“ก้าวไกล” ชี้ เป็นหนี้ BTS ต้องรีบใช้ อย่าให้เป็นเงื่อนไขขยายสัมปทาน ชี้ ต้องมีความโปร่งใส เปิดเผยสัญญาให้สาธารณะรู้ยอดหนี้จริง
เมื่อวันที่ 22 พ.ย. นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ทำการสื่อสารคลิปวิดิโอทวงถามหนี้รถไฟฟ้าสายสีเขียวกว่า 4 หมื่นล้านบาท ว่า
ลำดับแรกต้องตอบให้ชัดว่า จะเอาอย่างไรกับการขยายสัมปทานออกไปอีก 30 ปี ว่าจะเอาหรือไม่เอา ซึ่งตนและพรรคก้าวไกล เคยแสดงความเห็นอย่างละเอียดไปแล้วว่า ไม่ควรขยายสัญญาสัมปทานและควรเริ่มต้นแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างอย่างเป็นระบบได้เสียที
นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า แก้ปัญหาตั๋วร่วมและค่าโดยสารร่วมอย่างจริงจัง หรืออย่างน้อยหากจะปะผุปัญหาต่อไปอีก 30 ปี ก็ต้องโปร่งใส ชี้แจงตัวเลข กระแสเงินสด ให้ได้ว่า ทุนใหญ่ไม่เอากำไรเกินควรและเปิดเผยสัญญาระหว่างกรุงเทพธนาคมกับ BTS และหากรัฐบาล และ กทม. ชัดเจนว่า ไม่ขยายสัมปทานไปอีก 30 ปี ก็ควรจ่ายหนี้ไม่ปล่อยให้ปัญหาคาราคาซัง เพราะ กทม. บอกว่า พร้อมจ่าย อย่างน้อยก็ในส่วนของส่วนต่อขยายหนึ่ง
นายสุรเชษฐ์ กล่าวต่อไปว่า ติดหนี้ ต้องจ่าย แต่ต้องตรวจสอบด้วยว่า ยอดถูกต้องหรือไม่ สัญญาส่วนต่อขยายที่แอบไปทำกันถึงปี 65 ชอบธรรมหรือไม่ ต้องเอามาเปิดเผยต่อสาธารณะและตัดสินเสียทีว่าเป็นการหลีกเลี่ยง พรบ.ร่วมทุน หรือไม่
“นี่ยังไม่นับรวมการขอขยายสัมปทานไปอีก 30 ปีด้วย ม.44 โดย ทหารการเมือง และเงินที่หายไปจากการเบี้ยวหนี้ โดยอดีตผู้ว่าฯ ควรเร่งแก้ปัญหา ไม่ควรปล่อยให้คาราคาซัง เพราะหนี้จะยิ่งพอกพูน “ นายสุรเชษฐ์ กล่าว