หลังจากที่ บริษัท ไทยลีก จำกัด ได้ปรับเปลี่ยนโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก และฟุตบอลถ้วยลีกคัพ เพื่อหลีกทางให้ ทีมชาติไทย ได้เตรียมทีมเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งมีผลกระทบต่อหลายสโมสร รวมทั้งสโมสรชลบุรี เอฟซี ยืนยันว่าจะไม่ปล่อยตัวนักเตะ ทำให้เกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางนั้น
ล่าสุด “บิ๊กแชมป์” นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล รักษาการประธานบริหารเจ้าหน้าที่ บริษัท ไทยลีก จำกัด ได้โพสต์เฟซบุ๊ก Champion Korrawee ร่ายยาวเกี่ยวกับประเด็นดราม่าที่เกิดขึ้นในวงการฟุตบอลไทยเกี่ยวกับการแข่งขันฟุตบอลซีเกมส์ โดยมีข้อความระบุว่า
เมื่อไทย(ห)ลีก หลบให้ซีเกมส์ #จากใจคนทำงาน
เหตุผลความจำเป็นต่างๆ ในการขยับโปรแกรมไทยลีกนัดสุดท้ายเพื่อหลบทางให้กับการแข่งขันซีเกมส์ผมได้อธิบายไปครบถ้วนแล้ว
รวมถึงผลกระทบทั้งลีกและการเก็บตัวของทีมชาติไทยชุดใหญ่และชุดอายุ 23 ปี ช่วงปลายเดือนพฤษภาคมก่อนจะไปแข่งรายการ “ชิงแชมป์ทวีปเอเชีย” จะกระทบอย่างไร ผมก็ได้อธิบายไปแล้ว
เมื่อตัดสินใจแบบนี้ ก็ต้องเดินหน้า…ถูก-ผิด-ชอบ-ไม่ชอบ คงต้องใช้เวลาในการตัดสิน
สิ่งที่ยังไม่ได้พูด(ฝากถึงผู้หลักผู้ใหญ่) และอยากจะชวนแลกเปลี่ยนคือการตั้งเป้าหมายและความสำคัญของ “ซีเกมส์”
ผมเข้าใจความคาดหวังของหลายฝ่ายที่มีต่อเหรียญทองของทีมฟุตบอลไทยในซีเกมส์
มันคือเกียรติยศ ศักดิ์ศรี ความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ
และความคาดหวังนั้นเองคือสิ่งที่ต้องแบกอยู่บนบ่าของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ
และนั่นคือแรงกดดันที่มีต่อผู้จัดการทีมชาติไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ความคาดหวังต่อเหรียญทองเหรียญนี้(ของใครบางคน)ยิ่งใหญ่ราวกับได้ไปแข่งฟุตบอลโลก
…
ถ้าเป็นสมัยเมื่อ 20 ปีก่อน ผมก็คงจะเห็นด้วย แต่มันไม่ควรจะเอามาเป็นความหวังของฟุตบอลทีมชาติไทยในโลกของฟุตบอลสมัยนี้…
สมัยที่มี FIFA DAY เป็นตัวกำหนดการแข่งขันในระดับสากลของทีมชาติแต่ละประเทศ
สมัยที่การจัดลำดับ FIFA RANKING จะถูกคิดคะแนนต่อเมื่อเข้าเกณท์ระดับ FIFA ‘A Match’ เท่านั้น
สมัยที่กีฬาฟุตบอลของประเทศกำลังยกระดับและก้าวไปสู่การเป็น ‘กีฬาอาชีพ’ อย่างเต็มตัว
แต่เรากลับก้าวข้ามไม่พ้น ‘กับดักความสำเร็จ’ ของตัวเอง
เรายังคงมีความสุขกับความสำเร็จเล็กๆเฉพาะหน้า และตั้งให้มันเป็นเป้าหมายที่แสนยิ่งใหญ่
ถ้าเรายังก้าวไม่พ้นจากเวทีภูมิภาคเราจะไม่มีวันก้าวไปสู่เวทีระดับสากลได้
ซีเกมส์ควรจะเป็นเวทีที่เอาไว้สร้างดาวรุ่งดวงใหม่ สร้างระบบ สร้างประสบการณ์ เสริมกระดูกให้เยาวชนทีมชาติไทยก่อนจะก้าวไปสู่ทีมชาติชุดใหญ่ในอนาคต
เราจะภูมิใจกว่าไหม หากดาวรุ่งของเราไปสู้กับทีมชาติ ประเทศอื่นๆได้อย่างสมศักดิ์ศรี ??
เราจะได้ประโยชน์มากกว่าไหม หากมีนักเตะหน้าใหม่แจ้งเกิดได้อีก 3-4 คนจากเวทีนี้??
ความสำเร็จของเราอยู่ที่การชูถ้วย คว้าแชมป์ ได้เหรียญทองเท่านั้นนะหรือ?
ถึงเวลาหรือยังที่จะมาร่วมกันออกแบบว่า ‘ความสำเร็จ’ หน้าตามันควรจะเป็นอย่างไร?
มาจัดลำดับความสำคัญเสียใหม่เพื่อจะก้าวข้ามระดับภูมิภาค ไปสู่ระดับเอเชียและก้าวไปเวทีระดับโลกกันจริงๆเสียที
“ความสำเร็จของเราจะไม่มีวันยิ่งใหญ่ขึ้นได้ ถ้าเรายังยึดติดกับความสำเร็จเล็กๆแบบเดิม”