"กรีน อัษฎาพร" เปิดตัวน้องชายต่างแม่คนที่ 3 เพิ่งเคยเจอกัน สู้ชีวิตใช้หนี้แทนพ่อ 30 ล้าน

Home » "กรีน อัษฎาพร" เปิดตัวน้องชายต่างแม่คนที่ 3 เพิ่งเคยเจอกัน สู้ชีวิตใช้หนี้แทนพ่อ 30 ล้าน
"กรีน อัษฎาพร" เปิดตัวน้องชายต่างแม่คนที่ 3 เพิ่งเคยเจอกัน สู้ชีวิตใช้หนี้แทนพ่อ 30 ล้าน

กรีน อัษฎาพร นางเอกเจ้าบทบาท วันนี้ควง พัตเตอร์ น้องชายต่างมารดา ไม่เจอหน้ามากว่า 30 ปี เปิดใจครั้งแรก เผยชีวิตสุดทรหดต้องใช้หนี้แทนพ่อกว่า 30 ล้านบาท เครียดจัดโดนตามทวงหนี้ ขู่จะแฉ จนคิดขายบ้าน ผ่านทางรายการ คุยแซ่บ Show ช่องOne31 ที่มี ธัญญ่า ธัญญาเรศ , บูม สุภาพร และ ซินแสเป็นหนึ่ง เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

หน้าตาน้องหล่อมาก?

กรีน :   โสดนะคะ (หัวเราะ) 

เป็นน้องชายแท้ๆ ของกรีน วันนี้เปิดตัวเป็นครั้งแรกและที่แรก ตื่นเต้นมั้ย?

พัตเตอร์ : ตื่นเต้นครับ ปกติมีธุรกิจอยู่ที่เชียงใหม่ เป็นร้านกาแฟและร้านอาหารครับ อยู่แถวๆ นิมมาน 

30 กว่าปี กรีนไม่รู้เลยว่ามีน้องชาย มาทราบตอนไหน?

กรีน : คุณแม่บอกค่ะ บอกก่อนคุณพ่อจะเสีย เราไม่รู้หรอกว่าคุณพ่อจะเสียวันไหน แต่แม่บอกว่ามีน้องอีกคนนะชื่อพัตเตอร์ ตอนนั้นไม่ได้อะไร มีแบลงก์ๆ ไปหน่อย แต่ไม่ได้ติดต่อกัน แต่แม่ติดต่อ เป็นน้องคนละแม่  

ตอนรู้ว่ามีน้องคนละแม่ ตอนนั้นรู้สึกยังไง?

กรีน : อาจรู้ตอนโตแล้ว เลยไม่ได้รู้สึกเฮิร์ต รู้สึกว่ามีน้องชายอีกคนนึง ดีใจที่มีน้องชาย 

ได้เจอครั้งแรกตอนไหน?

กรีน : งานศพคุณพ่อ หนูก็เข้าไปกอดเขาเลย เพราะรู้สึกว่าเหมือนเขาไม่ได้รับการดูแลที่ดีมากพอ การทักทายอันแรกที่หนูไปกอดเขา มันน่าจะเป็นอะไรที่ทำให้สัมพันธ์พี่น้องน่าจะเร็วขึ้น ชัดขึ้น 

อะไรทำให้รู้สึกว่าเขาไม่ได้รับการดูแล?

กรีน : จริงๆ ตัวหนูเอง คุณพ่อก็ไม่ได้อยู่บ้านเหมือนกัน เขาอยู่ต่างจังหวัดตลอด การที่เขากลับมา เขาจะพยายามพาเราไปกินข้าว ไปเที่ยว ก็เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ถ้าพูดหนูเป็นครอบครัวใหญ่ เขาเป็นครอบครัวที่รองลงมาจากหนู ก็เลยมองตามสภาพว่าเขาน่าจะได้รับการดูแลที่ไม่ได้ดีมากพอ 

ความรู้สึกแรกที่โอบกอด?

