กระจ่าง! เปิดข้อกฏหมาย รูปในมือถือ ‘แตงโม’ หลุด ใครเข้าข่ายความผิดบ้าง

Home » กระจ่าง! เปิดข้อกฏหมาย รูปในมือถือ ‘แตงโม’ หลุด ใครเข้าข่ายความผิดบ้าง


กระจ่าง! เปิดข้อกฏหมาย รูปในมือถือ ‘แตงโม’ หลุด ใครเข้าข่ายความผิดบ้าง

กระจ่าง! เปิดข้อกฏหมาย รูปในมือถือ ‘แตงโม’ หลุด ใครเข้าข่ายความผิดบ้าง

จากกรณีภาพลับในมือถือ “แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์” ที่ “บังแจ๊ค” นำไปข่มขู่ “กระติก อิจศรินทร์” และนำไปโชว์ให้ “โม อมีนา” ได้เห็น โดยอ้างว่า “แม่ภนิดา ศิระยุทธโยธิน” อนุญาต

รายการโหนกระแสวันที่ 27 พ.ค.65 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์ อ.ปริญญา หอมเอนก ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ มาพร้อม ทนายเกิดผล แก้วเกิด เพื่อพูดถึงกรณีภาพหลุดเหล่านี้ จะมีใครที่มีความผิดบ้าง

อ.ปริญญาเป็นหนึ่งในผู้ร่าง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์?
ปริญญา : เป็นทีมงานผู้ร่วมร่าง เป็นที่ปรึกษาครับ มีทีมเป็น 10 กว่าคนครับ

กรณีโทรศัพท์มือถือแตงโม อยู่ดีๆ คุณแม่ที่วันนี้เป็นเจ้าของโทรศัพท์ ส่งไปให้บังแจ๊ค แล้วบังแจ๊คเอาข้อมูลทั้งหมดมาเปิดเผยมีความผิดอะไรบ้างมั้ย?
ปริญญา : ต้องดูว่าเข้าหลักกฎหมายอะไรบ้างมั้ย ถ้า พ.ร.บ.คอมพ์ การนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ ตัวคุณบังเขาบอกว่าเขาเป็นคุณแตงโม ทั้งที่คุณแตงโมเสียชีวิตไปแล้ว ข้อมูลที่เอาเข้าตั้งแต่เปิดเพจเขาเลย อันนี้ก็เท็จแล้ว สมมติเป็นเพจบังแจ๊คก็ถือว่าไม่เท็จเพราะเป็นตัวเขา แต่อันนี้มาสร้างเฟซบุ๊กเป็นของอีกคน คุณแตงโมตายไปแล้วก็จริง แต่สิ่งที่เขานำเข้าเป็นเท็จ เราแยกเป็นอีกเรื่องนึงนะ คนเสียชีวิตก็เสียชีวิต นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ ซึ่งเท็จตั้งแต่แรกก็ผิดอยู่แล้ว ข้อมูลที่โพสต์อาจเป็นข้อมูลจริงที่อยู่ในโทรศัพท์ แต่เพจของเขาเป็นเท็จ

ภาพที่เขาเอามาลง มีภาพคนโน้นคนนี้เอามาเปิดเผย อันนี้ยังไง?
ปริญญา : ถามว่าเจ้าของเขาอนุญาตมั้ย ก็ไม่ได้อนุญาต ถูกมั้ย พ.ร.บ.คอมพ์ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล วันที่ 1 นี้จะเริ่มแล้ว ไปเอารูปใครไม่รู้มาโพสต์ เจ้าของไม่อนุญาต อันนี้มีความผิดแน่นอน เพราะเจ้าของไม่ได้ยินยอม แต่คุณแตงโมเสียชีวิตไปแล้ว พ.ร.บ. คุ้มครองได้เขียนไว้ว่าไม่รวมคนเสียชีวิตไปแล้ว จึงทำให้ใช้ไม่ได้กับตรงนี้ แต่ พ.ร.บ.คอมพ์ปี 50 มีมาตรานึงบอกว่าถึงแม้เขาจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ทำให้เขาเกิดความอับอาย เสียชื่อเสียง บิดามารดาผู้สืบสันดาน สามารถฟ้องได้

ถ้าเกิดบิดามารดาไม่ฟ้องร้อง?
ปริญญา : ก็ถือว่าไม่มีเจ้าทุกข์ เพราะพ.ร.บ.เขาเขียนไว้ว่าให้ญาติ บิดามารดาสามารถฟ้องร้อง

ถ้าบิดามารดาอนุญาตให้โพสต์ได้ล่ะ?
ปริญญา : สมมติคุณแม่ผมอนุญาตให้ผมไปฆ่าคนตาย คุณหนุ่มว่าผมไปฆ่าคนตายได้มั้ย มันก็เหมือนกัน

