กาแล็กซี่ เลเซอร์ (Galaxy Racer) องค์กรด้านอีสปอร์ต ไลฟ์สไตล์ และคอนเทนต์ชั้นนำระดับโลก ได้ประกาศขยายธุรกิจในวงการอีสปอร์ตและเกมในประเทศไทย ตามรายงานระบุว่าประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดเกมที่เติบโตเร็วที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีผู้เล่นเกมประมาณ 18.3 ล้านคน จึงเป็นหนึ่งในตลาดเกมที่สำคัญที่สุดในภูมิภาค และนับเป็นโอกาสทางธุรกิจที่พร้อมขยายตัวสำหรับ Galaxy Racer

ในปี 2563 อุตสาหกรรมเกมของไทยสร้างรายได้กว่าพันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเกาะกระแสอีสปอร์ต Galaxy Racer Thailand ได้ลงทุนในการดำเนินงานในประเทศไทยโดยมีแผนที่จะเพิ่มการเข้าถึงตลาดผ่าน 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ การผลิตคอนเทนต์และกิจกรรมอีสปอร์ต คอนเทนต์ครีเอเตอร์ ทีมอีสปอร์ต สินค้าของที่ระลึก Limited Edition และค่ายเพลง ซึ่งทำให้ให้ Galaxy Racer เป็นขุมพลังด้านคอนเทนต์ระดับโลก และเป็นผู้นำตลาดในอุตสาหกรรมด้านดิจิทัลคอนเทนต์

Galaxy Racer ก่อตั้งขึ้นในปี 2562 มีเป้าหมายที่จะสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภคที่ต้องการบริโภค คอนเทนต์ ควบคู่ไปกับการเป็นองค์กรที่ผลักดันเศรษฐกิจด้านอีสปอร์ต เกม และคอนเทนต์ครีเอเตอร์ของประเทศไทยที่กำลังเติบโต Galaxy Racer Thailand นำทีมโดย มิช เอสกัวร์ร่า ซีอีโอ ประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ร่วมด้วย นางสาวอธิติ สุจริต ผู้บริหาร ประจำประเทศไทย ซึ่งในปัจจุบันบริษัทมีคอนเทนต์ครีเอเตอร์กว่า 100 คนทั่วโลก ทำให้เข้าถึงผู้ติดตามกว่า 500 ล้านคน และมียอดวิวกว่า 2.5 พันล้านครั้งต่อเดือน ซึ่งรวมถึงคอนเทนต์ครีเอเตอร์ต่างๆ เช่น Mokuchii สตรีมเมอร์เกมชื่อดัง, FZK Frozenkiss เจ้าหญิงแห่งวงการ RoV: Arena of Valor, Mild Koonchorn ครีเอเตอร์วิดิโอการเล่นเกม และHelen Hex แอร์โฮสเตสสาวที่มีความสนใจในการสตรีม

มิช เอสกัวร์ร่า ประธานเจ้าหน้าที่บริหารประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ Galaxy Racer กล่าวว่า “ศักยภาพการเติบโตของอีสปอร์ตและเกมของประเทศไทยตอกย้ำให้ประเทศไทย เป็นตลาดหลักสำหรับการเติบโตของ Galaxy Racer ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กลุ่มคนเก่งที่มีพรสวรรค์ในด้านเกมและอีสปอร์ต คอนเทนต์ครีเอเตอร์ ตลอดจนผู้ชมเกมและอีสปอร์ตจำนวนมากจะเปิดโอกาส ใหม่ให้กับอุตสาหกรรมนี้ในประเทศไทย Galaxy Racer เล็งเห็นความสนใจที่เพิ่มขึ้นในหมู่เยาวชนไทย และ มหาวิทยาลัยในไทยหลายแห่งแสดงความสนใจ ที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมนี้เพื่อให้ความรู้แก่นักศึกษาเพิ่มมากขึ้น เกี่ยวกับโอกาสในการทำงานในอุตสาหกรรมเกม”