กรีน : พยายามให้ความอบอุ่นเขาเท่าที่ทำได้ เขาไม่ใช่ตัวคนเดียวนะ มีพี่อยู่ตรงนี้  

พัตเตอร์รู้สึกยังไง พี่สาวโอบกอด?

พัตเตอร์ : ขนลุกครับ (หัวเราะ) ก็ตกใจนิดนึง แล้วก็แปลกๆ ดี  

แนะนำตัวว่าไง?

พัตเตอร์ : ก็ทักทายเป็นปกติ สวัสดีครับ อะไรแบบนี้ 

ก่อนหน้านี้พัตเตอร์ทราบมั้ยว่าเรามีพี่สาว?

พัตเตอร์ : ไม่ได้ทราบแบบชัดเจน เราก็เห็นแค่นามสกุลแปะอยู่คล้ายๆ กันเฉยๆ 

นามสกุลตอนกรีนไปประกวดเอเอฟ?

พัตเตอร์ : ใช่ แต่ไม่ได้เอะใจอะไร เพราะนามสกุลซ้ำมันเยอะอยู่แล้ว  

กรีนไม่ได้มีน้องชายแค่พัตเตอร์คนเดียว มีน้องชายอีก 2 คนที่ต่างแม่อีก?

กรีน : ใช่ (หัวเราะ) เรื่องพัตเตอร์รู้ตอนป่ะป๊าเสีย ส่วนน้องอีก 2 คนที่อยู่ทางใต้ รู้เพราะคุณพ่อบอกเอง บอกผ่านไลน์ 

น้องสองคน กรีนก็เห็น?

กรีน : ตอนกรีนอายุ 18 เข้าวงการไปโปรโมตอควาเรียม ก็เห็นเด็กๆ ผู้ชายสองคนวิ่งอยู่แถวนั้น แต่ไม่รู้ว่าเป็นน้อง เพราะเขาให้เด็กเรียกป่ะป๊าว่าลุง ไม่ได้ให้เรียกว่าพ่อ ก็ไม่รู้เลย แบบไม่รู้ ก่อนป๊าเสียปีสองปี กรีนพูดเรื่องครอบครัวอะไรสักอย่างกับป๊าเขาก็พิมพ์มายาวมาก บอกว่าเขากลับมาเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว ตอนนั้นความซื่อบื้อของกรีน ก็งง ให้เขาอธิบายว่ามันคืออะไร เขาอธิบายมายาวมาก เขาบอกว่าเขามีอีกครอบครัว เป็นน้องชายสองคน ชื่อ ไนซ์ อายุ 25-26 ส่วนน้องนาส ตอนนี้อยู่มหาวิทยาลัยที่สงขลา น่าจะ 19-20 ประมาณนี้ 

พัตเตอร์อายุเท่าไหร่?

พัตเตอร์ : 30 ครับ 

กรีน : หนูเป็นพี่ใหญ่ พี่คนโต  

กรีนมีพี่น้องสามคน เป็นน้องสาวหมดเลย?

กรีน : ใช่ค่ะ มีน้องสาวสองคน คนกลางอายุมากกว่าพัตเตอร์ปีนึง อายุ 31  

ตอนนี้กลายเป็น 6 คนพี่น้อง?

กรีน : ใช่ค่ะ ครอบครัวใหญ่มากเลยค่ะ 

วันนึงได้รวมตัวกันในครอบครัว 6 คน ณ โมเมนต์รู้สึกยังไง?

กรีน : รู้สึกว่ามีคนช่วยงานเยอะดีค่ะ (หัวเราะ) กรีนรู้สึกดีค่ะ ไม่รู้สึกว่าโห เราไม่เคยรู้จักเขาเลย เราไม่สามารถประสานความสัมพันธ์ ไม่มีความรู้สึกแบบนั้นเลย รู้สึกแค่ว่าอยากดูแลน้องๆ ทุกคนให้ดีแทนป่ะป๊าด้วยซ้ำค่ะ 

พัตเตอร์ล่ะ เราเป็นลูกฝั่งภาคเหนือคนเดียว มาวันนึงตอนนี้จากลูกคนเดียว มีพี่น้องเยอะมาก รู้สึกยังไง?