ถ้าบิดาหรือมารดา อนุญาตให้คนนึงเอาภาพต่างๆ นานา ไม่ว่าภาพส่วนตัวหรือภาพคนอื่นๆ ไปลง?
ปริญญา : ส่วนตัวผมคิดว่าไม่น่าได้ แต่ต้องลองถามทนายดูว่าเป็นยังไง

ทนายเกิดผล : คำว่าอนุญาต ต้องเข้าใจว่าอนุญาตในสิ่งที่ถูกกฎหมายนะ แล้วการนำภาพลามก เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์มันถูกกฎหมายมั้ยล่ะ ถ้าไม่ถูกกฎหมาย มันก็คือไม่ได้

บังแจ๊คจะมาอ้างไม่ได้ว่าแม่อนุญาต?
ทนายเกิดผล : ใช่ครับ สมมติบังแจ๊คบอกว่าแม่อนุญาตให้ทำอะไรก็ได้กับมือถือของโม บังแจ๊คไปโพสต์ขายยาบ้า ได้หรือเปล่าล่ะ มันก็ไม่ได้ มันผิดกฎหมาย บังแจ๊คบอกว่าแม่อนุญาตแล้วไม่ผิด แม่เป็นตัวกฎหมายเหรอ กฎหมายคือกฎหมาย

งานจะเข้าแม่มั้ย?
ทนายเกิดผล : อยู่ที่ว่าแม่อนุญาตจริงหรือเปล่า

วันดีคืนดี บังแจ๊คโชว์ให้ดูว่ามีการพิมพ์กันในไลน์กับแม่ แล้วในนั้นแม่บอกโอเค บังอยากทำอะไรทำไปเลย เปิดไปเลย?
ทนายเกิดผล : ถ้าอย่างนั้นมันมีหลักกฎหมาย ส่วนเป็นผู้ใช้ผู้สนับสนุน ตัวการร่วมหรือเปล่า ขาใดขาหนึ่งถ้าอยู่ในนั้น แน่นอนถ้าบังติดคุก แม่ก็ติดคุกด้วยเท่านั้นเอง ถ้าบังทำผิดกฎหมาย แม่ให้ข้อมูล ให้การสนับสนุน ให้การช่วยเหลือ ก่อนหรือขณะกระทำความผิด ก็เป็นผู้สนับสนุน ใช้กระทำความผิดก็เป็นตัวการร่วม ก็มีความผิดเหมือนกัน

เป็นแบบนั้นมั้ย?
ปริญญา : ต้องกลับมาที่ตัวกฎหมาย พ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 16 ผู้ใดนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์ ปรากฏเป็นภาพผู้อื่น ภาพคุณแตงโม ภาพคุณกระติกเต็มไปหมดเลย ภาพนั้นอาจสร้างขึ้นจากการตัดต่อหรือวิธีการใดก็ได้ โดยทำให้ผู้นั้นเสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นเกลียดชัง หรืออับอาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ถ้าเกิดว่าผู้เสียหายตายเสียก่อนร้องทุกข์ บิดา มารดา คู่สมรส หรือบุตร สามารถร้องทุกข์ได้ ให้ถือว่าเป็นผู้เสียหาย ดังนั้นแม่ก็น่าจะอยู่ฝั่งเป็นตัวแทนคุณแตงโม และร้องทุกข์ด้วยซ้ำไป

แต่มันกลับกัน ทำยังไง?
ปริญญา : อย่างที่ทนายพูดผมเห็นด้วย ต้องพิสูจน์หลักฐานว่าแม่เกี่ยวข้องกับเขาหรือเปล่า ไปทำร่วมกับเขาหรือเปล่า แม่อาจไม่ได้พูดเลยก็ได้ ไม่ได้ทำเลยก็ได้ เขาบอกว่าแม่ให้เขา จริงๆ มันมีข้อมูลมั้ยว่าแม่ให้เขาหรือเปล่า ถ้าแม่ไม่ให้เขาก็ทำอะไรไม่ได้

ถ้าย้อนกลับไปอีกมุมนึง มุมบังแจ๊ค เป็นบุคคลที่ถูกผลักออกจากประเทศไทย เพราะมีเรื่องคดีเกิดขึ้น เป็นบุคคลไม่พึงประสงค์ ณ วันนี้เขาอยู่ต่างประเทศแล้ว สิ่งที่เขาทำข้อกฎหมายต้องอิงกฎหมายไหน?
ปริญญา : มาตรา 17 พ.ร.บ.คอมพ์เขียนไว้ชัดเจน ผู้ใดกระทำความผิดนอกราชอาณาจักร แบ่งเป็นหนึ่งกับสอง เขาเป็นคนไทยหรือไม่ ถ้าไม่ใช่คนไทยเข้าข้อสอง ผู้กระทำความผิดเป็นคนต่างด้าว รัฐบาลไทยหรือคนไทยเป็นผู้เสียหาย และผู้เสียหายได้ร้องขอให้ลงโทษ ต้องกลับมารับโทษภายในราชอาณาจักร