การศึกษาด้านอีสปอร์ตกำลังเป็นที่แพร่หลายมากขึ้นในมหาวิทยาลัยของไทย โดยมหาวิทยาลัยเปิดสอนหลักสูตรสำหรับนักศึกษาเพื่อให้เรียนรู้เกี่ยวกับอุตสาหกรรมและงานเกี่ยวกับทักษะเฉพาะที่จะเป็นประโยชน์ต่อการประกอบอาชีพในอุตสาหกรรมนี้ อีกทั้งยังช่วยเปลี่ยนมุมมองและความคิดของประเทศไทยเกี่ยวกับอุตสาหกรรมอีสปอร์ตและเกมอีกด้วย

นางสาวอธิติ สุจริต ผู้บริหารประจำประเทศไทย กาแล็กซี่ เลเซอร์ ได้เป็นวิทยากรเกี่ยวกับอุตสาหกรรมอีสปอร์ตและเกมที่มหาวิทยาลัยศรีปทุมกล่าวว่า “ที่ Galaxy Racer Thailand การขยายธุรกิจของเรานำไปสู่การสร้างโอกาสในด้านอาชีพที่มากขึ้นสำหรับผู้ต้องการทำงานในด้านนี้ การขยายธุรกิจของเราในประเทศไทยเป็นช่องทางให้เราสามารถเข้าถึงบุคคลที่มีความสนใจและมีพรสวรรค์ด้านอีสปอร์ตและเกม เราต้องการสร้างความสัมพันธ์อย่างยั่งยืน กับมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนหลักสูตรด้านอีสปอร์ตและเกม เพื่อให้นักศึกษาได้มีแพลตฟอร์มในการแสดงทักษะและเติบโตในบริษัทและอุตสาหกรรมผ่านกลุ่มธุรกิจหลักในธุรกิจของเรา นอกจากนี้ยังเตรียมจัด 3 อีเวนต์พิเศษ ประกอบด้วย จัดการแข่งขันอีสปอร์ต กิจกรรมพิเศษที่รวมกันระหว่างเกมกับ ไลฟ์สไตล์ ส่วนกิจกรรมสุดท้าย ยังเปิดเผยไม่ได้ แต่มีเซอร์ไพรส์แน่นอน”

ในขณะที่ประเทศไทยกำลังก้าวไปสู่ระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมอีสปอร์ตและเกมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Galaxy Racer กำลังขยายการดำเนินงานอย่างมีกลยุทธ์ในประเทศไทย เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาลในการสร้างเศรษฐกิจอีสปอร์ตและเกมที่แข็งแกร่งขึ้นสำหรับการพัฒนาในอนาคตเพื่อคนรุ่นใหม่

“Business Ecosystem นี้ขยายตัวจนมีความหลากหลายอย่างรวดเร็ว โดยอุตสาหกรรมอีสปอร์ตและเกมพยายามส่งเสริมการท่องเที่ยวอีสปอร์ต ซึ่งประเทศต่างๆ จะดึงดูดนักท่องเที่ยวผ่านการแข่งขันอีสปอร์ตระดับนานาชาติ และในบางบริษัทถึงกับใช้เมตาเวิร์สด้านเกม (gaming metaverse) เพื่อขยายผลทางการตลาด ทั้งนี้ความเชี่ยวชาญของ Galaxy Racer ในการผลิตคอนเทนต์รวมไปถึงการจัดงานอีสปอร์ตและเกมจะมีส่วนช่วยอย่างมากต่อภาคการท่องเที่ยวภายในประเทศ”
นางสาวอธิติ กล่าวเสริม

Galaxy Racer กำลังปูทางสู่ความสำเร็จในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยการลงทุนเชิงกลยุทธ์และการร่วมเป็นพันธมิตรในภูมิภาค Galaxy Racer มุ่งเน้นสนับสนุนการพัฒนาเฉพาะด้านในแต่ละประเทศและใช้ประโยชน์จากโอกาสทางธุรกิจ สำหรับอุตสาหกรรมอีสปอร์ตและเกม โดยพยายามที่จะใช้ประโยชน์จากแรงสนับสนุนเหล่านี้เพื่อเข้าถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมากขึ้น และขยายการดำเนินงานทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้