ต้องส่งกำลังใจพลังบวกให้กันอย่างต่อเนื่อง สำหรับข่าวคราวเกี่ยวกับอาการป่วยด้วยโรคไข้เลือดออก ของ วิ วิรดา น้องสาวพระเอกลิเกเงินล้าน กุ้ง-สุธิราช วงศ์เทวัญ หลังต้องเข้ารักษาตัวมานานกว่า 1 เดือน
โดยล่าสุด กุ้ง สุธิราช ได้ออกมาอัปเดตอาการป่วยของ วิ วิรดา ผ่านรายการ โต๊ะหนูแหม่ม กับพิธีกรตัวแม่ หนูแหม่ม สุริวิภา ถึงนาทีชีวิตที่ยังคงต้องเฝ้าดูอาการอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการปล่อยเพลงสร้างขวัญใจกำลังใจ วอนปาฏิหาริย์ ด้วยความหวังที่ว่า จะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นอีกครั้ง…
ซิงเกิ้ล วอนปาฏิหาริย์ ส่งกำลังใจดีๆ ให้น้องสาว ?
“ผมทำเพลง วอนปาฏิหาริย์ เพื่อเป็นกำลังใจให้น้องสาว เพลงนี้เพิ่งทำมาช่วงที่น้องป่วยหนักๆ ช่วงที่น้องป่วยก็คิดว่า ตอนนั้นเราทำทุกวิถีทางที่พอจะทำได้ เราก็เลยคิดอยากจะทำเพลงให้น้อง เหมือนวอนให้กับทุกๆ คนช่วยกันสร้างปาฏิหาริย์ เพื่อช่วยให้ทุกคนช่วยกันสวดมนต์ภาวนา ช่วยกันให้กำลังใจให้ปาฏิหาริย์มันเกิดขึ้นจริง”
ย้อนเล่าอาการที่น้องเป็นมันหนักขนาดไหน ?
“น้องวิเป็นไข้เลือดออก ไข้เลือดออกมีทั้งหมด 4 สายพันธุ์แต่น้องวิเป็นสายพันธุ์แรก เป็นสายพันธ์ุที่ระบาดมากที่สุดในประเทศไทย ความรุนแรงถ้าเป็นในเด็กจะไม่มาก แต่ถ้าเป็นในผู้ใหญ่มันจะรุนแรงมาก วิไม่เคยเป็นมาก่อนนี้เป็นครั้งแรกของเค้า”
คิดว่าสาเหตุมันมาจากตรงไหน ?
“น่าจะเริ่มมาจากตอนนั้นเราไปรับงานเล่นลิเกด้วยกัน ซึ่งน่าจะเป็นที่เสี่ยงครับ มันอยู่ในเขตร่องสวนอะไรแบบนี้ คุณหมอบอกว่าอาจจะเป็นยุงตามร่องสวน ซึ่งถ้าย้อนไป ณ ตอนนั้นน่าจะเป็น 2 ที่ คือที่จังหวัดชัยนาท และก็ตรงอัมพวา ซึ่งเราก็ไม่รู้หรอกว่าเราไปโดนมาที่ไหน อาจจะไม่ใช่ 2 ที่นี้เลยก็ได้ มาจากยุงลายที่มีเชื้อพาหะไข้เลือดออก เรารู้หรอกว่าน้องไปโดนมาเมื่อไหร่ แต่เริ่มมีอาการเมื่อวันที่ 25-26 อาการเริ่มจากการมีไข้แล้วเค้าปวดท้อง เขาพูดกับผมว่าหรือเค้าจะเป็นติดเชื้อจากทางเดินปัสสาวะหรือเปล่า เค้าก็เลยคามหายาฆ่าเชื้อจากเรา เราบอกว่าไม่มี ไปหาหมอเถอะ แล้วเค้าก็กลับไปพักอยู่ที่บ้านโป่งแล้วก็เริ่มมีไข้ ไข้สูงเหมือนหัวทิ่มและหน้ามืด”
ต้องรักษาตัวนานพอสมควร ?
