พปชร. เปิดตัว ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภูเก็ต-นครศรีธรรมราช อ้อนขอโอกาสเข้าทำหน้าที่ แก้ไขปัญหาให้ประขาชน นัทธี ยันมีจิตสำนึก ไม่คิดทิ้งพรรค
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 28 พ.ย.2565 ที่พรรคพลังประชารัฐ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แถลงเปิดตัว ว่าที่ผู้สมัครส.ส. พื้นที่ภาคใต้ ประกอบด้วย จ.ภูเก็ต และ จ.นครศรีธรรมราช โดยในพื้นที่ จ.ภูเก็ต เปิดตัวผู้สมัคร 3 เขต ประกอบด้วย นายจิรายุส ทรงยศ อดีตนายก อบจ.ภูเก็ต เขต 1 นายนัทธี ถิ่นสาคู เขต 2 และนายสุธา ประทีป ณ ถลาง เขต 3 ในส่วนจ.นครศรีธรรมราช เปิดตัว นายคมเดช มัชฌิมวงศ์ อดีตนายกอบต.ยางค้อม เป็นผู้สมัครเขต 5
นายสันติ กล่าวว่า เดิมจ.ภูเก็ต เรามี ส.ส.อยู่ 2 เขต แต่การแบ่งพื้นที่ใหม่ทำให้จ.ภูเก็ตจะมี ส.ส.เพิ่มขึ้นอีก 1 เขต เป็น 3 เขต พรรคเราจะส่งครบทุกเขตแน่นอน ซึ่งทั้ง 3 คน จะเข้าไปทำหน้าที่แทนประชาชนชาวภูเก็ต เหมือนเช่น ส.ส.ภูเก็ตทั้ง 2 เขตของเราทำงานหนักมากกว่า 3 ปีแล้ว ทั้งนี้ จ.ภูเก็ตคือ อีกหนึ่งจังหวัดที่สำคัญทางเศรษฐกิจ เพราะถือเป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศและประชาชน ส่วนของจ.นครศรีธรรมราช ผู้สมัครของพรรคเราก็เป็นที่กว้างขวางทำงานเพื่อชาวตำบลยางค้อมมาตลอดเช่นกัน
“ผมขอโอกาสประชาชนให้กับผู้สมัครของเราด้วย เพื่อเข้าไปดูแลแก้ไขปัญหาให้ชาวจังหวัดภูเก็ตและนครศรีธรรมราช โดยพลังประชารัฐมีเป้าหมายที่จะเดินเคียงข้างชาวใต้ เพื่เพัฒนาพื้นที่ภาคใต้ในทุกๆ จังหวัด เราจะเข้าไปแก้ปัญหาบำบัดทุกข์ บำรุงสุข พัฒนา เพิ่มศักยภาพ ของจังหวัดภาคใต้ รวมถึงลงไปช่วยพี่น้องชาวใต้ในการพัฒนาทรัพยากรต่างๆ เพื่อให้พี่น้องชาวใต้อยู่ดีกินดี มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น”นายสันติ กล่าว
ด้านนายนัทธี กล่าวว่า ตนได้รับคำถามมาตลอดว่าพรรคพลังประชารัฐจะส่งใครลงรับสมัครเลือกตั้งในครั้งนี้ ตนจึงอยากให้มั่นใจว่า เรามีความตั้งใจแน่วแน่ว่าจะอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ ด้วยเหตุผลหลายอย่าง เพราะที่นี่คือบ้านเดิมของเรา การที่อยู่ที่นี่ไม่ได้หมายความว่าเราต้องตัดใครคนใดคนหนึ่งออก ไม่ได้หมายความว่าเราต้องไปเป็นศัตรูกับใคร
“ผมเกิดมาจากพรรคพลังประชารัฐ ต้องการแสดงจิตสำนึกว่า อย่างน้อยเราเกิดจากที่ไหนควรที่จะอยู่ในอาศัยที่นั่นตลอดไป ส่วนอนาคตข้างหน้า ส.ส.ภูเก็ตทั้ง 3 เขตยืนยันว่า เราคือพลังประชารัฐ” นายนัทธี กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภูเก็ต และนครศรีธรรมราข ครั้งนี้เป็นไปอย่างกระทันหัน ไม่ได้มีการเตรียมการไว้ก่อนล่วงหน้า โดยเป็นการกลบกระแสข่าวส.ส.ใต้ เลือดไหลออก ไปอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ จำนวนมาก