ชลน่าน เชื่อรัฐบาลไปไม่รอด ได้กลิ่นรัฐประหาร เหตุอายหากยุบสภา-ปรับครม. เหน็บไปซาอุฯ เพราะเขาเปิดประเทศ เปรียบคนขี่อูฐยังคิดได้ แต่ขี่ควายคิดไม่ได้

เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2565 น.ที่รัฐสภา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์กรณี 21 ส.ส.ถูกขับออกจากพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) อาจมีปัญหาต่อการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติว่า ระบบรัฐสภาของเราเป็นระบบเสียงข้างมาก การเปลี่ยนแปลงตรงนี้ ทำให้สัดส่วนของเสียงข้างมากแปรปรวน ส.ส.ทั้ง 21 คน กลายเป็นตัวแปร เพราะมีผลต่อองค์ประชุม ขณะนี้ส.ส.ในสภามี 474 คน องค์ประชุมกึ่งหนึ่งคือ 238 คน ซึ่งส.ส.ทั้ง 21 คน สามารถแปรไปด้านใดด้านหนึ่งได้

ที่สำคัญเจตนารมณ์ของส.ส. 21 คน เมื่อแยกตัวออกมาแล้ว จะไม่ทำหน้าที่ให้กับฝ่ายเสียงข้างมาก จึงทำให้เสียงข้างมากที่มีอยู่ทำงานไม่ได้แน่ แล้วจะมาเอาฝ่ายค้านไปเป็นองค์ประชุม เราก็ไม่เห็นด้วย ดังนั้น ขึ้นอยู่กับรัฐบาลจะพิจารณาว่าจะทำอย่างไร ถ้าเขาเห็นแก่ประเทศชาติ เห็นแก่กฎหมายสำคัญที่จะเข้าสู่การพิจารณา ก็ควรพิจารณาให้ถี่ถ้วน ส่วนฝ่ายค้านเราพร้อมทำหน้าที่

เมื่อถามว่าหากกฎหมายสำคัญไม่ผ่านสภา จะเรียกร้องให้รัฐบาลรับผิดชอบหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ด้วยสามัญสำนึก ไม่จำเป็นต้องเรียกร้อง เพราะสิ่งที่เกิดขึ้น แม้กฎหมายที่ไม่ผ่านจะไม่ใช่กฎหมายการเงิน แต่หมายความว่าคุณไม่มีความพร้อมทำหน้าที่ฝ่ายบริหาร ก็ควรแสดงความรับผิดชอบต่อประชาชนใน 2 เรื่องคือ 1.นายกฯ ลาออก 2.ยุบสภา ซึ่งฝ่ายค้านพร้อมถ้านายกฯยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชนเพื่อตัดสินว่าควรมีเสียงข้างมากที่ดีกว่ามาทำหน้าที่บริหารประเทศ

แต่ไม่ควรใช้วิธีการที่ 3 คือการยึดอำนาจหรือรัฐประหาร เพราะมีกลิ่นออกมาว่าอาจจะออกแนวทางที่ 3 ซึ่งเราขอคัดค้านและเรียกร้องผู้มีอำนาจ อย่าได้คิดเอาวิธีการนี้ เราไม่มีอำนาจไปยับยั้งที่ไม่ให้ใช้วิธีการนี้ แต่ประเทศจะล่มจม สภาวะทุกอย่างจะย่ำแย่ไปกว่าเดิม ประชาชนจะขาดความเชื่อมั่น มีการลุกฮือต่อต้าน เกิดจลาจลและวุ่นวายไปหมด และต่างประเทศไม่ยอมรับ ขาดความเชื่อมั่น ใครจะคบค้าสมาคมกับประเทศไทย

“ ไปซาอุดิอาระเบีย โชว์ว่าเป็นผลงาน แต่ซาอุฯเขาต้องการเปิดประเทศ เพราะเห็นช่องทางว่าถ้าปิดประเทศเขาไปไม่ได้ ขนาดซาอุฯ ยังคิดเป็นเลย คนขี่อูฐยังคิดเป็นเลย แต่คนขี่ควายคิดไม่เป็น ไม่รู้เอาสมองควายมาใส่หรือเปล่า ผมไม่แน่ใจ” นพ.ชลน่าน กล่าว

เมื่อถามย้ำว่าปัจจัยใดที่จะไปสู่การรัฐประหาร นพ.ชลน่าน กล่าวว่า หากเกิดรัฐประหารจะเป็นการสืบทอดออำนาจโดยเบ็ดเสร็จ เพราะเขาก็ไม่กล้ายุบสภา เลือกตั้งแล้วประชาชนเป็นผู้ตัดสิน จะปรับครม.ก็อายไม่กล้า ประเภทยอมหัก ไม่ยอมงอ โอกาสประนีประนอมเป็นไปได้ยาก ดังนั้น ขอภาวนาและขอร้องอย่าได้คิดใช้วิธีการนี้ คืนอำนาจให้ประชาชนดีที่สุด เขาจะได้ตัดสินอนาคตของเขาได้