กระตุ้นศก.ช่องเม็ก รุดหารือแขวงจำปาสัก ชูศูนย์โลจิสติกส์ สานท่องเที่ยว-วัฒนธรรม

Home » กระตุ้นศก.ช่องเม็ก รุดหารือแขวงจำปาสัก ชูศูนย์โลจิสติกส์ สานท่องเที่ยว-วัฒนธรรม


กระตุ้นศก.ช่องเม็ก รุดหารือแขวงจำปาสัก ชูศูนย์โลจิสติกส์ สานท่องเที่ยว-วัฒนธรรม

อุบลราชธานี หอการค้า รุดหารือ เจ้าแขวงจำปาสัก ร่วมมือสองประเทศ กระตุ้นการค้าชายแดน ด่านช่องเม็ก ชูเส้นทางส่งสินค้าออกทะเล สานท่องเที่ยวธรรมชาติ วัฒนธรรมท้องถิ่น ภาษาพูดเหมือนกัน

30 พ.ค. 65 – จากสถานการณ์โควิด ระบาด ส่งผลให้บรรยากาศการค้าชายแดน ไทย-สปป.ลาว เกิดความเงียบเหงามากว่า 2 ปี ด้วยเหตุดังกล่าว หอการค้า จังหวัดอุบลราชธานี เดินทางรุดหารือ เจ้าแขวงจำปาสัก สปป.ลาว

เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในการกระตุ้นการค้าชายแดนผ่านด่านช่องเม็ก ทั้งสองประเทศ กลับมาคึกคักเหมือนเดิม โดยชูเส้นทางส่งสินค้าออกทะเล ไปประเทศที่ 3 ใกล้สะดวกกว่าชายแดนจุดอื่น สานแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ วัฒนธรรมท้องถิ่นและภาษาที่พูดเหมือนกัน

นายมงคล จุลทรรศน์ ประธานหอการค้า จ.อุบลราชธานี นำคณะผู้แทนหอการค้า สภาอุตสาหกรรม การค้า การท่องเที่ยวจังหวัด เข้าหารือกับ ดร.วิไลวง บุดดาคำ เจ้าแขวงจำปาสัก สปป.ลาว เพื่อร่วมมือกระตุ้นการค้าขายชายแดนระหว่าง ไทย ลาว ที่ยังเงียบเหงาจากการปิดด่านไปมาระหว่างกันเป็นเวลานานกว่า 2 ปี

ดร.วิไลวง เสนอว่า ทั้งสองฝ่ายควรเป็นศูนย์โลจิสติกส์ส่งสินค้าออกไปยังประเทศที่ 3 เพราะขณะนี้ ลาวมีถนนเชื่อมจาก จ.อุบลราชธานี ประเทศไทยผ่าน แขวงจำปาสัก ประเทศลาว ไปด่าน แขวงเซกอง เข้าสู่ท่าเรือ เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม ซึ่งไปมาได้สะดวก และมีระยะทางใกล้กว่าผ่านด่านที่จ.มุกดาหาร จะทำให้แขวงจำปาสัก และ จ.อุบลราชธานี เป็นศูนย์การขนส่งออกทางทะเลในภูมิภาคนี้ได้อย่างสบาย สำหรับ หอการค้า จ.อุบลราชธานี เห็นด้วยและสนับสนุนแนวความคิดของ เจ้าแขวงจำปาสัก

ขณะเดียวกันทางหอการค้า จ.อุบลราชธานี ได้เชิญฝ่ายลาว จัดนางรำเข้ามาร่วมแสดงวัฒนธรรมในงานประเพณีแห่เทียนพรรษา ประจำปี 2565 ช่วงเดือนกรกฎาคมที่จะถึง เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่ายให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

นายมงคล กล่าวว่า แขวงจำปาสัก เป็นประตูหน้าด่านของประเทศลาวตอนใต้ แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศเดินทางผ่านด่านช่องเม็กเข้าไปท่องเที่ยว สัมผัสคามเป็นธรรมชาติของลาวในช่วงเทศกาลสำคัญๆ ปีหนึ่งมีมูลค่าหลายร้อยล้านบาท

แต่หลังเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้การค้าขายและการท่องเที่ยวทั้งสองฝ่ายเกิดการหยุดชะงักเป็นเวลานาน เมื่อทางการไทย เปิดด่านค้าขายระหว่างกัน เมื่อวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา หอการค้าจ.อุบลราชธานี จึงเข้าหารือ และขอทราบความเห็นของฝ่ายลาว เพื่อนำมาปฏิบัติให้สอดคล้องให้เกิดประโยชน์ต่อนักลงทุนทั้งสองฝ่าย เพื่อกระตุ้นการค้าขาย การลงทุนชายแดนที่เงียบเหงามานาน

ประธานหอการค้า จ.อุบลราชธานี กล่าวต่อว่า การเข้าหารือครั้งนี้ เจ้าแขวงจำปาสัก ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ทั้งเรื่องการขนส่งสินค้า การท่องเที่ยวที่มีมูลค่าสูง การปิดด่านไป 2 ปี ทำให้มีความกังวลเรื่องสถานที่ท่องเที่ยว เรื่องการอำนวยความสะดวกต่างๆ เรื่องด้านสาธารณสุข มีความพร้อมหรือไม่ ปรากฏว่าทางฝ่ายลาวมีความพร้อมในทุกด้าน โดยเฉพาะเรื่องโรคระบาด ฝ่ายลาวมีการถอดแมสก์กลับมาใช้ชีวิตปกติ เพราะประชากรได้รับวัคซีนกันครบหมดแล้ว

“จึงเชื่อว่า การที่ท่านเจ้าแขวงให้ความสำคัญในทุกประเด็น ทุกมิติทั้งเรื่องการค้าขาย การท่องเที่ยว และวัฒนธรรมที่จะมีการแลกเปลี่ยนระหว่างจำปาสักกับอุบลราชธานี รวมทั้งการสาธารณสุขที่มีการผ่อนคลาย จะทำให้เศรษฐกิจของสองประเทศในภูมิภาคนี้ จะกลับมาคึกคัก มีเศรษฐกิจดีร่วมกัน เพราะนอกจากมีชายแดนติดกัน ก็ยังพูดภาษาเดียวกันด้วย”

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