กินเจ ไม่ได้แค่บุญ แต่ยังได้สุขภาพที่ดีขึ้นด้วย แต่ต้องกินอย่างถูกต้อง
การกินเจ คือการเลี่ยงการเบียดเบียนสัตว์เพื่อเป็นบุญกุศลแก่ชีวิตในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ใครจะทำในช่วง 10 วันของทุกปี หรือจะทำตลอดไปก็ได้ แต่ต้องกินโปรตีนให้เพียงพอต่อร่างกาย เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดสารอาหาร
หากรับประทานอาหารเจอย่างถูกต้องแล้ว การกินเจไม่ได้แค่บุญเท่านั้น แต่ยังได้สุขภาพที่ดีขึ้นในช่วงระยะเวลาสั้นๆ อีกด้วย เผลอๆ คุณอาจติดใจจนกินต่อยาวๆ ก็ได้
“กินเจ” กับ 5 ประโยชน์ดีๆ ต่อสุขภาพ
-
กินเจ ช่วยให้ระบบย่อยอาหารได้หยุดพักหลังการทำงานหนักมาโดยตลอด
แน่นอนว่าการรับประทานอาหารที่ย่อยยาก เช่น เนื้อสัตว์ใหญ่ เนื้อสัตว์ที่ติดไขมัน ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานหนัก ดังนั้นเมื่อเรางดการรับประทานเนื้อสัตว์ ก็ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ง่ายขึ้น และยังลดความเสี่ยงท้องอืดท้องเฟ้อได้ด้วย
-
ล้างพิษให้กับร่างกาย
การล้างพิษ หรือที่เราเรียกว่า ดีท็อกซ์ คือการกินอาหารที่มีกากใยอาหารเยอะๆ ทำให้ร่างกายกระตุ้นการทำงานของระบบขับถ่าย แล้วเราก็จะถ่ายได้อย่างสะดวก อาจไม่ถึงการ “ล้างพิษ” ทุกชนิด แต่ก็ช่วยลดปัญหาท้องผูกได้ดีเลยทีเดียว แต่ต้องเป็นการกินเจที่เน้นผักผลไม้มากกว่าแป้งนะ
-
ลดความเสี่ยงโรคไม่ติดต่อมากมาย
การรับประทานผักผลไม้มากขึ้น หลีกเลี่ยงอาหารประเภทเนื้อแดง เนื้อสำเร็จรูป ช่วยลดความเสี่ยงของโรคไม่ติดต่อเรื้อรังหลายอย่าง เช่น มะเร็ง ลดคอเลสเตอรอล และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ แต่ต้องเป็นการกินเจควบคู่ไปกับการจำกัดอาหารประเภทแป้งและน้ำตาลด้วยนะ
-
เพิ่มภูมิคุ้มกันโรค
การรับประทานผักผลไม้มากขึ้น เป็นการบังคับให้เราได้กินอาหารที่มีแร่ธาตุและวิตามินมากขึ้นไปโดยปริยาย ซึ่งช่วยบำรุงร่างกายให้การทำงานของภูมิคุ้มกันโรคทำงานได้ดีขึ้นไปด้วยนั่นเอง
-
ลดน้ำหนักได้ด้วย
หากใช้จังหวะกินเจในการลดน้ำหนัก ก็สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงกินผักผลไม้ให้มากขึ้น และกินโปรตีนที่มาจากพืช ซึ่งเป็นโปรตีนไขมันต่ำที่ดีต่อร่างกาย แต่ต้องกินโปรตีนให้มาเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เสริมด้วยธัญพืชต่างๆ และลดการกินอาหารเจที่ทำจากแป้งไม่ขัดสี และไขมันด้วย
กินเจ ใช้เวลาแค่ 10 วันต่อไป หากใครจะถือโอกาสนี้ในการปรับวิธีกินอาหารให้ดีต่อสุขภาพมากขึ้น ก็สามารถทำได้ แต่หากใครที่โรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนกินเจ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการขาดสารอาหาร