กองปราบฯ บุกจับนายอำเภอคลองใหญ่ พัวพันค้าอาวุธปืน หิ้วเข้ากทม.-สั่งเด้งทันที

Home » กองปราบฯ บุกจับนายอำเภอคลองใหญ่ พัวพันค้าอาวุธปืน หิ้วเข้ากทม.-สั่งเด้งทันที


กองปราบฯ บุกจับนายอำเภอคลองใหญ่ พัวพันค้าอาวุธปืน หิ้วเข้ากทม.-สั่งเด้งทันที

กองปราบปราม บุกจับนายอำเภอคลองใหญ่ หลังพัวพันค้าอาวุธปืนเครือข่าย ‘เบล 1,000 กระบอก’ หิ้วตัวเข้ากทม. อธิบดีกรมการปกครอง สั่งเด้งเข้ากรุ

เมื่อวันที่ 19 ส.ค.65 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป.พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป.พ.ต.ท.ภาณุมาศ แสงส่ง ปฏิบัติราชการ รอง ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.พิเชต ชมมฌฑา สว.กก.2 บก.ป. พ.ต.ท.รัฐมนตรี พันชูกลาง สว.กก.3 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุมนายสุรเชษฐ์ แก้วคำ อายุ 51 ปี นายอำเภอคลองใหญ่ ต.คลองใหญ่ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด

ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่ จ.75/2565 ลง 16 ส.ค.2565 ข้อหา “เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้น การปฏิบัติมิชอบโดยเกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสาร กรอกข้อความลงในเอกสาร หรือดูแลเอกสาร กระทาการปลอมเอกสาร โดยอาศัยโอกาสที่ตนมีหน้าที่นั้น หรือรับรองเป็นหลักฐานว่าตนได้กระทาอย่างใดขึ้น หรือว่ากระทาอย่างใดได้ กระทำต่อหน้าตนซึ่งเป็นความเท็จ,

ร่วมกันจำหน่ายอาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืนสาหรับการค้า โดยไม่ได้รับ อนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ และร่วมกันส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งของที่ยังไม่ผ่านพิธีศุลกากร” ได้ที่บ้านพัก นายอำเภอคลองใหญ่ ต.คลองใหญ่ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด

จากการจับกุมสืบเนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบัน พบมีผู้นำอาวุธปืนที่ผิดกฎหมายมาใช้ก่อเหตุขึ้นหลายครั้ง ตามเหตุการณ์ต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นรวมทั้งยังพบว่าส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และตลาดมืดภายในประเทศ ที่จะพบในกลุ่มธุรกิจสีเทา ซึ่งผู้ใช้ไม่ได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน ทำให้ง่ายต่อการก่ออาชญากรรม ที่พบนำมาใช้กราดยิงขึ้นหลายครั้ง

พล.ต.ท.จิรภพ จึงสั่งการให้กองปราบฯ สืบสวนสอบสวนมาตั้งแต่ปี 2563 จนพบเครือข่ายค้าอาวุธปืนข้ามชาติ “เบล 1,000 กระบอก” ที่ส่งออกอาวุธปืนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน กระทั่งเมื่อวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจกองปราบฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ ปปง. ร่วมเปิดปฏิบัติการทลายเครือข่ายค้าอาวุธ “เบล 1,000 กระบอก”

โดยเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 21 จุดทั่วประเทศ พร้อมจับกุม นายดนุพล ยมพงษ์ อายุ 32 ปี อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หรือ “เบล 1,000 กระบอก” นายดงพล รุจิธรรมธัช อายุ 49 ปี นายอำเภอศรีราชา จ.ชลบุรี, นายสาวิตร เจียมจิระ อายุ 60 ปี อดีตนายอำเภอไทรโยค จ.กาญจนบุรี พร้อมตรวจยึดของกลางได้หลายสิบรายการ มูลค่ากว่า 50 ล้านบาท

ต่อมา พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป. สืบสวนสอบสวนเพื่อขยายผลการจับกุม จนพบขบวนการดังกล่าว มีเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องอีกด้วยคือ นายสุรเชษฐ์ ผู้ต้องหารายนี้ ซึ่งเป็นนายอำเภอคลองใหญ่

