กระบะเมาชนร้านอาหารเสียหาย ถูกสกัดให้หยุดไม่ยอม เร่งเครื่องไล่ชนจยย.-รถยนต์ของตำรวจ ลากยาวเป็นกิโลฯ ขับหนีไม่รอด โดนจับอ้างรถมีปัญหา

วันที่ 30 เม.ย. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครสวรรค์ โพสต์เฟซบุ๊กเตือนภัย โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 เม.ย. 66 เวลาประมาณ 22.30 น. ขณะที่ ด.ต.ปรีชา ทองเปี่ยม ผบ.หมู่(จร.) สภ.เมืองนครสวรรค์ ขี่รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า เอ็นแม็กซ์ สีขาว ทะเบียนตราโล่ 84966 ออกตรวจการจราจรในพื้นที่ ถนนสี่เจ้าพระยา(ถนนริมแม่น้ำเจ้าพระยา) ต.นครสวรรค์ตก อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ระหว่างนั้นมีพลเมืองดี แจ้งบอกตำรวจว่ามีรถกระบะ อีซูซุ สีขาว ทะเบียน ขก 1933 นครสวรรค์ ขับชนร้านอาหารที่อยู่ข้างทางแล้วหลบหนี

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรฯ จึงวิทยุเพื่อแจ้งให้สกัด และขับติดตามไป โดยรถยนต์คันดังกล่าวขับหลบหนีไปทางถนนริมแม่น้ำเจ้าพระยาเลี้ยวขวาเข้าถนนหน้าตลาดศรีนคร ติดตามมาทันบริเวณสี่แยกสันคูขณะติดไฟแดง ด.ต.ปรีชา จึงได้นำรถจักรยานยนต์ของทางราชการ ขับไปจอดดักหน้ารถกระบะ เพื่อไม่ให้ผู้ขับหลบหนี แต่รถกระบะคันดังกล่าวพุ่งชนทันที เจ้าหน้าที่ตำรวจ กระโดดออกจากรถจักรยานยนต์ทัน โดยรถยนต์ขับชนแล้วลากรถจักรยานยนต์ของสายตรวจจราจรฯ ติดไปกับใต้ท้องรถ เเล้วขับหลบหนี

ขณะนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขับรถยนต์เช่าของทางราชการ โตโยต้าสีเทา-เลือดหมู ทะเบียน 1 นง 2935 กรุงเทพมหานคร เพื่อมาจอดขวางทางไม่ให้กระบะหลบหนี แต่รถยนต์กระบะคันดังกล่าวไม่ยอมหยุด ได้ขับพุ่งชนรถยนต์อีกคัน แล้วขับหลบหนีไปตามถนนนครสวรรค์-โกรกพระ ระหว่างนั้นลากรถจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปด้วย

ด้าน ด.ต.ปรีชา ทองเปี่ยม พร้อมด้วยพลเมืองดีติดตาม โดยรถจักรยานยนต์ของพลเมืองดี ติดตามไปอย่างกระชันชิด รถยนต์ที่หลบหนีได้ไปเลี้ยวรถฯ ตรงจุดกลับรถบริเวณหน้าร้านเบนซ์หมูกระทะ รถเสียหลักปีนขึ้นไปบนฟุตปาธขับต่อไม่ได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ติดตามและกำลังสนับสนุน พร้อมด้วยพลเมืองดี ที่ช่วยติดตามไป ได้เข้าไปควบคุมตัวผู้ขับขี่ให้ลงจากรถ

สอบถามทราบชื่อภายหลังว่าชื่อนายสันติ จึงควบคุมตัวมาที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นทำการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ไม่ยินยอมให้ตรวจวัด พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาขัดขืนคำสั่งของเจ้าพนักงานให้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายฯในเบื้องต้น ส่วนการกระทำผิดในความผิดอื่นจะได้ดำเนินการสอบสวนเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อไป

จากการสอบถาม ผู้ที่ถ่ายคลิปเหตุการณ์ ระบุว่า คนขับดูลักษณะเป็นผู้สูงอายุ ที่มีอาการคล้ายคนเมา พูดจาไม่รู้เรื่อง และเจ้าตัวบอกกับตำรวจด้วยว่า ไม่ทราบเลย ว่าขับรถไปชนอะไรบ้าง แค่รู้สึกเหมือนว่ารถของเจ้าตัวมีปัญหา เร่งเครื่องไม่ค่อยจะไป แต่สุดท้ายก็ไม่มั่นใจว่าเขาเมาอะไรมา

ด้าน นายทรงศักดิ์ จันทฤก อายุ 39 ปี ลูกเจ้าของร้านอาหารริมทางที่ถูกรถกระบะชนได้รับความเสียหาย กล่าวว่า ตอนนั้นตนนั่งล้างจานอยู่ข้างร้าน ส่วนแม่ก็เดินไปเก็บของอีกที่ ส่วนรถกระบะคันที่ก่อเหตุ ตนเห็นคาตาขณะที่กำลังล้างจาน ว่าขับแหกโค้ง แล้วก็พุ่งเข้ามาชนร้านของตน จนร้านได้รับความเสียหาย ตอนนี้ ร้านต้องปิดขายชั่วคราวไปก่อน เพราะรถเข็นขายของไม่สามารถใช้การได้ ซึ่งก็ไม่ได้ขายของมา 2 วันแล้ว

ส่วนทางคดี แม่เป็นคนไปตามเรื่องกับทางตำรวจ ทราบว่า ทางผู้ก่อเหตุขับรถมาชนนั้นเมาจริง โดยมีหลักฐานแก้วบรรจุเบียร์วางอยู่ในรถ และหลังเกิดเหตุ ได้มีการเจรจาเรื่องค่าเสียหาย ซึ่งทางผู้ก่อเหตุรับปากว่าจะชดใช้ค่าเสียหายให้ทั้งหมด แต่ราคาตอนนี้ยังไม่ได้ระบุไป เพราะต้องรอให้ช่างที่รับซ่อมรถเข็นมาดูสภาพเสียหาย แล้วตีราคาค่าซอมก่อน