พัตเตอร์ : เป็นเรื่องที่แปลกสำหรับผมที่โตแล้ว แล้วมารู้ทีหลัง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ไม่ปกติ อาจเพราะเราโตแล้วด้วยมั้งมีพี่น้องเยอะก็โอเค ดีกว่าไม่มีใครเลย 

6 คนได้พูดคุยกันมั้ย?

พัตเตอร์ : คุยกันไม่ครบ มีคุยกันแค่ 4 คนครับ  

รู้สึกว่ามีช่องว่างบางอย่างมั้ย?

พัตเตอร์ : ช่วงแรกๆ ต้องมีอยู่บ้างอยู่แล้วครับ เพราะเราไม่ได้เจอกันตอนเด็กๆ เราเจอกันตอนโต เราได้คุยกันบ้างผ่านโซเชียลมีเดีย ก็ค่อยๆ ละลายพฤติกรรมกันไป ก็เข้าใจกันมากขึ้นครับ  

ครั้งแรกก่อนเจอกัน รู้สึกยังไง?

พัตเตอร์ : ตื่นเต้นพอสมควรครับ  

กลัวพี่สาวไม่โอเคกับเรา หรือพี่น้องคนอื่นๆ จะไม่โอเคมั้ย?

พัตเตอร์ : มีคิดไว้บ้างครับ แต่ไม่ได้รู้สึกว่าถ้าเขาจะยอมรับเราหรือไม่ เราไม่ได้รู้สึกว่าเป็นเรื่องแปลกประหลาดอะไร เราอยู่ในจุดที่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้แล้ว ถ้ายอมรับก็โอเค ไม่ยอมรับก็ไม่เป็นไร เราเตรียมใจไว้แล้วไม่ว่าจะถูกปฏิเสธหรือตอบรับ  

วันนึงแสดงตัวขึ้นมา คนอาจมีคำถามว่าเราแสดงตัวเพื่ออะไร ทำไมต้องแสดงตัว พัตเตอร์กังวลมั้ย?

พัตเตอร์ : ส่วนตัวไม่ได้กังวล เพราะเราเข้ามาในพาร์ตพี่น้อง ไม่ได้เข้ามาหวังผลอะไรจากความสัมพันธ์ขนาดนั้น ไม่ได้รู้สึกว่าเข้ามาเพื่อเอาเงิน เราแค่รู้สึกว่าเขาคือพี่เรา เรารู้สึกแค่เป็นพี่น้อง พี่คุยกับน้อง  

ด้านนึงอาจมองว่าเรามาเพราะหวังผลประโยชน์ เพราะพี่คุณดัง อยากตอบคนคิดแบบนี้ยังไง?

พัตเตอร์ :   ไม่ได้เป็นอย่างที่คนเหล่านั้นรู้สึกนะครับ เราไม่ได้หวังผลประโยชน์ใดๆ ก็สบายใจได้ ก็เป็นน้องคนหนึ่ง 