ต้องเกี่ยวข้องกับตร.สากลออกหมายแดง ต่างๆ นานา?
ทนายเกิดผล : ก็อีกเรื่องนึงครับตรงนั้น การกระทำของบุคคลนอกราชอาณาจักร แต่ความผิดเกิดขึ้นในส่วนใดส่วนหนึ่งราชอาณาจักร หรือคนไทยได้รับความเสียหาย มันสามารถลงโทษโดยกฎหมายไทยได้อยู่แล้ว พ.ร.บ. คอมพ์โพสต์ที่โน่น แต่ความผิดเกิดที่นี่ มันก็ต้องจัดการตามกฎหมายไทย แต่ติดตามจับกุมได้หรือไม่มันคนละส่วนกัน

เรื่องการปล่อยภาพออกมา มันใหญ่พอที่จะต้องให้ FBI หรือตร.สากลล็อกตัวแล้วส่งกลับไทยมั้ย หรือจะมีแค่ว่าผลักดันออกไป เพราะบังแจ๊คอีก 4 ปีเข้าไทยได้แล้ว เรื่องที่เกิดทำให้เขาไม่กลับเข้ามาได้อีกมั้ย?
ทนายเกิดผล : มันก็ขึ้นอยู่กับตร.ไทย รัฐบาลไทยนี่แหละครับ ว่าเล็งเห็นเรื่องสำคัญแค่ไหน บุคคลนี้เป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศหรือเปล่า คือเรื่องการไปโพสต์รูปน้องแตงโม เป็นเรื่องส่วนบุคคลเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่พฤติการณ์ของเขา ผมคิดว่าตร.ไทยคงต้องรู้ว่าคนนี้ๆ เป็นบุคคลไม่พึงประสงค์ ไม่ควรเข้าบ้านเรา แล้วควรเข้มงวดกับการดำเนินคดีกับคนนี้ ถึงจับกุมไม่ได้ก็ไม่ควรอนุญาตให้เข้ามา

เราต้องทำยังไงต่อไป?
ปริญญา : ต้องดูว่ามีผู้เสียหายร้องทุกข์มั้ย ถ้าไม่มีใครร้อง ก็ต้องไปดูว่าเจ้าหน้าที่รัฐมีอำนาจร้องทุกข์หรือเปล่า บางกรณีเจ้าทุกข์ยอมความกัน แต่เจ้าหน้าที่บอกเป็นความผิดที่รัฐยอมไม่ได้ แต่ความผิดพ.ร.บ.คอมพ์มันยอมความได้หมด อยู่ที่จะมีเจ้าทุกข์มั้ย แล้วร้องเรียนแล้วมีการไกล่เกลี่ยยอมความกันมั้ย ไม่ใช่อยู่ๆ ตร.เดินไปแจ้งความ ไม่ใช่แบบนั้น

ถ้าบังแจ๊คกล่าวลอยๆ ว่าแม่อนุญาต อันนั้นอาจไม่เข้า แต่เมื่อไหร่ที่บังแจ๊คโชว์หลักฐานว่ามีการพูดคุยกันในไลน์ต่างๆ นานาแล้วพิสูจน์ได้ว่าเป็นของแม่จริง ก็เป็นอีกเรื่องนึง?
ปริญญา : ใช่ แล้วกฎหมายไทยมีเรื่องเจตนาด้วย แม่อาจไม่เจตนาก็ได้ เขาอาจอยากรู้ความจริงว่าลูกสาวถูกฆาตกรรมหรือไม่ ท่านอาจคิดว่าคุณบังจะสามารถช่วยคลี่คลายให้ท่านได้มั้ย เจตนาท่านอาจไม่ใช่ทางลบก็ได้ คิดว่าคงไม่มีคุณแม่คนไหนมีเจตนาทำร้ายลูกทั้งที่ลูกเสียชีวิตไปแล้ว

