ก้าวไกล ปัดเอาสูตร 500 ลั่นเข้าใจคลาดเคลื่อน ยันหาร 100 เท่านั้น แต่เสนอให้ใช้ทศนิยม 6 ตำแหน่งในการคำนวณจะลงตัวที่สุด

เมื่อวันที่ 9 ก.ค. 2565 นายณัฐวุฒิ บัวประทุม รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กรณีที่พรรคก.ก.ที่แสดงจุดยืนว่าต้องการหาร 100 แต่กลับไปโหวตหาร 500 ทั้งพรรค ว่าเป็นการเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ทางพรรคก้าวไกล ยืนยันชัดเจนว่าตั้งแต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จ จะต้องมีกฎหมายลูก สิ่งที่เรายื่นในกฎหมายลูกก็คือสูตรที่เห็นด้วยกับการหารด้วย 100 เนื่องจากเป็นเจตจำนงค์ของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และรัฐธรรมนูญมาตรา 91 ไม่สามารถตีความเป็นอย่างอื่นได้ ถึงจะมีข้อถกเถียงอยู่บ้างว่ายังมีรัฐธรรมนูญมาตราอื่นที่จะต้องคิดคำนึงถึงก็ตาม

นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า นี่คือประเด็นแรกที่ยืนยันว่าเราเห็นด้วยในการหาร 100 แต่ว่าในตอนยื่นกฎหมายลูกของ นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.ก้าวไกล ได้เสนอว่าหากใช้ 100 หารปกติ จะทำให้การคิดคำนวณอาจจะมีผลคลาดเคลื่อน จึงเสนอว่า ให้ใช้วิธีการคำนวณโดยใช้จุดทศนิยม 6 ตำแหน่ง ซึ่งจะทำให้คะแนนใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด และทางพรรคก้าวไกลก็สนับสนุน เพราะฉะนั้นจุดยืนของเราไม่ได้เปลี่ยน และยืนยันได้ว่าเรายังเห็นด้วยกับสูตรการหาร 100 แต่อาจจะมีรายละเอียดที่เห็นแตกต่างกันในเชิงการคำนวณเท่านั้นเอง

นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ความเข้าใจผิดเกิดจากคำถามในการลงมติ โดยมีความพยายามที่จะใช้เรื่องการหาร 500 เข้ามาพิจารณา แต่มีกรรมาธิการสงวนความเห็นไว้ ทางวิปฝ่ายค้านก็มีการประชุมเรื่องนี้กันหลายครั้ง และทางพรรคก้าวไกลยังยืนยันว่า สูตรคำนวณ ส.ส.ของนายปกรณ์วุฒิ น่าจะลงตัวที่สุด

นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ทางพรรคเพื่อไทย(พท.) ยังมีความกังวลว่าจะทำให้คำถามจะต้องเห็นด้วยกับสูตรการหาร 500 หรือไม่ จึงมีมติคร่าวๆ จะขอให้ประธานสภาแยกคำถามว่า เห็นด้วยกับการหารด้วย 100 หรือเห็นด้วยกับการหารด้วย 500 แต่ทางประธานสภาเห็นว่า ไม่สามารถถามคำถามแบบนี้ได้ จึงได้เริ่มจากคำถามว่าเห็นควรให้มีการแก้ไขหรือไม่เห็นควรให้มีการแก้ไข เมื่อใช้คำถามแบบนี้ทางพรรคก้าวไกล จึงต้องลงมติว่าเห็นควรให้มีการแก้ไขสูตรหาร 100 โดยใช้จุดทศนิยม 6 ตำแหน่ง

“ปรากฏว่าหลายคนไม่เข้าใจ กลายเป็นข่าวว่าเราเห็นด้วยกับการหาร 500 แต่อันที่จริงไม่ใช่ แต่เป็นการเห็นควรให้มีการแก้ไขตามสูตรที่เราเสนอ ส่วนคำถามที่ 2 ก็เหลือแต่เพียงว่าเห็นควรในสูตร 500 ของนพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ หรือเห็นควรในสูตรหาร 100 ของนายปกรณ์วุฒิ ซึ่งพรรคฝ่ายค้านส่วนใหญ่ก็สนับสนุนสูตรหาร 100 ของนายปกรณ์วุฒิ เป็นหลัก” นายณัฐวุฒิกล่าว

เมื่อถามถึงการเตรียมตัวอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคว่าถึงขั้นตอนไหนแล้ว นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนสุดท้าย ได้จำนวนคนที่จะอภิปรายชัดเจนแล้ว ในส่วนของระยะเวลาในการอภิปราย แต่เดิมพรรคฝ่ายค้านคาดการณ์ว่าจะได้เวลาอภิปราย 40 ชม. แต่ปรากฏว่าในการหารือกันกับวิปทั้ง 3 ฝ่าย สรุปว่าพรรคฝ่ายค้านจะได้เวลาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ 45 ชม. ซึ่งเวลาที่เพิ่มขึ้นจะทำให้การอภิปรายมีความเข้มข้น หนักแน่นมากขึ้น และอาจมีน้ำหนักที่จะนำไปสู่การชี้ให้เห็นว่านายกรัฐมนตรีและรัฐบาลนี้มีความผิดพลาดทั้งการบริหารรราชการแผ่นดิน การทุจริต และการผิดจริยธรรมอย่างไรบ้าง