'ก้าวไกล' จี้ถาม 'วราวุธ' ปมส่วยอุทยานฯ เผยครั้งนี้หลักฐานคาตา แฉยับมีจ่ายรายเดือน-รายปี

Home » 'ก้าวไกล' จี้ถาม 'วราวุธ' ปมส่วยอุทยานฯ เผยครั้งนี้หลักฐานคาตา แฉยับมีจ่ายรายเดือน-รายปี


'ก้าวไกล' จี้ถาม 'วราวุธ' ปมส่วยอุทยานฯ เผยครั้งนี้หลักฐานคาตา แฉยับมีจ่ายรายเดือน-รายปี

‘ก้าวไกล’ จี้ถาม ‘วราวุธ’ ปมส่วยอุทยานฯ เผยครั้งนี้หลักฐานคาตา แฉยับมีจ่ายรายเดือน-รายปี ซื้อขายตำแหน่ง ในส่วนต่างๆ หนักสุด 20 ล้านบาท

วันที่ 30 ธ.ค.65 นายมานพ คีรีภูวดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงกรณีอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ถูกจับข้อหาเรียกรับสินบนโยกย้ายและรักษาตำแหน่งข้าราชการ ว่า การเรียกรับสินบนเพื่อซื้อขายตำแหน่งในหน่วยงานต่างๆ นั้นมีทั่วไปในหลายกระทรวง แต่สำหรับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนั้น มีการซื้อขายตำแหน่งและเรียกค่าคงตำแหน่งไว้สำหรับหัวหน้าอุทยานแห่งชาติและหัวหน้าหน่วยงานต่างๆ ในกรม

โดยมีการส่งส่วยและรับส่วยกันในลักษณะรายปีงบประมาณและรายเดือนด้วย ที่ผ่านมาทราบว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์ในกรมอุทยานฯ หากใครต้องการอยู่ในตำแหน่งสูงๆ ก็ต้องจ่ายเงินที่เรียกเป็นกิโลกรัม โดย 1 กิโลกรัมเท่ากับ 1 ล้านบาท เรียกเก็บตั้งแต่ 5 แสน-20 ล้านบาท โดยเฉพาะอุทยานทางทะเลที่ทำเงินเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีผลประโยชน์จากการท่องเที่ยวจำนวนมาก

นายมานพ กล่าวว่า ขอย้อนถามไปถึง นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ถึงกรณีข่าวเมื่อเดือนกันยายน 2562 ในขณะที่นายวราวุธเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งใหม่ๆ มีข้อร้องเรียนว่าอธิบดีกรมอุทยานฯ ในขณะนั้นเรียกเก็บส่วยถึง 600 ล้านบาท และจ่ายไปแล้ว 300 ล้านบาท โดยตอนนั้นนายวราวุธได้ปฏิเสธ แต่มาครั้งนี้อธิบดีถูกจับได้คาหนังคาเขาจากเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานและพบเงินสดเป็นจำนวนมาก ซึ่งสอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่มีการร้องเรียนเมื่อครั้งก่อน

“จึงอยากถามท่านรัฐมนตรีว่า ครั้งนี้ท่านจะปฏิเสธอย่างไรว่าไม่มีการรับส่วยกันจริง เพราะจับได้คาหนังคาเขาหลักฐานครบ และคำถามที่สำคัญกว่านั้นคือ ท่านมีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการรับส่งส่วยกันแบบนี้หรือไม่ อยากฟังคำตอบชัดๆ ว่าท่านจะตอบว่าอย่างไรต่อ” นายมานพกล่าว

นายมานพ กล่าวต่อว่า ส่วนรัฐมนตรีบอกว่าไม่อยากให้ข้าราชการเสียขวัญกำลังใจจากเหตุการณ์ดังกล่าว ขออธิบายใหม่ว่า คนที่เสียขวัญนั้นคงไม่ใช่ข้าราชการ เพราะข้าราชการที่ซื่อสัตย์สุจริตจะกลับยิ่งมีขวัญกำลังใจในการทำงานมากขึ้นเพราะได้มีการทลายเครือข่ายเรียกรับส่วยไปแล้ว ส่วนคนที่เสียขวัญกำลังใจก็คงจะมีแต่คนทุจริตเท่านั้น จึงอยากถามท่านด้วยว่ากำลังใจยังอยู่ดีหรือไม่

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