กรีน : ไม่มีทางที่เขาจะหวังผลประโยชน์แน่นอน เพราะหลังจากที่ป๊าเสีย กรีนได้รู้จักเขา กรีนอยากรู้จักเขามากขึ้น ก็เลยขึ้นเหนือไปที่เชียงใหม่ อยากรู้ทุกอย่างว่าเขาทำอะไร เขาเติบโตด้วยตัวเองมาได้ยังไง เขามีธุรกิจของเขา มีหุ้นส่วนของเขา กรีนเห็นร้านกาแฟเขาแล้วแบบ เฮ้ย ทำคนเดียวเหรอ เขาทำกับเพื่อน แต่เขาทำได้ดีกว่ากรีนอีก กรีนก็อยากทำธุรกิจที่มีระบบแบบเขา ถ้าใครมาเห็นร้านกาแฟเขาจะเห็นเลยว่าเขาทำงานมีความรับผิดชอบมาก มันจะไม่ใช่แบบนี้ จะเป็นอีกแบบ เวลาพูดเขาจะพูดแบบธุรกิจ ไม่ได้หวังผลอะไรจากเรา เห็นแต่ความจริงใจที่เขามีให้เรา ซึ่งวันนี้เขามาออกรายการกับกรีนได้ เพราะเขามาอยู่กับกรีนที่กรุงเทพฯ ประมาณเดือนนึง อยากให้เขาพัก เพราะเขาเปิดร้านมา 8 ปี ไม่เคยได้พักเลย ทำงานตลอด พอเขาได้พัก ได้รู้จักกันมากขึ้น เขาเป็นผู้ช่วยผู้จัดการกรีนไปเลย พูดภาษาง่ายๆ กรีนเป็นง่อยได้เลย ทุกวันนี้แทบไม่ได้ทำอะไรเลย เขาขับรถให้กรีน ปกติเราพึ่งพาตัวเองทุกอย่าง แต่พอเรามีน้องชาย นี่คือความสามารถพิเศษของครอบครัวเรา พอเรามีน้องชาย แล้วน้องชายมาช่วยเหลือเรา (หัวเราะ)  

แววตาความสุขความเป็นครอบครัว มันบ่งบอกออกมา?

กรีน : ค่ะ หนูพูดด้วยความรู้สึกจริงๆ และหนูจริงใจ แล้วหนูก็เห็นความจริงใจที่เขามีให้หนู เขาก็เป็นคนดี เขาบอกว่าถ้าหนูจะมีแฟน ต้องหาแฟนได้ดีกว่าเขาเกิน 70 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งหนูไม่รู้จะหาจากที่ไหนเหมือนกัน (หัวเราะ) เขาเป็นห่วงหนูทุกกระเบียดนิ้ว หนูจะเดินไป ถ้ามีทางชันก็จะบอกว่าเดินดีๆ ระวัง เขาจะพูดแบบนี้ตลอดเวลาเลย ไม่ให้หนูถือของอะไรเลย กลัวหนูนิ้วล็อกมั้งไม่รู้เหมือนกัน ไม่ให้ถืออะไรเลย แล้วล่าสุดไปไหว้พระกันที่ฮ่องกง เขาสะพายกระเป๋าหนักมากคนเดียว 2 กิโล ไม่ยอมให้ใครถือเลย พออยู่ด้วยกันทุกวัน มันเห็นว่าเขาไม่ได้ต้องการเงิน ไม่ต้องการอะไร เขาต้องการแค่ความอบอุ่น  

ถ้าวันนึงเขาเปลี่ยนนิสัยทุกอย่าง จะทำยังไง?

กรีน : ถ้าเวลาเปลี่ยน คนเปลี่ยนเหรอคะ  

ถ้าไม่ใช่เรื่องจริง จะเป็นยังไง เหมือนในหนัง?

กรีน : คงเสียใจแหละ แต่สุดท้ายสิ่งที่หนูให้เขาคือความจริงใจ ถ้าเขาจะเล่นละครใส่หนู หนูก็ให้เขาไปแล้ว ก็ไม่ได้ต้องการจะมาเอาคืน แต่ถ้าเขาจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ ก็อยากให้เขาเดินไปในทางที่ดีกว่านี้ ไปเจอคนที่ดีกว่านี้ค่ะ 

พัตเตอร์ ก้าวเข้ามาในชีวิตพี่สาว อาจไม่ได้นาน ไม่ได้เติบโตกันมา ทำไมหวงพี่เขาจัง อยากดูแลเทคแคร์พี่สาวคนนี้ที่เราไม่เคยเจอ?

