ก้อย อรัชพร เผยอยู่ก่อนแต่ง ไม่ใช่เรื่องผิด นิกกี้ น็อตหลุดโดนแซะไม่คู่ควร ตอบปมติดกล้องรอบบ้านส่องแฟน
หลังจากที่พิธีกรหนุ่มอารมณ์ดี นิกกี้ ณฉัตร จันทพันธ์ ตอบโต้กลับสุดเดือด คนที่มองว่าตนไม่เหมาะสมกับแฟนสาว ก้อย อรัชพร พร้อมกันนี้ยังยอมรับว่า อยู่ก่อนแต่งกับฝ่ายหญิงแล้ว แถมยังแฉด้วยว่าสาวก้อย ติดกล้องวงจรปิดรอบบ้าน เพื่อสอดส่องดูพฤติกรรมของตน
ล่าสุดมีโอกาสเจอ นักแสดงสาว ก้อย อรัชพร โภคินภากร ที่มาร่วมงานบวงสรวงเปิดตัว 5 ซีรีส์ดัง ของ ‘ทรู ซีเจฯ’ เรื่อง START-UP ที่อาคาร ทรูดิจิทัล พาร์ค สุขุมวิท 101 ซึ่งเจ้าตัวให้สัมภาษณ์ ถึงเรื่องแฟนหนุ่มน็อตหลุดเจอสะกิดใจคนแซะไม่เหมาะสมกับตน บอกภายนอก นิกกี้ ดูเฮฮา แต่บางมุมเป็นคนคิดมาก พร้อมเผยว่า อยู่ก่อนแต่งไม่ใช่เรื่องผิด เพราะอยู่ในวัยทำงานเลี้ยงครอบครัวได้ทั้งคู่ ส่วนตัวไม่ซีเรียสได้ศึกษาเรียนรู้กันก่อนตกลงปลงใจ
มีคนบอกว่า นิกกี้ ไม่เหมาะสมกับเรา? “ที่ไปถามเขาใช่ไหม นั่นเขาควบคุมได้แล้วนะ ถ้าเขาควบคุมไม่ได้ โอ้โห (ยิ้ม) พอพูดเสร็จเขารีบโทรมาหาเลยว่าน้อง พี่หลุดอ่ะ (หัวเราะ) แต่ก็รู้สึกว่าบางคำถามมันอาจจะไปทำให้เขารู้สึกไม่ดีเท่านั้นเอง งั้นก็เป็นสิ่งที่เขาคิดออกไป โดยส่วนตัวก้อยว่าไม่ได้ซีเรียส เขาก็ตอบในแบบที่เป็นเขาที่สุดค่ะ”
มีฟีดแบ็กเข้ามาไหมในคู่ของเรา? “ก้อยว่าโดยทั่วไปไม่ใช่แค่คู่ของก้อยหรอก ในความสัมพันธ์ทุกคู่ที่อยู่ในสื่อมันมีทั้งคนชอบและไม่ชอบอยู่แล้ว อย่างที่บอกถ้าเราเทคสิ่งนั้นมันก็ทำให้เราใช้ชีวิตยาก ก็ไม่ค่อยได้เทคค่ะ อ้าวไม่ชอบเลยเหรอ ทำไมอะ ชิลชิล ไม่ได้ซีเรียส (ยิ้ม) แต่ก้อยก็ไม่รู้ว่าเขาโดนเยอะไหม มันเลยทำให้พอถามปุ๊บมันก็เลยองค์ลงอะไรแบบนี้”
ปกติเขามาฟ้องเราไหมว่ามีข้อความเข้ามา? “ไม่เลย จริงๆ เขาเป็นคนใจเย็นนะ เห็นแบบนั้นคืออย่างที่บอกเวลาเขาอยู่หน้ากล้องเขาก็จะเล่นเฮฮา แต่พอเขาอยู่เขาก็จะนิ่งๆ ไม่มานั่งพูดอะไร (เขาคิดมากไหม?) เขาจะทำเป็นเหมือนไม่ได้คิดมาก แต่ว่าคิด แล้วก็อาจจะต้องระบายออกไปแต่พอระบายออกไปก็จบ พอตอนนั้นมันได้พูดออกไปแล้ว เขาก็รู้สึกว่าโอเค ไม่ได้อะไรแล้ว”
เขาพูดว่าอะไรบ้าง? “คือเขาไม่ได้บ่นหรอก แต่ก้อยว่าเวลาเราเจออะไรแบบนี้บ่อยๆ แน่นอนมันก็มีความรู้สึกแย่เกิดขึ้นอยู่แล้ว แต่บางทีเขาก็สงสัยว่าฉันไปทำอะไรผิดหรือเปล่า อาจจะมีบ้างแต่จริงๆ เขาเป็นคนเข้มแข็งมากอยู่แล้วค่ะ ไม่ซีเรียสหรอกค่ะ”
หลายคนจะมองว่าเขามีปมในใจหรือน้อยใจอะไรอยู่หรือเปล่า มีคนไปสะกิดนิดนึงเขาก็เลยเป็นแบบนั้น? “ปมมีทุกคน หนูก็มี (หัวเราะ) ไม่ เขาจะไม่ใช่ทางน้อยใจแต่เขาจะมันอะไรกันวะเฮ้ย (หัวเราะ) คือสไตล์เขาแหละ ก้อยว่าเขาไม่ได้เอาเก็บมาคิดแล้วทำให้เป็นมวลดำๆ ในตัว สมมติใครมากระทบเขา เขาก็แค่กระทบกลับไปแค่นั้นเองค่ะ ชิลชิล ไม่น้อยใจ”
เราปลอบใจเขายังไง? “ไม่ปลอบ ขำอย่างเดียว (หัวเราะ) ก็บอกว่า เฮ้ย คุณพี่ขึ้นอะไรคะ แต่เขาก็ฮาๆ พอเขาพูดเสร็จ เขารีบโทรมาบอก เราไม่ได้เทคมันเป็นเรื่องซีเรียส เขาก็ไม่ได้อะไรค่ะ”
เรื่องอยู่ก่อนแต่ง? “จริงๆ มีคนเคยถามหนู หนูก็จะพูดว่าหนูมีบ้านตัวเอง หมายถึงว่าเราต่างมีพื้นที่ของเรา แต่ว่าถ้าถามตอนนี้เราคบกันมาก็อยากรู้จักกันให้เยอะที่สุด ไม่ได้รู้สึกว่าต้องผ่านพิธีนี้ ในวัยนี้ของก้อยทำงานได้เอง เลี้ยงครอบครัวได้ เขาก็ด้วย รู้สึกว่ายิ่งเรารู้จักกันเยอะเท่าไรมันก็ยิ่งดี เพราะอาจจะมีบางคนที่ยังศึกษากันไม่เยอะพอ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างอาจจะต้องทำให้เขามาอยู่ด้วยกัน บางทีมารู้ทีหลังก็เลิก แค่รู้สึกว่าทำทุกอย่างให้มันง่ายค่ะ”
เราเองก็ไม่ได้ซีเรียสว่าคนจะมอง? “ถ้าเป็นตัวก้อยก้อยไม่ซีเรียส แต่ถ้าที่บ้านเขาเข้าใจ แต่ถ้าเป็นยาย ผู้ใหญ่บางคนเขาก็จะรู้สึกว่าไม่ใช่สิ่งที่เขาคุ้นชิน แต่สำหรับก้อยมองว่าไม่ใช่เรื่องผิด ข้อแรกเลย มันเป็นความสะดวกใจและสบายใจของทั้งคู่ และเราก็ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน สำหรับก้อยมันเป็นเรื่องที่โอเคนะที่เราจะรู้จักใครสักคนจริงจังก่อนที่เราจะตกลงปลงใจก่อนไปใช้ชีวิตกับเขาจริงๆ จนวันสุดท้ายของชีวิตอะไรแบบนี้”
แล้วเราติดกล้องวงจรปิดรอบบ้านเขาจริงไหม? “ดูหมา (หัวเราะ) ไม่อย่างนั้นถ้าเราทำแบบนั้นมันจะอึดอัด เราต้องคิดว่า เฮ้ย น้องจะตกบันไดหรือเปล่า กินข้าวหรือยัง เพราะจุดที่เราติดก็คือ ห้องรับแขก บันได หน้าบ้าน ป้องกันโจรขโมยอะไรแบบนี้ (ใครจะคิดไหมว่าเราติดส่องดูพฤติกรรม?) มันตลกมากเลย บางทีหนูไม่อยู่ก็จะเห็นเขานั่งอยู่ หนูก็แกล้งๆ หมุนซะหน่อย มันรับรู้เราดูอยู่นะ บางทีก็ให้มันเป็นเรื่องตลกค่ะ แต่หลักๆ ดูหมา จริงๆ”
ไว้ใจเขาขนาดไหนเพราะเขาทำงานกับผู้หญิงค่อนข้างเยอะ? “ไว้ใจค่อนข้างมาก เพราะก้อยเชื่อว่าอะไรแบบนี้มันค่อนข้างจะง่ายมากเลยที่จะรู้ หมายถึงว่าถ้าความรู้สึกเปลี่ยนไป มีคนอื่นหรือเกิดอะไรขึ้นก้อยมองว่าเราจะรับรู้ได้อยู่แล้ว ยิ่งเราอยู่กับเขาตลอด เรารู้สึกว่าให้มันเกิดขึ้นเองเถอะ คิดไปไม่ได้ช่วยอะไร ก็พยายามจะปัจจุบันที่สุดถ้ามันจะเกิดขึ้นก็เกิด”
เขามีเกรงๆ บ้างไหม? “ปกติเราจะไม่ยุ่งงานของกันและกัน มันก็จะมีบางอันที่เราไม่ได้เตรียมใจไว้ก่อน บางทีเรารู้สึกว่า ณ โมเมนต์นั้น มันทำให้เรารู้สึกไม่ดี แล้วเราก็แค่รู้สึกว่าเราต้องพูดความรู้สึกนี้ให้เขารู้ แต่พอเราได้สติและคิดได้ว่านี่คืองานของเขา จะไม่งี่เง่า เราแค่ต้องแชร์ออกไป เราเกิดความรู้สึกนี้แค่นั้นเอง”
แต่เขาก็เกรงใจให้เกียรติเราเวลาสัมภาษณ์? “เราเกรงใจกัน ก้อยว่ามันเป็นพื้นฐานของการคบกันอยู่แล้วที่จะต้องมี จริงๆ เขาน่ารักกับก้อยมาก (ถ้าเรารู้ก่อนก็จะไม่เป็นอะไร?) สิ่งหนึ่งที่บอกเขาตลอดว่า จริงๆ คนเราคบกันมันง่ายมากถ้าเราคิดว่าอีกคนทำสิ่งนั้นแล้วเรารู้สึกแย่ มันน่าจะเป็นบรรทัดฐานบางอย่างได้ ซึ่งเราคิดว่ามีสิทธิ์ที่จะรู้สึกแย่ แค่ถามว่าสิ่งนี้โอเคไหม สำหรับหนูมันน้อยมากที่หนูจะไม่โอเค แต่ถ้าเรามารู้เองมันตั้งรับไม่ทัน ไม่ได้มีสติมากพอมันก็จะเกิดความรู้สึกบ้าง”
เป้าหมายในอนาคตเริ่มชัดเจนขึ้นหรือยัง? “ค่อยๆ (ยิ้ม) (มีคิดหรือยังว่าอีกสักกี่ปี?) ถ้าหนูนะ รู้สึกว่าไม่ค่อยได้คิดเท่าไหร่ หมายถึงว่าก็เห็นภาพบ้างแต่ไม่ได้กดดันตัวเองว่าต้องภายในเท่านั้นเท่านี้ เดี๋ยวมันจะเกิดก็เกิดเอง เพราะจากความสัมพันธ์ที่เคยมีมาแพลนไว้มันไม่เป็นแบบนั้นไง ก็รอดูต่อไป (ไม่มีสายฟ้าแลบนะ?) ชีวิตหนูหนูก็ไม่รู้เหมือนกัน (หัวเราะ) แต่ว่า ณ ตอนนี้คิดว่าทั้งคู่ทำงานเยอะมาก หนูคิดว่าไม่ใช่เร็วๆ นี้แน่นอน”