วันนี้ 6 คนไปรับฟังคำสั่งฟ้องของอัยการ จังหวัดนนทบุรี ล่าสุดมีข่าวว่าอัยการอาจเลื่อนในการสั่งฟ้องออกไป 1 เดือน แต่ระหว่างพูดคุยต้องรอทางฝั่งอัยการประกาศเองก่อนนะ แต่ในมุมผู้สื่อข่าวที่อยู่ตรงนั้นเขาเริ่มมีการพูดกันออกมาแล้ว และไม่น่าจะเหนือการคาดหมาย แต่แท้จริงยังไงต้องรอฝั่งอัยการ ถ้ามีการเลื่อนจริงๆ ประเด็นนึงคือเรื่องนี้ฝั่งอัยการภาค 1 ท่านเองเป็นคนสั่ง สองสำนวนเยอะมาก อาจยังสรุปไม่ได้ หรือสามเรื่องคุณอัจฉริยะที่ไปร้อง 8 ข้อเมื่อวานนี้ พี่เกิดมองตรงไหน?
ทนายเกิดผล : ส่วนตัวมองว่าการจะเลื่อนหรือไม่เลื่อน อยู่ที่อัยการ ผมเชื่อว่าอัยการถ้าจะเลื่อนเป็นเหตุผลหลักในการพิจารณาคดีก็คือหลักฐานมากเกิน ไม่เรียบร้อย หรืออธิบดียังไม่มีคำสั่งมากกว่ากรณีคุณอัจฉริยะไปร้อง เพราะกรณีคุณอัจฉริยะไปร้อง เพิ่งร้องเมื่อวาน มันไม่มีเหตุอะไร ถ้าฟัง 7-8 ข้อ บุคคลที่น่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการร้องขอความเป็นธรรม ส่วนใหญ่เป็นผู้เสียหายกับจำเลย คุณอัจฉริยะไม่ได้อยู่ในฐานะอะไรด้วยซ้ำ แต่พนักงานอัยการท่านต้องพิจารณาจากพยานหลักฐานที่อยู่ในมือเป็นหลัก ถ้าพยานหลักฐานเพียงพอท่านก็สั่งฟ้อง แต่ถ้าสั่งฟ้องไม่ทัน การสั่งฟ้องไม่ทันมันก็เกิดขึ้นบ่อยๆ ในหลายๆ คดี ลูกความเองก็เลื่อนแล้วเลื่อนอีก รออัยการสั่งฟ้อง ก็ยังไม่สั่งฟ้องสักที ไม่ซับซ้อนเหมือนคดีนี้ด้วยนะ แต่สำนวนอัยการไม่ได้มีแค่คดีแตงโมคดีเดียว มีเยอะในจังหวัดนนทบุรีก็ล้นมือเหมือนกัน

อัยการจำเป็นต้องสอบคนที่อัจฉริยะร้องมั้ย?
ทนายเกิดผล : ขึ้นอยู่กับความจำเป็น อัยการมองว่ามันจำเป็นแค่ไหนมันเกี่ยวเนื่องหรือเชื่อมโยงให้เห็นว่าที่พนักงานสอบสวนสอบมามันมีพยานหลักฐานสนับสนุนมั้ย แต่ถ้ามันมาคนละแนวเลย ผมว่าอัยการไม่น่าจะไปทางนั้น

กรณีมีการขอให้ตรวจสอบคราบเลือดบนเรือใหม่ ตรงนี้ตร.ทำแล้ว น่าจะมีการสรุปทุกอย่างส่งให้อัยการนนทบุรีเรียบร้อย แต่มุมอัจฉริยะ และสังคมยังติดใจอยู่ สามารถตรวจใหม่ได้มั้ย?
ทนายเกิดผล : อัยการสามารถมีคำสั่งให้ตรวจใหม่ได้อยู่แล้วครับ ก่อนส่งฟ้องคดี แต่ถ้าอัยการเห็นว่ามันซ้ำซ้อนไม่มีประเด็นใหม่ ไม่มีพยานหลักฐานที่เปลี่ยนแปลงท่านก็ไม่สั่ง แต่ถ้าเห็นว่าพยานหลักฐานใหม่ น่าเชื่อ ทำให้ข้อมูลสมบูรณ์มากขึ้น ท่านก็สั่ง

โฟนอิน “เดวิด CSI LA” ขับเคลื่อนเพจ CSI LA เห็นว่าตามเรื่องบังแจ๊ค?
เดวิด : ตามมาตั้งแต่เรื่องแตงโม ตอนแรกไม่ได้ให้ความสนใจกับเขามากจนกระทั่งเห็นเขาเอาคลิปแตงโมมาปล่อยจนผมรู้สึกทนไม่ได้เลยต้องออกมา

คุณเดวิดอยู่อเมริกา?
เดวิด : ใช่ครับ

เห็นบอกล่าสุดตามแล้วมีการยืนยันว่าบังแจ๊คเป็นคนขับอูเบอร์?
เดวิด : ใช่ครับ ขับอูเบอร์อีส ส่งอาหาร ล่าสุดมีคนเพิ่งเจอเขาเลยตอนนี้ ไปรับแฟนเขาที่ร้านอาหารไทย แฟนเขาเป็นเด็กเสิร์ฟอาหาร ตอนนี้คนไทยที่นี่สามัคคีกันมากต้องการไล่จับบังแจ็คให้ได้ ตอนนี้เลย นาทีที่แล้ว บังแจ๊คเพิ่งไปรับแฟนมาที่ร้านอาหารที่ชิคาโก้ อิลลินอยส์ ตอนนี้ที่ชิคาโก้ประมาณตี 1 แล้ว เพิ่งไปรับแฟน เขาชอบรับดึก เพราะเขาขับรถแท็กซี่ด้วย ขับรถส่งอาหารด้วย แฟนทำร้านอาหารครับ