พัตเตอร์ : เห็นแล้วเป็นห่วงครับ 

กรีน : หนูซื่อบื้อค่ะ โง่ๆ งงๆ โบ้ๆ เบ้ๆ เขาก็เลยอยากดูแล (หัวเราะ) 

พัตเตอร์ : เราเป็นผู้ชายด้วยมั้งครับ ก็เลยอยากดูแล เขาเป็นพี่เรา ต่อให้ไม่มีระยะที่เติบโตมาด้วยกัน แค่เข้าใจกัน ก็ดูแลกันได้แบบทั่วไปครับ 

อะไรทำให้เราสองคนจูนและคลิกกันได้ขนาดนี้?

กรีน : นิสัยที่คล้ายกัน อีกอย่างความเป็นน้อง กรีนเปิด และโอเพ่นมายด์ พอรู้ว่าเป็นน้อง เราพร้อมโอบรับทุกอย่าง ยิ่งมาในจังหวะที่คุณพ่อเสีย กรีนรู้เรื่องราวของเขา กรีนรู้สึกว่ากรีนอยากเป็นตัวแทนของพ่อ พยายามทดแทนในสิ่งที่เขาไม่ได้รบ ก็อยากเติมเต็มตรงนั้นให้ได้มากที่สุดในเวลาที่เหลือของเราค่ะ 

รู้สึกว่าเขาเป็นตัวแทนของพ่อด้วยมั้ย เป็นลูกของพ่อ เป็นผู้ชายสายเลือด เป็นรักไม่มีเงื่อนไข?

กรีน : ใช่ค่ะ เป็นรักไม่มีเงื่อนไขจริงๆ อยากให้เขาทุกอย่าง ถ้าเปย์ได้ก็อยากเปย์เยอะๆ ค่ะ  

ตอนนี้มีปัญหาที่เกิดขึ้น พอคุณพ่อเสีย กรีนแบกรับหนี้สินคุณพ่อทั้งหมด 30 ล้าน?

กรีน : จริงๆ มีน้องสาวอีก 2 คนที่ช่วยกันในครอบครัว 

กรีนไม่ต้องแบกรับก็ได้?

กรีน : พูดแบบนั้นก็ได้ค่ะ 

อะไรทำให้เราคิดว่าอยากรับผิดชอบส่วนนี้ให้คุณพ่อ?

กรีน : เพราะเป็นคุณพ่อแหละค่ะ เรารู้สึกว่าคงเป็นหน้าที่ของลูกที่ต้องรับผิดชอบ เขาก็เลี้ยงเรามา ตอนนี้เขาไม่อยู่แล้ว เราคงต้องทำอะไรกลับ คงมีสิ่งนี้แหละที่เราแก้ปัญหาให้แล้วกัน 

คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตมั้ย 30 ล้าน?

กรีน :   ก็มีจังหวะที่คิดว่า ไม่คิดว่าจะทิ้งมรดกให้ขนาดนี้ แต่มองอีกมุมนึง มรดกนี้ทำให้เรามีแรงเสียดทานในชีวิตเรา ทำให้เราลุกขึ้นมาทำงาน กระตือรือร้น แอ็กทีฟ อยากทำโน่นทำนี่เพื่อกลบหนี้ตรงนี้ กรีนมองในมุมที่ดีไป มีจังหวะที่เราท้อแหละ แต่คิดว่าเป็นแรงขับเคลื่อนให้เราอยากทำงานนะ อยากเล่นละครนะ เราต้องทำงานตรงนี้นะ อย่าหยุดทำงานนะ เป้าหมายเราจะชัดเจนมากขึ้น  

30 ล้านมาจากไหน?

กรีน : กรีนอาจลงรายละเอียดได้ไม่ลึก มันเป็นเรื่องธุรกิจที่เขาทำ ณ ตอนนั้นค่ะ กรีนไม่ค่อยรู้รายละเอียด กรีนมารู้ผลลัพธ์เลย (หัวเราะ) 

มีเจ้าหนี้ทวงหนี้หน้าบ้าน?

