ก้าวไกลได้ประโยชน์มากสุด! อดีตกกต.ฟันธงสูตรหาร 500 ดึงสติพรรคจิ๋ว อย่าดีใจ

Home » ก้าวไกลได้ประโยชน์มากสุด! อดีตกกต.ฟันธงสูตรหาร 500 ดึงสติพรรคจิ๋ว อย่าดีใจ


ก้าวไกลได้ประโยชน์มากสุด! อดีตกกต.ฟันธงสูตรหาร 500 ดึงสติพรรคจิ๋ว อย่าดีใจ

สมชัย ชี้สูตรหาร 500 ก้าวไกลได้ประโยชน์มากสุด อาจโกยส.ส.บัญชีรายชื่อถึง 30 คน ตึงสติพรรคเล็ก อย่าเพิ่งดีใจ คะแนนต่ำสุดอาจเป็นแสน

เมื่อวันที่ 7 ก.ค. 2565 นายสมชัย ศรีสุทธิยากร โฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง และอดีตกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า หาร 500 ใครได้ประโยชน์ สูตรการคำนวณจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อในระบบจัดสรรปันส่วนผสม หรือ MMP ได้รับความเห็นชอบในวาระที่สอง ของการประชุมร่วมของรัฐสภา ด้วยคะแนนเสียง 354 ต่อ 162 งดออกเสียง 37 และไม่ลงคะแนน 4 เสียง

1.ภายใต้ระบบนี้ พรรคที่ชนะในระบบเขตมาก จะได้บัญชีรายชื่อน้อยลง ส่วนพรรคที่แพ้เลือกตั้งในระบบเขต หากมีคะแนนนิยมในบัตรใบที่สองมาก จะได้รับการจัดสรร ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อมาก

2.พรรคก้าวไกล อาจเป็นพรรคที่ได้ประโยชน์จากระบบนี้มากที่สุด โดยอาจมี ส.ส.บัญชีรายชื่อได้ถึง 30 คน

3.พรรคเพื่อไทย แม้จะได้บัญชีรายชื่อน้อยลง แต่จะไม่ถึงขนาดเป็นศูนย์ เพราะคราวก่อนเป็นระบบบัตรใบเดียว และพรรคเพื่อไทยส่งผู้สมัครเพียง 2 ใน 3 ของจำนวนเขตทั้งหมด หากคราวนี้ส่งลงครบ 400 เขต น่าจะมีส.ส.บัญชีรายชื่อได้จำนวนหนึ่ง

4.พรรคจิ๋ว อย่าเพิ่งคิดว่าจะได้อานิสงค์จากระบบนี้ เนื่องจากเค้กก้อนเล็กลง ดังนั้น แม้คะแนนเฉลี่ยเบื้องต้นคือ ประมาณ 70,000 คะแนน แต่การคำนวณ จำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อจากทุกพรรคในรอบแรก จะเกินจำนวน 100 คน ดังนั้น ต้องใช้บัญญัติไตรยางค์ เพื่อปรับให้ลงมาเป็นร้อยคน คะแนนต่ำสุดจึงอาจสูงขึ้น โดยอาจต้องมีคะแนนเสียง 100,000 เสียงจึงจะได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 1 คน

5.พรรครัฐบาล มีเวลาเหลืออีก 6-8 เดือน ในการสร้างคะแนนนิยมให้สูงขึ้น หากคะแนนนิยมดีขึ้นกลายเป็นพรรคใหญ่ อย่าหาเรื่องกลับไปสูตรหาร 100 อีกล่ะ คุณลุง

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