เห็นว่าข้อมูลที่คุณลง บังแจ๊คมีการปกปิดชื่อ และเปลี่ยนชื่อตอนเข้าไทย?
เดวิด : ตอนเข้าไทยเขาใช้พาสปอร์ตปากีสถาน ไม่ได้เป็นอเมริกัน ซิติเซ่นครับ แต่อันนี้คือชื่อจริงครับ ตรวจสอบแล้ว ที่ผ่านตม.มาขอจริง เราจับโป๊ะเขาได้แล้วที่เขาอ้างว่าเกิดที่อเมริกาเป็นอเมริกันซิติเซ่น แต่ตอนเขาเข้าไทย ผมได้ข้อมูลจากตม.ว่าตอนเข้าไทย พาสปอร์ตนัมเบอร์ของเขาเป็นปากีสถาน และมีทีมงานที่เมืองไทยส่งข้อมูลนี้มาให้ผม เลยจับโป๊ะเขาได้ แต่แปลกที่เราไม่เจอชื่อเขาที่อเมริกา อันนี้ก็สงสัย แต่ตอนนี้รู้แล้ว

ทำไมคนไทยที่โน่นรวมตัวกันตามหาบังแจ๊ค?
เดวิด : ทุกคนรับไม่ได้ที่บังแจ็คพยายามมาปั่นกระแส เราไม่ได้เข้าข้างตร. หรือพยายามมาดิสเครดิตเขา แต่ทุกคนรู้สึกรำคาญมาก ถ้าเขามีอะไรที่สามารถช่วยเรื่องคดี ควรส่งมาเลย ไม่ใช่มาปั่นทุกวัน มาทำเป็นเล่นสนุกสนาน ถ้ามีคลิปเด็ดจริงก็ปล่อยออกมาเลย ผมจะไม่ขัดเลยและจะช่วยเขาด้วย

ทางโน้นจะทำยังไงต่อไป?
เดวิด : ตอนนี้เรารู้ที่อยู่เขาทุกอย่างและส่งคนไปที่บ้านเขาแล้ว บอกว่าเรารู้ตัวตนคุณทั้งหมดแล้ว ฉะนั้นมาทำแบบนี้เพราะคิดว่าไม่มีใครทำอะไรคุณได้ มันไม่ใช่ครับ มาล้อเล่นกับคนไทย มาปั่นกระแส คนไทยที่อเมริกาเราไม่พอใจกันมาก ตอนนี้เราสามัคคีกันมาก เรามีการตรวจสอบ จากการที่เขาไลฟ์สดที่ไทยรัฐ มีทีมงานช่วยกันหา ใช้กูเกิลสตรีทวิลล์ ดูตามซอกตรอกซอยจนกระทั่งเจอว่าตอนที่เขาไลฟ์สดมาจากบ้านเขา เรารู้เลยว่าถนนไหน มีการหาเจอ เราสามัคคีเราส่งนาตาชา ส่งสปายไปถ่ายรูปรถรูปอะไรที่หน้าบ้านเขาต่างๆ เห็นหมดทุกอย่าง มีป้ายทะเบียนทุกอย่าง ผมส่งให้โหนกระแสหมดแล้ว แล้วแต่ว่าจะเปิดหรือเปล่า เขามีรถสองคัน ไว้ส่งอูเบอร์ครับ รถที่เขาไลฟ์สดเป็นรถประมาณ 10 กว่าปีแล้วครับ

คนไทยที่อเมริกาได้คุยกับบังแจ๊คหรือยัง?
เดวิด : ไม่มีใครคุยกับบังแจ๊คครับ แต่ทุกคนจับตามองบังแจ๊ค สังคมเราไม่ใหญ่ ไปไหนคนก็รู้

เขาชอบขู่จะยิงคนหรือเปล่า?
เดวิด : เขาเข้าเมืองแบบผิดกฎหมาย ผมว่าเขาไม่กล้าซ่าที่อเมริกา เขาหนีเข้าเมืองมา ผมไม่เชื่อเขาเป็นคนอเมริกัน คงไม่กล้าซ่าครับ

ตร.ที่โน่นจับเขาได้มั้ย?
เดวิด : ผมแจ้งตร.ไปแล้วครับ ก็แล้วแต่ดุลยพินิจตร. แต่แจ้งไปแล้วว่ามีบุคคลอันตรายอยู่

ตอนนี้เป็นห่วงอะไรบ้าง?
ปริญญา : เคสเมื่อกี้ถือว่าดี เราต้องคอนเซิร์นรูปส่วนบุคคล สมมติเราขึ้นรถไฟฟ้า แล้วถ่ายรูปสาวคนนึงมาลงเฟซบุ๊กไม่ได้แล้วนะ หลังวันที่ 1 เป็นพ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

หลังวันที่ 1 มิ.ย
ปริญญา : ครับ คุณหนุ่มไปถ่ายกรุ๊ปโฟโต้กับเพื่อน แล้วมีหน้าเขาอยู่ คุณหนุ่มจะลงในเฟซคุณหนุ่ม คุณหนุ่มถามเขาหรือยังว่าเขาสะดวกให้ลงหรือเปล่า

ถ้านักข่าวถ่ายมา แล้วบังเอิญมีคนอยู่รอบข้าง โดนมั้ย?
ปริญญา : ข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าทางตรงหรืออ้อม ถ้าระบุตัวตนคนนั้นได้ ถือว่ามีความผิดเลย เช่น คุณหนุ่มมีรหัสไปรษณีย์ที่บ้าน ถ้ารหัสไปรษณีย์หลุดก็ไม่ผิด เพราะคนแถวนั้นมีรหัสไปรษณีย์นี้หมดเลย มันระบุตัวคุณหนุ่มไม่ได้ แต่ถ้าเป็นบ้านเลขที่หรือเบอร์โทรศัพท์ที่ผมโอนพร้อมเพย์ให้คุณหนุ่ม ชื่อคุณหนุ่มขึ้นเลย อันนี้ข้อมูลส่วนบุคคลแล้ว

ตอนนี้ห่วงเรื่องการทำข่าว สมมตินักข่าวสัมภาษณ์ใครสักคน แล้วคนอยู่รอบข้างเห็นติดมาด้วย แล้วไม่ได้เบลอหน้าเขา?
ปริญญา : มีความผิดเลย ยกตัวอย่างไปงานเปิดตัวแอปเปิ้ลที่สยาม เขาจะมีป้ายเลยว่าก่อนเดินเข้ามาดูในงานจะมีกล้องวงจรปิดเก็บภาพหมดเลย ถ้าไม่โอเค คุณไม่ต้องเข้า แต่งานมอเตอร์โชว์มีแบบนี้มั้ย บางคนไปดูมอเตอร์โชว์ไป พากิ๊กไป แล้วเขากำลังถ่ายโฆษณาในงาน แล้วภาพเขากับกิ๊กหลุดไป ถามว่างานมอเตอร์โชว์มีความผิดมั้ย เพราะเขาไม่ได้อยากให้ใครรู้ว่าวันนั้นเขาไปเดินในงาน แต่มีการถ่ายหน้าเขาพอดี มันต้องมีป้ายบอกที่หน้างานเลยว่าในงานจะมีกล้องวงจรปิด และคุณต้องยอม

ทีมข่าวผมไปทำข่าว หรือทีมข่าวใครกำลังไปทำข่าว แสดงว่าเราต้องประกาศว่าถ้าใครไม่อยากเห็นหลบไป แบบนี้เหรอ?
ปริญญา : ไม่ได้หมายความอย่างนั้น หมายถึงว่าการมีข้อมูลคนอื่นอยู่รอบด้านถ้าจะเอาให้ถูกต้อง ต้องขออนุญาตเขาก่อน ไม่งั้นก็ต้องเบลอหน้าเขา

มันเป็นแบบนั้นเหรอ?
ทนายเกิดผล : ในมุมมองผมค่อนข้างแตกต่างจากอาจารย์นิดนึง หลักกฎหมายอาญาดูที่เจตนาเป็นหลัก ไม่ได้หมายความว่าใครเดินผ่านไปผ่านมา เด็กวิ่งผ่านไปผ่านมา หมายถึงว่าเราเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเขา เรามีเจตนาเปิดเผยข้อมูลเขาหรือเปล่า ก็เป็นเหตุสุดวิสัย

เรื่องโทรศัพท์กับคราวด์ อยากเตือนอะไรคนถือโทรศัพท์บ้าง?
ปริญญา : คือคนเข้าใจว่าข้อมูลอยู่ในเครื่อง เครื่องตกน้ำหายไปแล้วก็จบ แต่มันไม่จบ จะมีอีกชุดนึง เหมือนคนในเรือ 5 คน สมมติโทรศัพท์หายไปหมดแล้ว ตกน้ำหายไป แต่ชุดข้อมูลของเขา เขาเรียก Digital Footprint ร่องรอยโทรศัพท์มาก่อนและหลังถูกเก็บไว้ในคลาวด์ด้วย ซึ่งการเข้าคราวด์ต้องมี username พาสเวิร์ด ถ้ามีใครแอดเข้ามา ใส่เบอร์อะไรเข้ามา ก็อาจเข้าถึงข้อมูลบุคคล คนนั้นได้ ไม่ใช้คลาวด์ไม่ได้ เพราะไอคลาวด์เป็นไซส์บังคับไว้ 5 GB เขามีพื้นที่ให้ 5 GB พอล็อกอินไอดีเขาดูดเข้าคลาวด์เลย ยังไงก็หนีไม่พ้น

ฝากพี่เกิดผล ถ้าผมเป็นอะไรขึ้นมา โทรศัพท์เครื่องนี้หักทิ้งเลยนะ?
ทนายเกิดผล : จะเก็บไว้ให้เป็นอย่างดีครับ