กรีน : มีโนติสเข้ามา และมีโทรเข้ามาหาน้องสาว มาขู่ ไม่ได้ขู่ฆ่านะคะ แต่บอกว่าถ้าไม่จ่ายเงินตามที่บอก เราเป็นนักแสดง คนมีชื่อเสียง จะเอาชื่อเราไปทำลาย ตอนนั้นหนูเป็นคนที่มีความขี้กลัว ไม่อยากแลก ก็เลยตัดสินใจว่างั้นก็จ่ายให้เขาไป ไม่ได้เป็นเงินก้อนใหญ่ แต่เป็นน้ำพักน้ำแรงที่เราหามา จริงๆ คุยกันในครอบครัวว่าจะเอายังไงดี แต่เหมือนมันทำอะไรไม่ได้แล้ว พอคุ้ยเรื่องลึกๆ ฝั่งพ่อเราก็มีส่วนเหมือนกัน ก็เลยจบปัญหาด้วยการจ่ายไป  

เก็บเงินทั้งชีวิตไปจ่ายตรงนี้?

กรีน : ก็เงินเราเองค่ะ 

เดือนๆ ต้องจ่ายเท่าไหร่?

กรีน : ถ้าบอกตัวเลขมันก็เยอะ แต่เหมือนเรามีการเจรจา ต่อรอง คุย ทางโน้นเขาก็เห็นใจ รับรู้เรื่องข่าว ไม่ได้เยอะมาก เป็น 5 หลัก 4 หลักที่ช่วยกัน 

นอกจากช่วยในส่วนคุณพ่อแล้ว เราต้องดูแลเรื่องการผ่อนบ้านอีก?

กรีน : ใช่ จริงๆ บ้านผ่อนหมดแล้ว บ้านอยู่มาเป็น 20 ปีแล้ว แต่ก็เพิ่งมารู้ว่าคุณพ่อเอาบ้านไปรีไฟแนนซ์ 

พัตเตอร์พอเห็นว่าพี่สาวแทบเป็นพี่ชาย เป็นหัวหน้าครอบครัว ทั้ง 6 คนเลย เราซัพพอร์ตยังไง?

พัตเตอร์ : ให้กำลังใจตลอด ถามว่าเป็นยังไงบ้าง โอเคมั้ยเหนื่อยหรือเปล่า ช่วยอะไรได้บ้างมั้ย ทั้งตอนนี้และในอนาคต ถามตลอดถ้ามีปัญหาอะไรก็มาบอกได้ เป็นพี่น้อง ยังไงก็ต้องช่วยกันอยู่แล้ว 

ก่อนหน้านี้พัตเตอร์ไม่รู้เรื่องตัวเลข พอวันนี้รู้ว่า 30 ล้าน อยากบอกอะไรพี่สาว?

พัตเตอร์ : สู้ๆ (หัวเราะ) เดี๋ยวช่วยกันเนอะ สู้ๆ ไปด้วยกันนะ 

กรีนไหวมั้ย?

กรีน : ไหวค่ะ กรีนว่าต่อให้จะดำมืดแค่ไหน ในความดำมืดก็มีแสงสว่าง ต่อให้แสงเล็กแค่ไหนก็ตาม มันมีแสงแล้ว มันก็คือทางออก 

เคยร้องไห้มั้ย?

กรีน : ร้องค่ะ แต่ร้องแค่แป๊บเดียว ไม่ได้แล้ว ต้องลุกขึ้น

เคยคิดจะขายบ้าน?

กรีน : ตอนนั้นคิดว่าจะทำยังไงดีน้า ขายบ้านไปเลยมั้ย แล้วจะไปอยู่ที่ไหนดีน้า ของเยอะมากเลย ไม่ขายดีกว่า ก็คิดอะไรหลายๆ อย่างค่ะ ก็ผ่อนไปเรื่อยๆ 

พัตเตอร์ก็เป็นหนึ่งในแสงสว่างที่มาซัปพอร์ตให้กำลังใจกรีน?

