กระบะนำขบวนรถเทลเลอร์ จอดขวางกลางแยก ขณะที่กู้ภัยเร่งนำส่งผู้ป่วย เปิดเสียงเปิดไฟไซเรน ยังไม่สนใจ ผ่าน 7 คัน กว่าจะได้ไป แถมยังวนมามองหน้าอีก
เมื่อวันที่ 5 ส.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อณรงค์ชัย กัลยากุล โก๋บอย โลงซิ่ง เปิดเผยว่า “เวลา 20.50 น ผมได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลให้ออกรับผู้ป่วยฉุกเฉิน แต่มีเหตุการณ์ที่ผมคาใจและติดเรื่องกะคนขับรถนำขบวนเทลเลอร์ ผมเข้าใจนะว่ารถพวกคุณบรรทุกหนักมากัน ต่อให้รถผมเปิดไฟเปิดเสียงมา ต่อให้คนในรถผมจะอาการหนักมากแค่ไหนยังไงพวกคุณก็คงไม่หยุดให้ผมไป
ไม่หยุดไม่เป็นไรผมไม่ว่าแต่ผมติดเรื่องคนขับรถกระบะที่นำขบวน ไม่เข้าใจว่า คุณมีปัญหาอะไรกะผมหรือเปล่าถึงได้วนรถมาแบบนี้มันน่าเกลียดไป ไม่พอใจอะไร เดียวพรุ่งนี้กูจะไปถึงโรงงานมึงเลย ไอ้สัส ในรถกูมีคนป่วยไม่ได้เปิดไฟเปิด เสียงเล่น พวกมึงแม่งเห็นแก่ตัว กูไม่สนใจหรอกว่าจะใหญ่โตมาจากไหน”
ต่อมานายณรงค์ชัย กัลยากุล หรือบอย อายุ 28 ปี เจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญญูพระพุทธบาท เผยกับผู้สื่อข่าวว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 20.50 น. ตนได้รับแจ้งจากศูนย์กู้ชีพพระพุทธบาท ให้ไปรับผู้ป่วยหญิง อายุ 70 ปี ที่หลังวัดพระพุทธบาทสระบุรี มีอาการชักเกร็ง เหมือนจะช็อก ตนจึงเข้าไปรับมาพร้อมด้วยญาติของผู้ป่วยได้นั่งมาในรถ เพื่อนำส่งยังรพ.พระพุทธบาท
เมื่อถึงที่เกิดเหตุเป็นสามแยกไฟแดงเข้าวัดพระพุทธบาท ได้มีรถกระบะนำขบวนรถเทลเลอร์บรรทุกตอหม้อสะพาน จอดขวางกลางแยกเพื่อที่จะให้รถเทลเลอร์วิ่งไปก่อน โดยที่ไม่สนใจว่าจะมีรถของกู้ภัย ที่เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉิน เมื่อรถเทลเลอร์วิ่งผ่านไปทั้งหมด 7 คันแล้ว ทางคนขับรถกระบะที่นำขบวนยังวนรถกลับมาหารถของตนอีกในลักษณะที่จอดขวางหน้า จากนั้นก็ขับออกไปโดยที่ไมได้พูดอะไร
นายณรงค์ชัย กล่าวต่อว่า รถบรรทุกเทลเลอร์ของบริษัทนี้ได้วิ่งผ่านเส้นทางนี้มาเป็นเวลากว่า 1 เดือนแล้ว ในช่วงเวลาประมาณ 3 ทุ่มของทุกวัน สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ใช้เส้นทาง จึงอยากเตือนผู้ใช้รถใช้ถนน ถ้าเห็นสัญญาณไฟฉุกเฉิน ขอความกรุณาหลบให้ เนื่องจากว่าบนรถนั้นมีผู้ป่วย หรือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บอยู่บนรถ ซึ่งไม่แน่ว่าผู้ป่วยหรือผู้บาดเจ็บอาจจะเป็นญาติคุณก็ได้