ไม่ต้องเก็บ เมื่อเช้าเห็นพี่ยุทธพูดไปทีนึงแล้ว ฝากน้องไบรท์ว่าถ้าเป็นอะไรขึ้นมา ห้ามเอาโทรศัพท์ไปเปิดเผยเด็ดขาด ผมตามอาจารย์ผมด้วยแล้วกัน ของผมหักทิ้ง?
ทนายเกิดผล : ของผม ผมก็จะเขียนจดหมายบอกว่าห้ามเอาไปเปิดเผยที่ไหนเหมือนกัน

ควรต้องทำแบบนี้มั้ย ห้ามส่งให้ใครถ้าเสียชีวิตไปแล้ว?
ปริญญา : ต้องพูดถึงว่าห้ามเอาข้อมูลที่อยู่บนคลาวด์ไปเปิดเผยด้วย ส่วนเรื่องเจตนาต้องไปตีความกันต่อ

วันที่ 1 ถ้าเอารูปมาโพสต์โดยเจ้าตัวไม่ได้รับอนุญาตมีความผิดทันที ความผิดแรงมั้ย?
ปริญญา : แต่ก่อนเรื่องนี้บ้านเราไม่มี แต่เกิดขึ้นในสหภาพยุโรป ความผิดของเขาไม่มีอาญา มีแต่แพ่ง แต่ยกตัวอย่าง คนเราชอบไปเที่ยว ไปมิลานดูโบสถ์ แถวนั้นมีกล้องวงจรปิดเพียบเลยที่ร้านพิซซ่า แล้วมันถ่ายติดหน้าเราแล้วหลุดออกไป เราสามารถไปฟ้องร้องร้านนั้นได้ว่าคุณไม่ได้ติดป้ายว่าแถวนี้เป็นแอเรียซีซีทีวี หลักการคุ้มครองคือคุณจะจัดแถลงข่าว จัดคอนเสิร์ตอะไรไม่ว่ากัน แต่คุณมีป้ายบอกหน่อยว่าถ้าคุณเข้ามาในแอเรียนี้แล้ว จะถูกถ่ายโดยกล้องวงจรปิด แค่นี้คุณก็ไม่ผิดกฎหมายแล้ว แต่ที่เขาฟ้องกันคือคุณเอาภาพไป เจตนาหรือไม่ไม่รู้ แต่เขาได้รับความเสียหาย

พ.ร.บ.ตัวนี้ มีทั้งดีและวุ่นวายหรือเปล่า?
ปริญญา : แน่นอน มีสองด้านเสมอ

สมมติเราไปถ่ายรูป แล้วมีคนยืนอยู่ข้างหลัง เราเอาไปลงอินสตาแกรม เขาไม่แฮปปี้ ผิดมั้ย?
ปริญญา : ถ้าข้อมูลส่วนบุคคลบอกว่าเขาอยู่เวลานั้น ร้านนั้น ข้อมูลเขาก็ถูกเปิดเผยมาแล้ว มี 3 อัน เก็บ ใช้ และเปิดเผย เก็บอย่างเดียวไม่ผิดอยู่แล้ว แต่ถ้าใช้และเปิดเผย แล้วคนอยู่ข้างหลังไม่อนุญาต

ดูวุ่นวายกับชีวิต?
ปริญญา : ใจเย็นๆ คนไม่ตั้งใจก็มีช่วงผ่อนผัน ทำความเข้าใจให้รู้ ไม่งั้นวันนึงจะมีกี่คดี ถ้าตรงนี้ไม่ตั้งใจก็มาคุยกัน จะมีคณะกรรมการ คณะผู้เชี่ยวชาญ และมีคณะที่ฟันธงว่าผิดหรือไม่ผิด

การทำแบบนี้ไม่ยิ่งเพิ่มภาระให้ศาลเหรอ?
ปริญญา : ไม่ๆ จะมีคณะกลั่นกรองและคอยดู อาจมีการเจรจากัน ไม่ใช่ทุกอันขึ้นศาล ก็ตายน่ะสิ

วันนี้ใช้ชีวิตย๊ากยาก การถ่ายรูปเซลฟี่กับอาหาร ติดข้างหลังมากับใครก็ไม่รู้ แล้วติดต่อมาว่ามึงลงอินสตาแกรมไป กูฟ้องมึงเลย กูหนีเมียมาเกินข้าวกับผู้หญิงกูเดือดร้อน เมียด่ายับเลย ผมซวย?
ปริญญา : ใช่ เพราะคุณหนุ่มถือเป็นผู้ควบคุมข้อมูลนี้อยู่

แม้แต่คนอื่นๆ ก็เหมือนกัน เห็นหน้าคนอื่นติดไปด้วย เขาบอกทำให้เดือดร้อน ไม่ต้องการให้ใครรู้ว่ามาปฏิบัติราชการ หนีเมียหนีแฟนมา ก็โดนหมด?
ปริญญา : ผ่านมา 4 ปี ทั้งยุโรปทำกัน ผมว่า 30-40 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง ไม่สามารถทำได้เป๊ะๆ อย่างที่บอกหรอก