“คือหลังจากที่ผมไปเยี่ยมกลับมา แม่ที่เฝ้าไข้อยู่ก็โทรมาบอกว่าวิเป็นอะไรไม่รู้ ปลุกไม่ตื่น ผมก็ถามว่าปลุกไม่ตื่นยังไง เค้าบอกว่าเมื่อกี้พยาบาลมาวัดไข้ ไข้มันขึ้น 40.7 แล้วเค้าก็เลยรีบเช็ดตัว จนเหลือ 39 แล้วแม่ก็ถามวิว่ากินอะไรมั้ย เค้าไม่ตอบ จนมันมีอาการเหมือนชัก ตามันเหมือนอาการคนชัก จนหมอและพยาบาล ก็มารุมตรวจอาการตอนนั้น เค้าโทรมาหาเรา เราก็ใจเสียเพราะว่าเราไม่ได้อยู่ตรงนั้น เรากำลังไปงาน และพอน้องไม่รู้สึกรู้สึกตัวเราก็ใจไม่ค่อยดีแล้ว”
จากวันนั้นถึงวันนี้รักษาอาการมานานขนาดไหนแล้ว ?
“รักษาตัวมา 1 เดือนแล้ว ตลอด 1 เดือน ช่วงแรกเป็นอะไรที่วิกฤตมากครับ หมอโทรมาบอกว่าอาจจะต้องใส่ท่อช่วยหายใจ ระหว่างนั้นก็เจาะเส้นเลือดใหญ่ด้วยเพื่อให้ยากระตุ้น เพราะว่าตอนนี้หัวใจมันเหมือนทำงานได้ไม่ค่อยดี หลังจากนั้นผมก็ถามหมอว่าจะย้ายโรงพยาบาลได้ไหม หมอเค้าก็บอกว่าได้ ช่วงนั้นวิกฤตมากเพราะหัวใจทำงานน้อย แล้วใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา ก็ไม่รู้สึกตัวตั้งแต่วันนั้น ทุกวันนี้ก็ยังนอนไม่รู้สึกตัว ตอนนี้ย้ายโรงพยาบาลแล้ว
แต่กว่าจะย้ายโรงพยาบาลได้ ช่วงแรกที่วิกฤตมันไม่สามารถที่จะย้ายได้ทันที เพราะว่ามันเสี่ยงกับการเดินทาง ตอนย้ายไปโรงพยาบาลนั้นก็หัวใจเต้นอ่อนมา 20 เปอร์เซ็นต์ ต้องทำบอลลูนหัวใจโดยด่วน เพื่อช่วยพยุงให้หัวใจทำงาน ซึ่งตอนนี้ทุกอย่างมันเริ่มดีขึ้นเรื่องหัวใจ เอาบอลลูนออก หัวใจเริ่มเต้นเองเหมือนคนปกติ แต่การหายใจยังหายใจเองไม่ได้ แต่น้องวิไม่มีอาการตัวแดง ผื่นจ้ำแดงขึ้นตามตัวเลย เค้าบอกว่ามันเป็นอาการของโรคแทรกซ้อน ซึ่งเชื้อมันหมดไปแล้ว หมดไปตั้งแต่ 10 กว่าวันแรก”
ขออนุญาตถามถึงคุณแม่ ท่านว่ายังไงบ้าง ?
“ตั้งแต่ช่วงแรกที่แม่เห็นอาการน้องไม่ดีขึ้น มันจะทรุดมันจะทรงอยู่ตลอด ก็เลยบนว่าถ้าน้องหาย แม่กับวิจะบวชโกนหัว แต่ว่าเค้ารอไม่ได้แล้ว เค้าอยากส่งบุญให้น้องเดี๋ยวนี้เลย ตัดสินใจบวชเลย ทุกคนก็ให้กำลังใจ ผลัดกันไปเยี่ยม ผมก็วิ่งเข้าออกโรงพยาบาลทุกวัน งานลิเกก็ยังต้องทำ ไปยกเลิกก็ไม่ได้ วิมันทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่เรามาตลอด เพราะเราเป็นพระนางคู่กัน ซึ่งผมก็รับงานตอนน้องวิกฤติอยู่ผมก็ยังต้องทำงาน ใจไม่ดี หน้าเวทีผมร้องมีความสุข เพราะยังไม่แถลงข่าวให้ใครรู้ แต่หลังเวทีเราร้องไห้เลย (เสียงสั่นเครือ)”