'ก้าวไกล' ปลื้มกระแสพุ่ง โพลหนุน 'พิธา' นั่งนายกฯ เตรียมปราศรัยใหญ่ 22 เม.ย.

Home » 'ก้าวไกล' ปลื้มกระแสพุ่ง โพลหนุน 'พิธา' นั่งนายกฯ เตรียมปราศรัยใหญ่ 22 เม.ย.



‘ก้าวไกล’ ปลื้มกระแสพุ่ง โพลหนุน ‘พิธา’ เหมาะนั่งนายกฯ อันดับ 1 ยันไม่ประมาท เหตุ ‘แพทองธาร-เศรษฐา’ เตรียมปราศรัยใหญ่ 22 เม.ย. รวมพลโกยคะแนนทิ้งท้ายก่อนกาบัตร

17 เม.ย. 66 – ที่พรรคก้าวไกล นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล แถลงข่าวถึงความนิยมของพรรคก้าวไกลที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมากในช่วงเวลาที่ผ่านมา ว่า ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ผู้สมัคร ส.ส.เขตและบัญชีรายชื่อของพรรค ได้กระจายตัวไปลงพื้นที่ต่างๆ ซึ่งผลตอบรับของพรรคก้าวไกลตอนนี้ดีเกินคาด ต้องยอมรับว่าเป็นเพราะการทำงานหนักของเรา การเดินสายไปในที่ต่างๆ การลงพื้นที่ การนำเสนอนโยบาย การแสดงจุดยืนทางการเมือง

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

รังสิมันต์ กล่าวว่า จากการติดตามโลกออนไลน์ พบว่าในช่วง 30 วันย้อนหลัง 10 อันดับแรก ที่ประชาชนใช้ค้นหาจะเป็นการค้นหาหมายเลขของพรรคและผู้สมัคร ส.ส. ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าสนใจมาก เนื่องจากพรรคก้าวไกลได้รับการค้นหาเป็นอันดับหนึ่งมากกว่าทุกพรรคการเมือง

เมื่อพูดถึงหมายเลขของผู้สมัคร ส.ส. แบบแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อ ต้องยอมรับว่าสิ่งที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำลังทำอยู่สร้างความกังขาให้กับพี่น้องประชาชน อย่างไรก็ตามเพื่อให้เกิดการที่ง่ายในการเข้าถึงผู้สมัคร พรรคก้าวไกลได้จัดเตรียมเครื่องมือที่เป็นเว็บไซต์ โดยสามารถดูผลงาน อัพเดตการทำงานของพรรค สามารถตรวจสอบนโยบายกว่า 300 นโยบายได้ ซึ่งจะเปลี่ยนประเทศไทยทุกมิติ

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องผลโพล สำนักข่าวมติชน ร่วมกับสำนักข่าวเดลินิวส์ สำรวจกลุ่มตัวอย่างผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งผลออกมาว่านาย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นมาก ส่วนหนึ่งเกิดจากการที่พรรคก้าวไกลมีโอกาสนำเสนอจุดยืน วิธีการทำงาน การประกาศนายกแคนดิเดตนายกฯ รายชื่อผู้สมัครทั้งแบบเขตและบัญชีรายชื่อ นโยบายที่จะมอบให้กับประชาชน

“ต้องพูดจากใจไปถึงพี่น้องประชาชนว่าสิ่งที่เราทำมาทั้งหมดและได้รับการตอบรับดีขนาดนี้ พวกเราพรรคก้าวไกลขอขอบคุณพี่น้องประชาชนอย่างมาก ที่ให้ความเชื่อมั่นต่อพวกเรา ทำให้พวกเราหายเหนื่อย และผมก็ยืนยันว่าสิ่งที่พวกเราทำมาทั้งหมดสะท้อนถึงความตั้งใจที่เราต้องการทำให้การเมืองดี ไม่ซื้อสิทธิ์ขายเสียง ไม่รณรงค์ด้วยนโยบายแบบหนึ่งและทำแบบหนึ่ง” นายรังสิมันต์ กล่าว

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า พรรคก้าวไกลต้องทำงานหนักกว่านี้ เพราะหากดูรายละเอียดของโพล จะพบว่าผลรวมของ นายเศรษฐา ทวีสิน และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยมีคะแนนรวมกันมากกว่า นายพิธา

“เรายังเหลือเวลาอีก 27 วันเพื่อที่จะสร้างความมั่นใจกับพี่น้องประชาชน ต้องใช้โอกาสนี้ส่งสารไปถึงแฟนคลับ พี่น้องประชาชนว่าเราจะเปลี่ยน 27 วันให้พรรคก้าวไกล ทำงานหนักขึ้นให้ประเทศเปลี่ยนแปลงได้จริง” นายรังสิมันต์ กล่าว

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า พรรคก้าวไกล จะมีงานใหญ่ในวันที่ 22 เม.ย.นี้ เป็นเวทีทัพใหญ่ก้าวไกล ปราศรัยโค้งสุดท้าย นำโดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ช่วยหาเสียงพรรค นายปิยบุตร แสงกนกกุล ผู้ช่วยหาเสียงพรรค นายเซีย จำปาทอง ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 4 และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช ผู้ช่วยหาเสียงพรรค

ซึ่งจะเป็นหาเสียงโค้งสุดท้ายของพรรค โดยเป็นการส่งสัญญาณถึงผู้สมัครทุกคนรวมถึงผู้สนับสนุนของพรรคก้าวไกลทุกคนที่อยู่ทั่วประเทศให้ช่วยกันใช้เวลาที่เหลืออย่างไม่ย่อท้อในการหาเสียง ตนยอมรับว่าเป้าหมายในการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยไม่ใช่เรื่องง่าย จำเป็นจะต้องได้รับแรงสนับสนุนจากทุกภาคของประเทศโดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกลจะทำให้มั่นใจว่าทำให้ชนะถล่มลาย ไม่ให้ตกหล่นแม้แต่เขตเดียว

เมื่อถามถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ วิจารณ์นโยบายแจกเงินที่อาจส่งผลกระทบในอนาคต โดย นายรังสิมันต์ กล่าวว่า พรรคก้าวไกลมีนโยบายรัฐสวัสดิการ ซึ่งเป็นสวัสดิการที่ทุกคนควรจะได้ เปรียบเสมือนตาข่ายรองรับเมื่อเราล้ม

“มันเป็นสิทธิพื้นฐานของพลเมืองชาวไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่เราพยายามจะทำ คนในสังคมอาจจะยังไม่เข้าใจในแนวคิดเรื่องนี้ แล้วคิดว่าทุกอย่างเป็นเรื่องของการแจก ทุกอย่างเป็นเรื่องของการให้ ทั้งที่ความเป็นจริงเป็นสิ่งที่ประชาชนต้องได้รับอยู่แล้วจากการเป็นพลเมืองของประเทศ”
นายรังสิมันต์ กล่าว

นายรังสิมันต์ ยังกล่าวถึงบัตรเลือกตั้ง ว่า การมีบัตร 2 ใบที่เลือกคนและพรรค ทำให้ประชาชนใช้สิทธิ์เลือกตั้งง่าย แต่ในความจริงกลับเป็นเรื่องยากกว่าเดิม พร้อมตั้งคำถามว่า การประชาสัมพันธ์ของ กกต. มีมากน้อยแค่ไหน

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