง
การทำโรงเรียนคุณภาพประจำตำบล ใช้เงิน 4,954 ล้านบาท ซึ่งไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญมาตรา 54 เพราะรัฐบาลต้องจัดการศึกษาให้กับประชาชนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย มีคุณภาพ และทั่วถึง ดังนั้นการจะมาทำโรงเรียนคุณภาพประจำตำบล แปลว่าโรงเรียนอื่นไม่มีคุณภาพใช่หรือไม่ ซึ่งนายกฯต้องรับผิดชอบ
ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ขึ้นโต้ทันว่า ที่ท่านกล่าวหาว่าตนไม่รับผิดชอบ โยนความผิดให้คนอื่น ยืนยันว่า ไม่ใช่แบบนั้น ท่านฟังคำพูดของตนไม่เข้าใจ ตนพูดว่าตนทำงานโดยการต้องฟังจากคณะกรรมการทุกคณะ ความรับผิดชองอย่างไร นายกฯก็ต้องรับผิดชอบ ไม่หนีแน่นอน ไม่หนีไปไหน ความรับผิดชอบทุกอย่าง
อย่างไรก็ต้องรับผิดชอบ อย่าพูดที่เกินเลยไป และในเรื่องของการศึกษารัฐบาลให้ความสำคัญการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งอยู่ในหัวข้อหลักของชาติ 1 ใน 6 ข้อ แต่สิ่งสำคัญคือทำอย่างไรให้มีคุณภาพ เราต้องพัฒนาครู โรงเรียน พัฒนาเด็ก ซึ่งต้องดูว่าสิ่งที่เราทำมาแล้วมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ การที่มีโรงเรียนคุณภาพประจำตำบลนั้น
จุดประสงค์หลักก็คือการที่จะทำให้มาตรฐานการเรียนการสอนได้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น เพื่อลดภาระในการเดินทางไปศึกษาในจังหวัดอื่นๆ ในพื้นที่ที่ห่างไกล และต้องมีการปรับปรุง พัฒนาเอาเทคโนโลยีเข้าไปใส่ ไม่ได้หมายความว่ายุบทิ้งทั้งหมด และได้สอบถามไปยังกระทรวงศึกษาฯ ที่งบลดลงส่วนหนึ่งเพราะเด็กนักเรียนลดลง แต่ตนก็ฟังท่านและรับไปดูว่าจะดำเนินการอย่าไร
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า การที่ผมจะนั่งอยู่หรือไม่นั่งอยู่ในที่ประชุม ตนเป็นนายกฯ ตนมีความรับผิดชอบ ตนมีการบันทึกสรุปว่าใครอภิปรายว่าอย่างไร และผมควรจะชี้แจงตรงไหนอย่างไร ทุกอย่างถูกบันทึกหมดและตนอ่านตลอดเวลา ถึงแม้ผมจะทำงานอื่นอยู่ด้วยก็ตาม
เช่นวันนี้ผมมีภารกิจสำคัญอีกอย่างคือการรับการเยือนของนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนลาว งานตนไม่ได้หยุดนิ่ง และคณะทำงานของตนอยู่ที่นี่ ตนพร้อมชี้แจง บางเรื่องให้รัฐมนตรีช่วยชี้แจงด้วย ยืนยันพร้อมสนับสนุนในส่วนของงบกลางถ้าเรามีเพียงพอ และไม่มีปัญหาภัยพิบัติ ปัญหาสาธารณสุขและอื่นๆ ตนพร้อมพิจารณาสนับสนุนงบฯให้ ซึ่งท่านก็ทราบดีอยู่แล้วว่ารายได้เราจำกัด
“ผมรับผิดชอบทุกอย่างอยู่แล้ว ผมยืนยันว่าผมไม่เคยท้อและผมก็ทำงานทุกวัน ผมมีความรับผิดชอบและผมจะไม่ก้าวก่าย ผมจะไม่สั่งการอะไรที่มันเกิดประโยชน์กับตัวเอง หรือกับใคร ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย ตามระเบียนและขั้นตอนทุกประการ และทั้งหมดผมรับผิดชอบในภาพใหญ่อยู่แล้ว จะดีจะชั่วผมก็ต้องรับอยู่แล้ว
ผมไม่หนีท่านหรอก ขอยืนยัน และอยากให้ทุกคนเข้าใจในบางครั้งผมรู้ ผมทราบดีว่าผมค่อนข้างจะอารมณ์แรงนิดนึงบางครั้ง เพราะผมก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งเหมือนกัน ผมพยายามระวังอย่างที่สุดในการที่จะพูดจาตรงนี้ และต้องขอขอบคุณในส่วนที่เป็นคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ ก็จะรับไปแก้ไขปรับปรุงในขั้นตอนหลังจากงบฯผ่านไปแล้วในชั้นกมธ.ฯ ออกมา ที่สามารถปฏิบัติได้ ถ้าไม่ผ่านก็แล้วแต่ ค่อยไปว่ากันเพราะประชาชนรออยู่ว่าเราจะทำอะไรใหม่ให้เขาได้อีก เราจะดูแลเขาต่อไปได้หรือไม่” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว