เตือนแล้วนะ การกินเครื่องปรุง 3 อย่างนี้มากเกินไป ก็เหมือนกับการ “ทำร้ายตับ” แต่กลับมีติดครัวทุกบ้าน

ตามรายงานจากเว็บไซต์ ตับเป็นที่รู้จักในนาม “โรงงานบำบัดเคมี” ของร่างกาย เนื่องจากมีปฏิกิริยามากมายที่เกี่ยวข้องกับอวัยวะภายในนี้ อีกทั้งผลิตฮอร์โมนและสารประกอบอื่นๆ ให้กับร่างกายอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เมื่อตับถูกทำลายย่อมส่งผลต่ออวัยวะภายในอย่างมาก

และสาเหตุของความเสียหายของตับส่วนใหญ่มาจากนิสัยในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะนิสัยการกิน แม้แต่การใช้ “เครื่องปรุง” ซึ่งเป็นสิ่งที่คุ้นเคยในมื้ออาหาร แต่หากใช้มากเกินไปหรือใช้อย่างไม่ถูกต้อง ก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างร้ายแรง บางกรณีอันตรายต่อตับมากกว่าแอลกอฮอล์เสียอีก ทั้งนี้ ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ SOHA ระบุถึงเครื่องปรุง 3 ชนิด ที่ใช้มากเกินไปจะเป็นอันตรายต่อตับ

1. ซีอิ๊ว

เนื่องจากมีรสชาติที่อร่อย “ซีอิ๊ว” จึงเป็นทั้งน้ำจิ้มและเป็นเครื่องปรุงอาหารยอดนิยม แต่หากใช้มากเกินไปก็จะส่งผลต่อสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อตับ เพราะซีอิ๊วได้มาจากกระบวนการหมักถั่วเหลือง ในระหว่างกระบวนการนี้จะผลิตแอมโมเนียมไนไตรต์ ซึ่งเป็นสารที่อาจก่อให้เกิดมะเร็ง

ตับเป็นอวัยวะหลักในการล้างพิษของร่างกาย ดังนั้น แม้จะรู้ว่าแอมโมเนียมไนไตรท์เป็นพิษ แต่ร่างกายก็ยังส่งไปที่ตับเพื่อกำจัดออกไป หากใช้ซีอิ๊วมากเกินไป หมายความว่าจะเกิดการสัมผัสกันมากขึ้นระหว่างตับกับแอมโมเนียมไนไตรท์ ทำให้กระบวนการแบ่งเซลล์ตับหยุดชะงักและถูกยับยั้ง หากเกิดขึ้นเป็นเวลานานตับจะค่อยๆ ถูกทำลาย และกลายเป็นพังผืด ซึ่งส่งผลต่อการทำงานของตับอย่างรุนแรง

2. น้ำมันปรุงอาหารเน่าเสีย ทอดน้ำมันซ้ำหลายครั้ง

หลายคนเชื่อว่า “น้ำมันปรุงอาหาร” จะไม่เสื่อมสภาพไม่ว่าจะทิ้งไว้นานแค่ไหนก็ตาม อย่างไรก็ตาม หากปล่อยไว้เป็นเวลานานและจัดเก็บไม่ถูกต้อง น้ำมันก็จะสูญเสียคุณภาพและมีกลิ่นฉุน ดังนั้น เมื่อได้กลิ่นแปลกๆ ทางที่ดีไม่ควรใช้ต่อไป เพราะหากเสื่อมสภาพจะเกิดอะฟลาทอกซินขึ้นมา สารพิษนี้อาจทำให้เกิดมะเร็งตับได้ในระดับความเข้มข้นน้อยกว่า 1 มก. ซึ่งเป็นอันตรายต่อตับอย่างมาก

น้ำมันปรุงอาหารที่หมดอายุจะค่อยๆ สลายตัวและผลิตออกไซด์ อนุมูลอิสระ และสารอื่นๆ จำนวนมาก ซึ่งสามารถทำลายเซลล์ตับและทำให้เกิดโรคตับได้ ขณะเดียวกันการใช้น้ำมันทอดซ้ำหลายๆ ครั้ง แม้จะประหยัดเงินในชีวิตประจำวันได้มากกว่า แต่ก็อาจส่งผลเสียร้ายแรงต่อตับได้เช่นกัน น้ำมันชนิดนี้เมื่อใช้อย่างต่อเนื่องสามารถปล่อยสารเคมีพิษได้หลายชนิด เช่น อะโครลีน อะคริลาไมด์ เตตระไฮโดรไพแรน ทำให้เซลล์ตับเสียหายได้

3. ใช้เครื่องปรุงและเกลือเข้มข้นจำนวนมาก

แม้ว่าเครื่องปรุงจะจำเป็นสำหรับกระบวนการปรุงอาหารเพื่อเพิ่มรสชาติ แต่หากใช้มากเกินไปอาจทำให้ตับเสียหายได้ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับสาร Safrole ที่มีอยู่ในเครื่องเทศเป็นหลัก ซึ่งถูกระบุว่าเป็นสารก่อมะเร็ง หากใช้เพียงเล็กน้อยจะไม่ส่งผลต่อร่างกาย แต่การสะสมในระยะยาวในตับ จะทำให้เกิดความเสียหายได้ง่าย แม้กระทั่งป่วยด้วยมะเร็งตับ

ขณะเดียวกันก็ต้องระมัดระวังในการรับประทาน “เกลือ” ด้วย เพราะหากดูดซึมโซเดียมมากเกินไปจะทำให้ความดันเพิ่มขึ้น เป็นอันตรายต่อตับและนำไปสู่โรคตับต่างๆ ตามที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุ คนทั่วไปควรรับประทานเกลือเพียง 5 กรัมต่อวันเท่านั้น เพื่อสุขภาพที่ดี