ก้าวไกล แฉ ประยุทธ์ เอื้อกลุ่มทุนพลังงาน ทำค่าไฟแพง ประชาชนเป็นหนี้ เจ้าสัวรวย ซัดเป็นขบวนการเอื้อประโยชน์กลุ่มทุนอย่างเป็นระบบ

20 ก.ค. 2565 – เวลา 22.05 น. นายวรภพ วิริยะโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) เกี่ยวกับค่าไฟในประเทศแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ และเป็นการซ้ำเติมประชาชน

นายวรภพ กล่าวว่า ค่าไฟที่เพิ่มไม่ได้มาจากสาเหตุเชื้อเพลิงแพงอย่างเดียว แต่มาจากการเอื้อกลุ่มทุนด้วย ตอนนี้เรามีโรงไฟฟ้าเกินความต้องการสูงสุดไปแล้ว 54 เปอร์เซนต์ เดือน เม.ย. ซึ่งเป็นช่วงหน้าร้อน ที่ประเทศไทยมีความต้องการไฟฟ้าสูงสุด หรือค่าพีกอยู่ที่ 33,000 เมกะวัตต์

แต่ประเทศไทยมีกำลังการผลิตไฟฟ้าในระบบไฟฟ้าทั้งหมดอยู่ที่ 51,000 เมกะวัตต์ ตอนนี้เรามีกำลังผลิตการไฟฟ้าเกินถึงเกือน 18,000 เมกะวัตต์ ซึ่งค่าไฟฟ้าที่เดินตรงนี้เป็นต้นทุนของประชาชนทุกคนที่ต้องมาหารจ่ายให้กับกลุ่มทุน

ตอน พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามากำลังการผลิตอยู่ที่ 29 เปอร์เซนต์ และเพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ จึงไม่ใช่เรื่องปกติที่กำลังการผลิตส่วนเกินของประเทศไทยสูงขนาดนี้ หากรัฐบาลจะอ้างว่านี่คือความมั่นคงทางพลังงาน ก็ต้องถามว่าความมั่นคงทางพลังงานของประชาชน หรือเพื่อความมั่งคั่งของกลุ่มทุนพลังงานกันแน่

ถ้าเอาค่ามาตรฐานสากล 15 เปอร์เซนต์ จะพบว่าเรามีโรงไฟฟ้าเกินความจำเป็นอยู่ถึงเกือบ 13,000 เมกะวัตต์ โดยเดือน เม.ย. โรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ของไทยมี 12 โรง แต่มีถึง 6 โรงที่ไม่ได้เดินเครื่องเลยแม้แต่วันเดียว 6 โรงนี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตก็ต้องจ่ายเงินค่าประกันกำไรให้กับเอกชน รวมแล้วจำนวน 2,200 ล้านบาท นี่แค่เดือนเดียวที่ใช้ไฟฟ้าสูงสุด ยังไม่รวมค่าผ่านท่อก๊าซที่ไม่มีก๊าซผ่าน เพราะโรงไฟฟ้าไม่ได้วิ่งอีกประมาณ 700 ล้านบาท สุดท้ายก็กลายเป็นต้นทุนค่าไฟฟ้า

นายวรภพ กล่าวต่อว่า ประชาชนเหมือนถูกยักยอกเงินค่าไฟ 0.24 บาทต่อหน่วย นี่คือต้นต่อความเหลื่อมล้ำสุดโด่งที่เกิดขึ้น นโยบายที่เอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุน ซ้ำเติมภาระประชาชน และ 8 ปีที่ผ่านมาประชาชนเป็นหนี้เพิ่มขึ้น 4 ล้านล้านบาท แต่เจ้าสัวไทยรวยขึ้น 2 ล้านล้านบาท ซึ่งถือเป็นขบวนการเอื้อประโยชน์กลุ่มทุนอย่างเป็นระบบ โดยเริ่มจากรัฐบาลได้ทำแผน PDP มาแล้ว 2 ฉบับคือปี 58 และ 61 ทั้ง 2 แผนคล้ายกันคือประมาณการความต้องการใช้ไฟที่สูงกว่าความเป็นจริง และตั้งเป้าหมายเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าส่วนเกินให้สูงขึ้นเป็น 43 เปอร์เซนต์ โดยที่ไม่จำเป็นต้องสูงขนาดนี้

เพราะแผน PDP ประเทศไทยไม่เคยมีกำลังการผลิตส่วนเกินเยอะขนาดนี้มาก่อน ก็เพื่อวางแผนให้มีการสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มทุกปี และผลงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ตลอด 8 ปี ที่ทำให้ประชาชนต้องมารับภาระจ่ายค่าไฟแพงคือ ในปี 62 อนุมัติก้อนแรก ให้มีการสร้างโรงไฟฟ้า IPP 2 โรง 1,940 เมกะวัตต์ ก้อนที่สอง อนุมัติให้สร้างโรงไฟฟ้าSPP ใหม่แทนSPP เดิม 420 เมกะวัตต์ ก้อนทีสาม มีการทำเอ็มโอยูเพื่อนำไปสู่การซื้อขายไฟฟ้ากับ 5เขื่อน ที่สปป.ลาว อีก 3,876 เมกะวัตต์ และก้อนที่ 4 เมื่อเดือนที่แล้วอนุมัติให้สร้างโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมที่รับซื้อค่าไฟฟ้าแพงถึง 6 บาทต่อหน่วย ที่จะผลักภาระให้ประชาชน