กระบะขับตาม ขู่เอาเงินเกือบหมื่น อ้างขับชน พอบอกไปโรงพัก รีบบึ่งรถหนี

Home » กระบะขับตาม ขู่เอาเงินเกือบหมื่น อ้างขับชน พอบอกไปโรงพัก รีบบึ่งรถหนี


กระบะขับตาม ขู่เอาเงินเกือบหมื่น อ้างขับชน พอบอกไปโรงพัก รีบบึ่งรถหนี

ขับรถกลับบ้าน ถูกกระบะชนท้ายตามมาเอาเรื่อง เรียกเงินเกือบหมื่นบาท พอบอกไปคุยกันที่โรงพักรีบขับหนีทันที อ้างรีบกลับ กทม.ไม่อยากเสียเวลา

วันที่ 16 เม.ย. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมาน ไสวดี อายุ 62 ปี ชาว อ.เปือยน้อย จ.ขอนแก่น ถูกกระบะไม่ทราบรุ่นยี่ห้อชนท้าย แล้วเรียกเอาเงินค่าเสียหาย บอกว่าชนแล้วหนี โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นบนถนนสาย ชนบท-บ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ พอจอดรถคุยกันถูกกระบะที่มาชนด้านหลังเรียกเงินค่าเสียหาย 6-7 พันบาท พอจะเรียกลูกมาจ่ายชดใช้และตกลงกันที่โรงพักก็ไม่ยอมบอกว่ารีบ ไม่อยากเสียเวลาแล้วขับรถไปทันที คาดว่าอาจเป็นแก๊งตบทรัพย์

นายสมาน กล่าวว่า เมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 15 เม.ย. 65 ที่ผ่านมา ตนขับรถกลับจาก อ.ชนบท มุ่งหน้ากลับบ้านที่ อ.เปือยน้อย ระหว่างทางเป็นทางสองเลน ตนวิ่งเลนขวาขับมาตามปกติ มีรถเก๋งวิ่งนำหน้า 1 คัน มีกระบะวิ่งตามหลังอยู่ 1 คัน กระทั่งถึงช่วงหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์ อ.บ้านไผ่ รถเก๋งจะเลี้ยวขวายูเทิร์น ตนก็หักหลบแซงขึ้นทางด้านซ้ายเล็กน้อย ยังไม่ได้ข้ามไปเลนซ้าย จู่ ๆ ได้ยินเสียงเหมือนถูกเฉี่ยวชนทางด้านท้ายรถ และได้ยินเสียงบีบแตรดังเป็นระยะ ๆ

ตอนนั้นก็ไม่คิดว่าจะชนอะไรหรือมีใครมาชน เพราะขับมาปกติ และไม่กล้าจอดรถเพราะกลัวจะมีเรื่อง พอขับมาถึง 4 แยกไฟแดงถนนมิตรภาพ รถกระบะคันดังกล่าวเรียกให้จอดคุยกันบอกว่าตนขับรถชนแล้วหนี จึงได้ขับเลยแยกไปจอดคุยกัน ระหว่างคุยนั้นเห็นว่า คนขับรูปร่างผอมอยู่บนรถกระบะไม่ทราบรุ่น ยี่ห้อ สีทอง

โดยมีชายที่มาด้วยกันอีกคนรูปร่างท้วมผมเกรียน ลงมาคุยและยืนบังรถไม่ให้ตนเองเข้าใกล้รถ บอกว่าพ่อชนรถผมทำไมไม่จอด ถ้าเป็นคนอื่นหัวร้อนแจ้งความจับพ่อไปแล้วนะ ตนเองก็บอกว่าตนไม่ทราบว่ามีการชน เพราะก็มั่นใจว่าขับมาตามปกติ จะให้พ่อทำยังไง ชายดังกล่าวบอกว่าถ้าประเมินค่าเสียหายแล้วประมาณ 6-7 พันบาท ตนเองก็บอกว่าตอนนี้ไม่มีเงินต้องให้ลูกชายเอาเงินมาให้

ชายดังกล่าวก็ถามว่าลูกอยู่ที่ไหน ตนบอกทำงานอยู่โรงพยาบาลเปือยน้อย ชายดังกล่าวก็บอกว่าไม่ต้องเรียกมาเพราะเสียเวลาจะรีบกลับ กทม. มีเงินเท่าไหร่ก็เอามาเลย ตนก็บอกไปว่าไม่มีเงินจริง ๆ เพราะใส่มือผู้เฒ่าผู้แก่สงกรานต์หมดแล้ว งั้นให้ไปคุยกันที่โรงพักบ้านไผ่ เพราะลูกสะใภ้ทำงานอยู่ อ.บ้านไผ่ ชายดังกล่าวก็บอกว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวจะเอารถไปซ่อมเอง เพราะว่ารีบไปไม่อยากรอเสียเวลา ก่อนจะเดินขึ้นรถแล้วขับออกไปทันที

หลังคุยจบก็เอะใจว่าจะใช่พวกแก๊งตบทรัพย์หรือไม่ เพราะลักษณะท่าทางมีพิรุธ ตนจะหยิบโทรศัพท์โทรหาลูกก็ไม่ให้ คือแตะต้องโทรศัพท์ไม่ได้เลย และตนพยายามจะไปดูร่องรอยรถที่บอกว่าชนกันก็มาบังเอาไว้ไม่ให้เข้าใกล้ เห็นแค่ไกล ๆ ลักษณะกันชนหน้าด้านขวารถชายดังกล่าวแตกเป็นกันชนไฟเบอร์สีดำ ส่วนรถตนไม่ได้บุบมาก มีรอยสีดำจากไฟเบอร์เฉียด ๆ และขัดออกได้

หากชนกันเสียหายจริงๆ ก็น่าจะรอได้ไม่น่าจะรีบร้อนอะไรขนาดนั้น และก็ได้คุยกับลูกๆ ก็เชื่อว่าน่าจะเป็นพวกมิจฉาชีพแก๊งตบทรัพย์ เพราะลักษณะพฤติการณ์เหมือนกันและเคยเกิดขึ้นมาแล้วที่ขอนแก่นหลายเหตุการณ์ จึงได้เข้าแจ้งความเอาไว้ที่ สภ.บ้านไผ่ เพื่อให้ตำรวจดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