กลัววิ่งทับเส้นทาง 6ชายฉกรรจ์บุกบ้าน ทำร้ายอดีตผจก.โรงน้ำแข็ง ต่อหน้าลูกเมีย ครอบครัวผู้บาดเจ็บวอน เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเร่งจัดการ หวั่นไม่ปลอดภัย
จากกรณีที่เพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้รีเทริน์ part 3 โพสต์คลิปเหตุการณ์ มีกลุ่มชายฉกรรจ์ 6 คนบุกเข้ามาทำร้ายร่างกายหนุ่มรายหนึ่งจนได้รับบาดกเจ็บ ถึงในบ้านพักต่อหน้าคนในครอบครัวอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย โดยสาเหตุเบื้องต้นมาจาก ผู้บาดเจ็บลาออกจากโรงน้ำแข็งเก่า แล้วมาทำงานที่โรงน้ำแข็งแห่งใหม่เพราะใกล้บ้านมากกว่า จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันในโซเชียล ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าวันที่ 19 ส.ค.2565 ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ที่บ้านหลังเกิดเหตุ ในพื้นที่ต.เชียงยืน อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม พบกับภรรยาและพ่อของผู้บาดเจ็บ เพื่อสอบถามเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้น ส่วนผู้บาดเจ็บคือ นายจารุเกียรติ อายุ 29 ปี ขณะนี้นอนพักรักษาตัวอยู่ที่รพ.
โดยนายสมบัติ อายุ 63 ปี กล่าวว่า กลุ่มชายฉกรรจ์บุกเข้ามาทำร้ายถึงในบ้าน ก่อนที่ฉุดกระชากลากถูกันออกมาทำร้ายต่อที่ด้านนอกจนลูกชายตนหมดสติ โดยใช้เวลาก่อเหตุประมาณ 20 นาที ก่อนพากันหลบหนีไป จากนั้นตนรีบโทรแจ้ง 1669 ให้กู้ภัยรีบมาพาลูกชายไปรพ. เพราะหากจะพาไปเองก็เกรงว่าศีรษะจะได้รับความกระทบเทือน
“อยากขอวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวกลุ่มคนก่อเหตุมาดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด เพราะตอนนี้ทุกคนในบ้านหวาดกลัวเป็นอย่างมาก เกรงว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุจะย้อนกลับมาบุกทำร้ายคนในครอบครัวอีก” พ่อผู้บาดเจ็บ กล่าว
ด้านน.ส.นิภาพร อายุ 28 ปี ภรรยาของผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเวลาประมาณ 17.00 น. วันที่ 18 ส.ค.2565 กลุ่มผู้ก่อเหตุได้บุกเข้ามาถามหาแฟน ถามว่าแฟนอยู่ไหน เถ้าแก่อยากคุยด้วยจะมาเคลียร์ปัญหา ตนจึงถามกลับว่าเคลียร์ปัญหาทำไมต้องพาคนมาเยอะขนาดนี้ แล้วทำไมต้องถอดป้ายทะเบียนรถออกด้วย
จากนั้นก็มีผู้ชายลงมาจากรถ 4 คน เข้ามาจับแฟน 3 คน แล้วก็รุมทำร้ายถึงในบ้าน ตนร้องห้าม แต่ก็ไม่ยอมหยุด กลุ่มผู้ก่อเหตุกระชากตัวแฟนออกมาข้างนอก ตนจึงได้ถ่ายคลิปไว้ ลูกวัย 5 เดือนก็ร้องไห้ไม่หยุด เพราะตกใจกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตอนนี้ก็งอแงตลอดทั้งวัน นำด้ายสายสิญจน์มาผูกแขนเรียกขวัญแล้วก็ยังงอแง
มีคนหนึ่งหยิบโทรศัพท์ของแฟนไป แต่แฟนก็ได้ตะโกนเอาโทรศัพท์มา เลยทิ้งไว้แล้ววิ่งออกไปข้างนอก แม่ค้าข้างบ้านตะโกนบอกว่าตำรวจมาแล้ว กลุ่มผู้ก่อเหตุจึงได้หลบหนีไป ใช้เวลาก่อเหตุประมาณ 20 นาที อาการของแฟนตอนนี้รู้สึกตัวแล้ว รอสแกนสมอง มีอาการปวดศีรษะ ปากแตกเย็บ 6 เข็ม หูฉีกเย็บ 4 เข็ม
น.ส.นิภาพร กล่าวต่อว่า สาเหตุคาดว่ากลุ่มที่ทำงานโรงน้ำแข็งเก่า ซึ่งแฟนเป็นผู้จัดการ ได้ลาออกมาทำงานที่โรงน้ำแข็งแห่งใหม่ เป็นคนส่งน้ำแข็งธรรมดา ทางโรงน้ำแข็งเก่าอาจจะคิดว่าแฟนจะวิ่งส่งน้ำแข็งทับเส้นทาง ผู้ก่อเหตุทุกคนแฟนรู้จักทุกคน ซึ่งสาเหตุที่แฟนลาออกจากที่เก่าเพราะต้องเดินทางไกลถึง 17 กม. แต่ที่ทำงานใหม่ห่างจากบ้านแค่ 8 กม. โดยเพิ่งจะไปทำงานที่ใหม่ได้เพียง 7 วัน ซึ่งเป็นไปไม่ได้ว่าจะไปแย่งลูกค้ากันเพราะระยะทางห่างกัน ไม่วิ่งทับเส้นทางน้ำแข็งกันอยู่แล้ว
หลังเกิดเหตุ ได้ไปแจ้งความที่ สภ.เชียงยืน ทางตำรวจบอกว่าต้องรอให้ผู้บาดเจ็บออกจากรพ.ก่อน ถ้าหายแล้วค่อยโทรมาจะได้เรียกผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำ ตำรวจไม่ได้ลงมาดูที่เกิดเหตุ อยากให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุดในข้อหาบุกรุกและพยายามฆ่า เพราะบุกเข้ามาทำร้ายถึงในบ้าน ซึ่งในข้อหาพยายามฆ่า ตำรวจบอกว่าต้องดูก่อนว่าผู้บาดเจ็บเป็นอะไรมากหรือไม่
ด้านร.ต.อ.พรนรินทร์ หันแจ๊ด รองสว.(สอบสวน) สภ.เชียงยืน เปิดเผยว่า เบื้องต้นทางผู้เสียหายได้มาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว ซึ่งจากนี้ต้องรอให้ทางผู้บาดเจ็บออกจากรพ.ก่อน จากนั้นก็มาพบพนักงานสอบสวน และสอบพยานในที่เกิดเหตุ ซึ่งทางผู้บาดเจ็บกับผู้ก่อเหตุรู้จักกัน ทราบชื่อหมดทุกคนแล้ว จึงจะได้เรียกทางผู้ก่อเหตุมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป ส่วนข้อกล่าวหายังไม่ได้แจ้งเพราะว่ายังต้องรอสอบปากคำก่อน