สมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์ที่ 2 แห่งจอร์แดน ทรงปรากฏตัวต่อสาธารณชนในวันอาทิตย์ พร้อมกับพระอนุชาต่างพระมารดา เจ้าชายฮัมซาห์ ซึ่งถือเป็นการเสด็จร่วมกันครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดวิกฤติในราชวงศ์จอร์แดนสืบเนื่องจากข้อกล่าวหาต่อเจ้าชายฮัมซาห์

ภาพข่าวแสดงให้เห็นสมาชิกราชวงศ์ฮัชไมต์ของจอร์แดนรวมตัวกันที่สุสานหลวงเนื่องในโอกาสครบรอบ 100 ปีการก่อตั้งราชอาณาจักรจอร์แดน โดยทวิตเตอร์ของสำนักราชวังจอร์แดนเผยให้เห็นภาพสมาชิกราชวงศ์ พร้อมข้อความว่า “กษัตริย์อับดุลเลาะห์ที่ 2 ทรงเสด็จพร้อมกับมกุฎราชกุมารอัล ฮุสเซ็น และเจ้าชายฮัมซาห์ บิน อัล ฮุสเซ็น ไปยังสุสานของสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์ที่ 1”

ในภาพแสดงให้เห็นสมาชิกราชวงศ์ทุกพระองค์สวมชุดสามัญชน ยกเว้นเพียงมกุฎราชกุมารอัล ฮุสเซ็น ที่ทรงสวมชุดทหารเต็มยศมาร่วมงานนี้

ราชวงศ์จอร์แดนเผชิญวิกฤติครั้งสำคัญเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่รัฐบาลจอร์แดนกล่าวหาว่า เจ้าชายฮัมซาห์ พระอนุชาต่างพระมารดาของกษัตริย์อับดุลเลาะห์ที่ 2 และอดีตมกุฎราชกุมาร ทรงมีส่วนร่วมในการวางแผนสั่นคลอนความมั่นคงของราชอาณาจักรจอร์แดน

ทั้งนี้ เจ้าชายฮัมซาห์ทรงได้รับแต่งตั้งเป็นมกุฎราชกุมารเมื่อปี 2542 ตามที่พระราชบิดา คือสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์ที่ 1 ทรงรับสั่งไว้ก่อนสวรรคต แต่สมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์ที่ 2 ทรงเปลี่ยนให้เจ้าชายอัล ฮุสเซ็น พระราชโอรสพระองค์แรก ทรงขึ้นดำรงตำแหน่งนี้แทนเมื่อปี 2547

ในวิดีโอที่เผยแพร่โดยสำนักข่าวบีบีซีเมื่อวันที่ 3 เม.ย. เจ้าชายฮัมซาห์ทรงตรัสว่าพระองค์ถูกกักบริเวณ พร้อมกล่าวหากษัตริย์อับดุลเลาะห์ว่าฉ้อราษฎร์บังหลวงและไร้ความสามารถ

• รัฐบาลจอร์แดน สั่งขังอดีตรัชทายาท อ้างพยายามทำลายความมั่นคงของประเทศ

ต่อมา กระทรวงการต่างประเทศจอร์แดน กล่าวหาว่า มีกลุ่มผู้สมคบคิดกับชาวต่างชาติเพื่อบั่นทอนเสถียรภาพของจอร์แดน แต่มิได้ระบุว่าเป็นผู้ใด โดยข้อกล่าวนี้นำไปสู่การจับกุมบุคคลอย่างน้อย 16 คน

แต่กษัตริย์อับดุลเลาะห์ทรงตรัสเมื่อวันพุธที่แล้วว่า เจ้าชายฮัมซาห์ได้ลงพระนามในเอกสารรับรองว่าจะจงรักภักดีต่อกษัตริย์จอร์แดนหลังจากที่ได้มีการพูดคุยกันภายในราชวงศ์ และขณะนี้เจ้าชายฮัมซาห์ทรงประทับอย่างปลอดภัยภายในเขตวังของพระองค์ ถึงกระนั้นการสืบสวนข้อหาสั่นคลอนเสถียรภาพจะยังดำเนินต่อไป

ทางด้านสหประชาชาติออกมาแสดงความกังวลเมื่อวันศุกร์ (9 เม.ย.) ถึงการขาดความโปร่งใสในการสืบสวนข้อกล่าวหานี้

ที่ผ่านมา จอร์แดนถือเป็นหนึ่งในประเทศที่สนับสนุนชาติตะวันตกและเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยสันติภาพในตะวันออกกลาง อีกทั้งยังเป็นฐานที่ตั้งของกองทัพสหรัฐ และต้อนรับผู้ลี้ภัยจำนวนหลายล้านคนจากปาเลสไตน์และซีเรีย