จากกรณี วันกะเทยผ่านศึก ที่ซอย สุขุมวิท 11 กลายเป็นประเด็นร้อนที่สังคมจับตามอง โดยเรื่องราวดังกล่าวถูกแบ่งออกเป็น 2 เคส คือ 1.กะเทยปินส์ยกพวกรุมทำร้ายกะเทยไทย 20 ต่อ 6 และ 2.กะเทยไทยยกพวกสางแค้นกู้คืนศักดิ์ศรี โดยความคืบหน้าในเคส กะเทยปินส์ยกพวกรุมทำร้าย นั้น เบื้องต้น พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.น.5 เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาชาวฟิลิปปินส์ไปแล้ว 2 คน “ข้อหาร่วมกันทำร้ายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กาย” โดยพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี จะนำผู้ต้องหาไปส่งฟ้องต่อศาลแขวงปทุมวันในวันนี้ นอกจากนี้จะติดตามตัวผู้ก่อเหตุอีก 1 รายที่กำลังหลบหนีอยู่ เชื่อยังอยู่ในประเทศไทย

ในส่วนคดี กะเทยฟิลิปปินส์ชิงทรัพย์ นั้น เบื้องต้นยังต้องเรียกผู้เสียหายมาให้ปากคำเพิ่มเติม เพราะยังให้การเรื่องพฤติการณ์ความผิดไม่ชัดเจนว่าเป็นการกระชากกระเป๋า หรือทำหล่นหาย จึงต้องสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วน กะเทยปินส์หนีออกนอกปะเทศ ไปแล้วนั้น ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนว่าเป็นผู้ก่อเหตุด้วยหรือไม่ หากพบว่ากระทำความผิด ก็จะติดตามตัวมาลงโทษให้ได้

• สว.สมชาย จี้หน้าที่ กกต. คือเด็ดหัว ‘ก้าวไกล’ ปม ล้มล้างการปกครอง
• งานเข้า! คดีบุกรุก ครอบครองปรปักษ์ อัยการสั่งฟ้องผู้ต้องหา 3 ข้อหาหนัก
• เพื่อนบ้านแฉ ฝรั่งต่อยหญิงไทย มีพฤติกรรมสุดแปลก จนไม่มีใครอยากเข้าใกล้

ส่วนของ คดีกะเทยไทย พบมีกะเทยฟิลิปปินส์ 1 คนถูกรุมทำร้าย เรื่องนี้ผู้เสียหายชาวฟิลิปปินส์ยื่นขอเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย เพราะไม่ได้ติดใจที่จะดำเนินคดี ซึ่งหากสามารถไกล่เกลี่ยกันได้ คดีจะจบในชั้นพนักงานสอบสวน ตามรายงานตอนนี้ยังไม่มีการพูดถึงเรื่องการเรียกค่าเสียหาย นอกจากนี้จะกะเทยไทย 6 คน ว่าประสงค์จะเข้าสู่ พ.ร.บ.ไกล่เกลี่ยหรือไม่ด้วย

ทั้งนี้ จากข้อกล่าวหากะเทยปินส์ “ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กาย” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 ผู้ใดทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่นนั้น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย อัตราโทษ คือ “จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”