โดยขณะเกิดเหตุนายสุรเชษฐ์ ยังเป็นปลัดอาวุโสอำเภอศรีราชา จ.ชลบุรี พบมีพฤติการณ์เป็นผู้จัดทำใบอนุญาต ป.3 ให้กับเครือข่ายของนายเบล ซึ่งถือเป็นตัวการสำคัญของขบวนการ เนื่องจากเป็นข้าราชการปกครองระดับสูง ที่คอยอำนวยความสะดวกในการจัดทำใบ ป.3 เพื่อนำมาใช้ซื้ออาวุธปืนจากร้านขายปืนหรือไม่ก็ซื้อปืนในโครงการสวัสดิการ

พนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐาน ยื่นขอออกหมายจับต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ก่อนเข้าจับกุมพร้อมตรวจยึดของกลางโทรศัพท์มือถือ เอกสารหลายรายการ เช่น แบบใบ ป.4 ของบุคคลอื่น, สำเนาบัตรประจำตัวของบุคคลอื่นอีกกว่า 30 รายการ

เบื้องต้นสอบสวน นายสุรเชษฐ์ ยังให้การปฏิเสธ จึงนำตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางส่งให้พนักงานสอบสวน กก. 3 บก.ป. ดำเนินคดี

ด้าน พล.ต.ต.ปกรณ์ มณีปกรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.ตราด เปิดเผยว่า รับทราบเรื่องนี้แล้วจากการรายงานของตำรวจภูธร จ.ตราด และนำตัวนายสุรเชษฐ์เข้ากรุงเทพฯไปแล้ว ส่วนรายละเอียดของข้อหานั้น ไม่สามารถให้รายละเอียดได้ ต้องไปขอที่ฝ่ายปกครองหรือทางผู้ว่าราชการจ.ตราด ที่จะแถลงในเรื่องนี้เอง

ต่อมาเวลา 13.00 น. นายธนาคม จงจิระ อธิบดีกรมการปกครอง และคณะ เดินทางมาตรวจราชการที่อ.เขาสมิง โดยมี นายกัฬชัย เทพวรชัย รองผู้ว่าราชการจ.ตราด และนายอำเภอทั้ง 6 อำเภอ ยกเว้นนายอำเภอคลองใหญ่ ไม่ได้เดินทางมาร่วมประชุม

ซึ่งอธิบดีกรมการปกครองแจ้งถึงเรื่องที่เดินทางมาตรวจราชการที่จ.ตราด พร้อมสั่งการราชการในเรื่องกิจการอส.จังหวัดตราด ในเรื่องมาตรการควบคุมอาวุธปืนต้องตรวจบัญชีและตรวจอาวุธปืนให้ตรงกับจำนวนที่มี พร้อมมีมาตรการดูแลอย่าให้หายไปไหน

อย่างไรก็ตาม ในส่วนเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกับนายอำเภอคลองใหญ่ ที่ถูกตำรวจกองปราบปรามจับกุมไปดำเนินคดีเมื่อเช้าวันนี้นั้น อธิบดีกรมการปกครองไม่ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบ และเจ้าหน้าที่ระดับอำนวยการ ที่เดินทางพร้อมกับอธิบดีกรมการปกครอง ไม่ต้องการให้ผู้สื่อข่าวสอบถามในประเด็นนี้

โดยอ้างว่าทางอธิบดีกรมการปกครองสั่งย้ายนายอำเภอคลองใหญ่ ไปช่วยราชการที่กรมการปกครองแล้ว หลังจากได้รับรายงานข่าวแล้ว ตามคำสั่งกรมการปกครองที่ 1555/2565 เรื่องให้ข้าราชการช่วยราชการ โดยระบุว่า

“เพื่อประโยชน์ของทางราชการ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติ ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบ บริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2545 จึงให้ นายสุรเชษฐ์ แก้วคำ ตำแหน่งนายอำเภอ (ผู้อำนวยการสูง) อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด ช่วยราชการที่กรมการปกครอง

โดยมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ที่กองการเจ้าหน้าที่ กรมการปกครอง เป็นการประจำ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ.2565 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง สั่ง ณ วันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ.2565”

สำหรับนายสุรเชษฐ์ แก้วคำ มารับตำแหน่งเป็นนายอำเภอคลองใหญ่ เมื่อวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้เป็นปลัดอาวุโส ที่อำเภอคลองหาด จ.สระแก้ว, ปลัดอาวุโสที่อำเภอสัตหีบ จ.ชลบุรี ปลัดอาวุโสที่อำเภอศรีราชา จ.ชลบุรี และนายอำเภอคลองใหญ่ จ.ตราด

 

 

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