กรีน : ใช่ เราไม่ได้ตัวคนเดียว เรายังมีน้องๆ อย่างพัตเตอร์ เขาให้กำลังใจ เรามีครอบครัว แค่นี้ก็โอเคแล้วสำหรับหนู  

พัตเตอร์มีแฟนหรือยัง?

พัตเตอร์ : ไม่มีครับ  

กรีน :   บอกไปสิเพิ่งโสด 

พัตเตอร์ : (หัวเราะ) ครับ  

มีคนมาแอ๊วเราบ้างมั้ย?

พัตเตอร์ : มีครับ  

มีสเปกมั้ย?

พัตเตอร์ : ไม่มีครับ ได้หมดครับ ขอแค่เข้าใจผมก็พอ 

ต้องแบบพี่สาวมั้ย?

พัตเตอร์ : ไม่ดีกว่าครับ ล้อเล่นๆ (หัวเราะ) ตอนนี้ไม่ได้ปิดครับ  

กรีนล่ะ สถานะหัวใจเป็นไง?

กรีน : ก็..ก็โสดค่ะ (หัวเราะ) มีคนเข้ามาบ้างแต่เลือกคุย  

น้องชายห่วงพี่สาวมั้ย?

พัตเตอร์ :   ห่วงและหวง อยากให้เจอคนที่ดี จะได้โพสิทีฟไปด้วยกัน  

เวลาเขาไปออกเดตเราไปด้วยมั้ย?

พัตเตอร์ :   ไม่ได้ไปครับ ยังไม่เห็นไปออกเดตกับใครเลย มีความเลือกอยู่  

ถ้ามีจะตามไปแอบดูมั้ย?

พัตเตอร์ : ไม่ครับ จะขับรถไปส่ง  

คุณสมบัติพี่เขยเป็นยังไง?

พัตเตอร์ : ขอให้ดูแลดี เทคแคร์ดูแลให้โอเค 

กรีน : เขาบอกต้องให้ดีเท่ากับหรือมากกว่าเขา  

พัตเตอร์ : ไม่อยากให้เสียใจ  

อาจใช้เวลากว่าจะได้เจอกัน แต่พอเจอแล้วคลิกเร็วมาก?

กรีน : ใช่ค่ะ หนูเป็นห่วงเขาเรื่องสุขภาพ เพราะเขาทำงานหนัก บางทีเขาจะลืมดูแลตัวเอง อยู่เชียงใหม่ฝุ่นเยอะ เขาจะมีปัญหาเรื่องการไอ บางครั้งไอออกมาเป็นเลือด มันหนักสำหรับหนู หนูตกใจเหมือนกัน ฝุ่นเยอะ แต่พอไปตรวจก็ไม่ได้มีอะไรร้ายแรง ห่วงเรื่องสุขภาพเขา  

อยากให้พี่น้องบอกความในใจ?

กรีน : ห่วงเขาเรื่องสุขภาพ อยากให้ดูแลสุขภาพเยอะๆ อะไรเป็นเป้าหมายของเขา เขาอยากทำธุรกิจ อยากรวยมาดูแลหนู หนูก็บอกว่าไม่ต้อง รวยเพื่อตัวเอง รวยเรื่องความรัก เงิน อะไรก็ตาม รวยเรื่องความเมตตา ก็อยากให้เขาได้รับความรักจากคนอื่นและตัวเองเยอะๆ 

พัตเตอร์ : รักแหละครับ และเป็นห่วงแบบไม่มีเงื่อนไข อยากให้ทุกอย่างมันดีไปด้วยกัน แค่นั้นก็โอเคแล้ว  

น้ำตาจะไหล?

กรีน : น่ารัก (หัวเราะ) 

ติดตามชมรายการคุยแซ่บ Show ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