ปัตตานี นอกเครื่องแบบห้ามพกปืนในที่สาธารณะ พบจะมีโทษ ขณะเจ้าหน้าที่ เกรงความปลอดภัยจากเหตุไม่สงบ หวั่นตร.ตายเกลื่อน เหตุคนร้ายรู้ตร.ไม่มีปืน
3 พ.ย. 65 – จากเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นมาในช่วงที่ผ่านมา ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จังหวัดหนองบัวลำภู หรือ เหตุยิงในผับ จ.ตรัง ซึ่งทั้ง 2 เหตุการณ์สร้างความสูญเสียต่อชีวิต และยังสร้างความเสียหายต่อองค์กร โดยเฉพาะหน่วยงานตำรวจ
ทำให้ สำนักงานตำรวจภูธรภาค 9 ได้มีคำสั่งให้ สถานีตำรวจภายใต้สังกัด ให้กำหนดมาตรการในการใช้อาวุธปืน เพื่อให้เกิดความเหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ และเพื่อลดความระหวาดระแวงของประชาชน ที่ไม่ไว้วางใจในการใช้อาวุธปืน ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากเหตุการณ์ความรุนแรงที่ปรากฎเป็นกระแสตามสื่อสังคมเป็นจำนวนมาก
ล่าสุด พ.ต.อ.คมกฤช ศรีสงค์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหนองจิก จ.ปัตตานี ได้มีคำสั่งสถานีตำรวจภูธรหนองจิก เรื่องของการใช้อาวุธปืน ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน และข้อสั่งการของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อการรักษาวินัย เคร่งครัดต่อการใช้อาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนของทั้งของทางราชการและส่วนตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด สถานีตำรวจภูธรหนองจิก
ได้แก่ 1. ห้ามพกพาอาวุธปืน ทั้งของราชการและได้รับอนุญาตส่วนตัว (ปืนส่วนตัว) เว้นแต่ได้ดำเนินการถูกต้องครบถ้วนตาม กฎมาย ระเบียบ และคำสั่งที่กล่าวถึงขั้นต้น 2. กรณี ออกปฏิบัติการนอกเขตพื้นที่รับผิดชอบ สามารถกระทำได้โดยต้องมีคำสั่งให้ปฏิบัติหน้าที่ หรือได้รับอนุญาต จากผู้บังคับบัญชาผู้มีอำนาจทุกกรณี
และ 3. ผู้ที่พักผ่อน (ผลัดพัก) ลา หรือไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการได้ และต้องออกจากพื้นที่ รับผิดชอบของผู้อนุญาต เพื่อความปลอดภัยให้นำอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ของทางราชการ คืนเก็บไว้ในคลังอาวุธ เว้นแต่มีเหตุจำเป็น เฉพาะกรณีที่ผู้บังคับบัญชาโดยตรง รับรองแล้ว โดยลงประจำวันเป็นหลักฐาน
พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า กำชับเรื่องการใช้อาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีข้อบังคับที่ชัดเจนอยู่แล้ว แต่ที่ได้เน้นย้ำก็คือ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในชุดนอกเครื่องแบบ หรือเจ้าหน้าที่ที่ไม่ได้อยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ เมื่อไปในที่สาธารณะ หรือเข้าติดต่อในส่วนของทางราชการ อย่านำอาวุธปืนติดตัวไปอย่างเด็ดขาด เพราะจะสร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชนได้ว่า เป็นเจ้าหน้าที่จริงหรือไม่
นอกจากนี้ ยังได้กำชับให้สถานีตำรวจในแต่ละสถานีคอยประเมินพฤติกรรม และสภาพจิตใจของเจ้าหน้าที่แต่ละนาย ว่ามีพฤติกรรม รวมถึงสภาพจิตใจว่าเป็นอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละสถานีว่า จะมีมาตรการในการป้องกันเรื่องนี้อย่างไร ซึ่งถ้าหากพบว่า เจ้าหน้าที่ประพฤติตัวไม่เหมาะสม พกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะโดยไม่ได้มีการสวมเครื่องแบบ หรือไม่ได้อยู่ในการปฏิบัติหน้าที่ หากพบเจอก็จะมีการลงโทษตามระเบียบที่วางไว้
จากมาตรการดังกล่าว ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ หนองจิก กล่าวว่า มาตรการที่ออกมา ถือว่าดีหากมองตามหลักการ ระเบียบ แต่ในความเป็นจริง ยังมีช่องว่างที่อาจเกิดปัญหา พูดกันตรงๆ ตำรวจไม่ต้องไปไหนเลยจะดี เพราะหากเกิดออกนอกพื้นที่ แล้วมีเหตุการณ์ซึ่งหน้า ถ้าไม่ช่วย ระงับเหตุ ทำให้ ผิดมาตรา 157 คือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
งานนี้ตำรวจตายเกลื่อนแน่ ก็ไม่เห็นด้วย ตำรวจเองก็ไม่มีความปลอดภัย เพราะคนร้ายรู้จักตำรวจทุกคน เราอยู่ที่สว่าง และการประกาศออกมา ทำให้คนร้ายรู้ด้วยว่า ตำรวจหนองจิก ห้ามพกปืน ง่ายต่อการโจมตี
สมมุติเราออกนอกพื้นที่ก็จริง แต่ระหว่างทางไป-กลับ เราอยู่พื้นที่ เราไม่มีปืน เกิดคนร้ายมาโจมตี ก็โดนอีก จะให้เอาปืนไปฝากระหว่างเขตแดน ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้อีก