พิจารณ์ อึ้ง ยอดงบผูกพันซื้ออาวุธทัพเรือ เพิ่ม 600 ล้าน ข้องใจเอาไปซื้อเรือดำน้ำหรือไม่ แฉพบเอกสารขาวคาดแดง ไม่แจงรายละเอียด คาดใช้พรางงบซื้ออาวุธ
เมื่อวันที่ 30 พ.ค. ที่รัฐสภา นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ระหว่างวันที่ 31 พ.ค. – 2 มิ.ย.ว่า ตนเตรียมอภิปรายงบกระทรวงกลาโหม ซึ่งปีนี้ลดลง แต่มีการเพิ่มขึ้นของงบบุคลากรภาครัฐ แสดงถึงความอุ้ยอ้ายของกำลังพลที่มีมากเกินไป จึงต้องดูในรายละเอียด
ทั้งนี้ กองทัพยังจัดงบแบบซื้อบวกซ่อมสูงขึ้น แม้บอกว่าต้องการประหยัดงบ แต่ต้องไปดูในเนื้อในว่าซ่อมอะไร เพราะก่อนหน้านี้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีข้อมูลว่า กองทัพบกซื้อรถบรรทุกยูนิม็อก ซึ่งพล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. เปลี่ยนจากซื้อเป็นซ่อม ทั้งที่ซื้อใหม่คันละ 2.1 ล้านบาท แต่ซ่อมคันละ 2 ล้านบาท จึงต้องดูว่าเป็นการใช้จ่ายงบอย่างมีประสิทธิภาพจริงหรือไม่
นายพิจารณ์ กล่าวต่อว่า ส่วนกองทัพเรือของบซื้ออาวุธลดลง คาดว่ามาจากกรณีเครื่องยนต์เรือดำน้ำที่จีนไม่สามารถส่งมอบได้ตามสัญญา ไม่ใช่เพราะกองทัพเรือต้องการลดงบซื้ออาวุธเอง นอกจากนี้งบปี 2565 ได้ตั้งงบผูกพันเพื่อซื้ออาวุธไว้ประมาณ 3.9 พันล้านบาท แต่ปรากฏว่าเอกสารงบปี 2566 ยอดสูงขึ้นเกือบ 600 ล้านบาท ทำให้ตัวเลขขึ้นถึง 4 พันกว่าล้านบาท จึงเป็นประเด็นว่าจะไปเอาเงินจากไหนมาจ่ายเพิ่มในส่วนนี้ และนำไปจ่ายในโครงการใด จึงเกิดการตั้งข้อสังเกตว่านำเงินไปจ่ายเรือดำน้ำลำที่ 2-3 หรือไม่
ครั้งนี้กระทรวงกลาโหมยังมีเอกสารฉบับสีขาวคาดแดง ที่ไม่เปิดเผยรายละเอียดมากเท่าที่ควร โดยเฉพาะในส่วนงบซื้ออาวุธ ที่ระบุเพียงตัวเลขว่าซื้อเท่าไหร่ จึงทำให้เห็นอะไรไม่มาก
