“ก้าวไกล” เตรียมจัดระดมความเห็นทั่วประเทศ หวังกำหนดอนาคตใหม่พรรค ตีกลองสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า ด้าน”เลขาฯพรรค” ลั่น เป้าหมายใหญ่เป็นรัฐบาลสมัยหน้า

วันที่ 7 ส.ค. 65 ที่พรรคก้าวไกล ได้จัดกิจกรรม “เขียนอนาคตใหม่ ก้าวไกล NEXT” เพื่อการวางรากฐานของพรรคก้าวไกลต่อไป นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ก้าวไกล NEXT คือ โปรเจคในการปฏิรูปพรรค และเปิดโอกาสให้ประชาชนกำหนดทิศทางอนาคตให้พรรคก้าวไกลเดินต่อไป จะให้การดำเนินการในการเลือกตั้งครั้งต่อไปของพรรคดีขึ้น แต่ถ้าตอบด้วยใจ ก้าวไกล NEXT คือการตามหาอนาคตใหม่ให้กับพรรคก้าวไกล ทั้งมิติที่มุ่งไปสู่อนาคต และมิติที่มุ่งกลับไปยังอดีต

ซึ่งมิติที่นำไปสู่อนาคตคือ สิ่งที่ผ่านมาพรรคก้าวไกลในช่วงตลอด 2 ปีที่ผ่านมาจะไม่เพียงพอที่จะนำพรรคก้าวไกลไปสู่อนาคต ฉะนั้นเราจะต้องทำงานให้หนักขึ้น และในมิติกลับสู่อดีตคือตั้งแต่มีการตั้งพรรคอนาคตใหม่ ตนได้พูดคุยกับนายธนาธรจึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อมสรุปได้ 3 ข้อของการที่ประเทศไทยจะสามารถไปต่อคือ 1.ยุติราชการรวมศูนย์ 2.การทลายทุนผูกขาด และ3.ปฏิรูปกองทัพ และอีกข้อหนึ่งคือการทำพรรคการเมืองให้เป็นของประชาชน มวลชนจริงๆ มีฐานรากที่เข้มแข็ง โดยไม่ได้เป็นพรรคการเมืองของคนใดคนหนึ่ง

นายพิธา กล่าวว่า เราจะเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนกับการที่จะปฏิรูปพรรคใน 7 มิติ ได้แก่ 1.ผู้แทนที่ท่านอยากเห็นคืออะไร 2.สื่อสารของพรรค 3.การนำเสนอนโยบาย 4. งานสภา,กรรมาธิการ 5.การทำงานในพื้นที่ 6. สมาชิกและอาสาสมัคร และ7.การระดมทุน โดยเราจะจัดเป็นกิจกรรมTownhall ทั่วประเทศ

ซึ่งจะเริ่มกิจกรรมวันที่ 9 ส.ค.นี้ที่ จ.เชียงใหม่ ภาคเหนือ วันที่ 13-14 ส.ค. ภาคอีสาน วันที่ 20-21 ส.ค.ภาคใต้ และใหญ่สุดสันที่ 28 ส.ค. จัดที่กรุงเทพฯ และช่องทางการรับฟังผ่านออนไลน์ด้วย ซึ่งเราระดมความคิดเห็นทั้ง 7 มิตินี้เพื่อที่จะนำไปสู่การเปิดแคมเปญใหญ่ตีกลองเข้าสู่ศึกเลือกตั้ง ในวันที่ 9 เดือน9ให้สมกับที่เป็นพรรคก้าวไกล

ด้าน นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ของพรรคก้าวไกลในการเลือกตั้งครั้งหน้า เราตั้งเป้าหมายประการแรกคือ เป็นรัฐบาลให้ได้ ซึ่งรัฐบาลภายใต้ระบอบประยุทธ์ 8 ปีที่ผ่านมาบอบช้ำและตกต่ำทุกด้าน ดังนั้นทางรอดทางเดียวของประเทศไทยในอนาคตเริ่มตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไปคือการที่ฝ่ายประชาธิปไตยเข้าไปพลิกขั้วรัฐบาล แทนระบบประยุทธ์ให้ได้

ประการที่สองพรรคก้าวไกลจะต้องขยายส.ส.เขต ให้ได้มากที่สุดและมีส.ส.เขตทุกภูมิภาค เราต้องการเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลจึงจำเป็นต้องมีส.ส.เขตมาก และประการที่สามในการเลือกตั้งครั้งหน้ามีความหมายมากกว่าการที่ทำให้ได้เป็นส.ส.แต่ความหมายที่สำคัญของพรรคคือ การต่อยอดและความหวังที่ประชาชนสามารถร่วมกันเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ได้ผ่านระบบรัฐสภา

นายชัยธวัช กล่าวต่อว่า การปฏิรูปพรรคครั้งใหญ่จะนำไปสู่ระบบการทำงานที่เก็บบทเรียนความผิดพลาด และจุดแข็งความสำเร็จในอดีตเพื่อทำให้พรรคก้าวไกลตอบสนองความต้องการของประชาชนได้มากกว่า 3-4 ปีที่ผ่านมา และการปฏิรูปพรรคจะนำไปสู่การรีเฟรชภาพลักษณ์ และการจดจำของประชาชนที่มีต่อพรรคก้าวไกล

เพื่อเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งครั้งหน้า แน่นอนว่าพรรคก้าวไกลจะแตกต่างจากการเลือกตั้งที่ปี2562 ที่ตอนนั้นเป็นในนามพรรคอนาคตใหม่ที่ป็นพรรคการเมืองน้องใหม่ สดใหม่ แต่ ณ ตอนนี้พรรคก้าวไกลไม่ใช่น้องใหม่ในสนามการเลือกตั้งไทยอีกต่อไปแล้ว แต่เราเป็นพรรคการเมืองที่ได้พิสูจน์การทำงานให้ประชาชนได้เห็นแล้วว่าพรรคก้าวไกลเป็นพรรคที่ทำงานอย่างเป็นระบบเป็นทีม ใช้ความรู้ความสามารถในการทำงาน และใช้ความกล้าหาญในการทำงาน