กรณีมีการลงโซเชียลด่าทอกันต่างๆ นานา ตรงนี้ไม่มีมาตรการไปตามเหรอ?
ปริญญา : ต้องแจ้งความและหาคนผิด ตอนนี้ไม่มีกฎหมายที่ว่าทุกคนต้องแสดงตัวทั้งหมด สมมติคุณหนุ่มมีเพจโดเรม่อนอันนึงแล้วเล่นเอง แต่ไม่ได้บังคับว่าต้องเป็นกรรชัย ไม่มีกฎหมายว่าทุกคนต้องแสดงตัว พอเจอแอ็กหลุมถามหน่อยจะรู้ได้ไง ว่าใครเป็นเจ้าของ ก็ต้องทำข้อมูลไปขอศาลให้ออกหมายศาล มีตราครุฑ ซึ่งก็ต้องให้ข้อมูลเท่าที่เขามี แต่ถ้าเขามีข้อมูลแต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร ก็เป็นหน้าที่ตร.ต้องไปสืบต่อ แม้แต่สหรัฐยังระบุตัวตนคนทั้งหมดไม่ได้เลยว่าเป็นใคร

มีคนไปถ่ายนักแสดงคนนึง เอาไปขึ้นโดยไม่ได้ขออนุญาต ผิดมั้ย เพราะเขาเป็นบุคคลสาธารณะ?
ปริญญา : ในกฎหมายไม่ได้บอกว่าเป็นบุคคลสาธารณะแล้วไม่ผิด กฎหมายมีเรื่องการยกเว้นเรื่องมีเดีย ผู้สื่อข่าว การทำข่าว กฎหมายมีอยู่

ถ้ามีคนสแนปภาพ ถ่ายภาพ เอามาขึ้นโดยนักแสดงคนนั้นไม่อนุญาต เขาสามารถกลับมาฟ้องได้?
ปริญญา : ถือว่าละเมิดสิทธิส่วนบุคคล เขาไม่ได้อยากให้เอาภาพนั้นขึ้น แต่ในความเป็นจริง เขามีแฟนคลับกี่คน จะดำเนินคดีกับทุกคนเลยเหรอ ในความเป็นจริงไม่น่าเกิดขึ้น

พี่เกิดมองยังไง?
ทนายเกิดผล : มันเป็นกฎหมายใหม่ ไม่รู้สมบูรณ์แค่ไหน ผู้บังคับใช้กฎหมายอย่างตร.เอง มีความรู้ มีการตีความ อย่างที่บอกว่าจะดูยังไงว่าเจตนาหรือไม่เจตนา ความเสียหายเป็นยังไง เช่น เราถ่ายรูปนักแสดง ดารา แล้วเอามาโชว์เพื่อน ถ้านักแสดง ดารา ไม่อยากให้ถ่ายรูปก็ต้องติดประกาศ ต้องขออนุญาตก่อน ใครจะเข้าชม มันต้องตีความ ให้มันสมบูรณ์ก่อน

กฎหมายที่จะออกมา มีช่องว่างอะไรมั้ย?
ปริญญา : ปัญหาคือคนยังไม่เข้าใจ ทั้งคนเก็บและคนถูกเก็บ คนที่เป็นเจ้าของข้อมูลยังไม่รู้ตัวเองมีสิทธิ์อะไร อย่างบางทีเก็บข้อมูลคนมาเต็มเลย เขาไม่รู้เอาภาระมา บางทีข้อมูลรั่วไป มีความผิด

ต่อไปนี้ถ้าจะสัมภาษณ์ใครก็ตามแต่ในรายการ ต้องทำหนังสือฉบับนึงในการยินยอมให้นำเสนอ?
ปริญญา : จริงๆ ต้องเป็นอย่างนั้น

สุดท้ายเขาบอกว่าเขามานั่งแล้วไม่ได้ยินยอมก็ได้?
ปริญญา : สัมภาษณ์สำนักข่าวต่างประเทศ กระดาษมาก่อนเลย ถ้าไม่อนุญาต เขาไม่สัมภาษณ์ ก็ทำไว้ก็ดีกว่า มันแฟร์ ข้อมูลเป็นของช่อง 3 เป็นของรายการ ยินยอมให้เอาไปได้ จะได้เป็นบรรทัดฐานกับรายการอื่นๆ ด้วย

สมมติมีคนมานั่งในรายการ มีเอกสารบางตัว ขออนุญาตเขาแล้ว เขาอนุญาต เราก็โชว์ สุดท้ายเขาไปฟ้องเรา ทั้งที่เรามีหลักฐานต่างๆ นานา แบบนี้เราผิดมั้ย?
ปริญญา : คิดว่าถ้ามีการยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลได้ เท่ากับเขายอมแล้ว

ทนายเกิดผล : ไม่ผิดอยู่แล้ว ถ้าเขาอนุญาตก็ไม่ผิดอยู่แล้ว แม้กระทั่งไปเปิดเผยข้อมูลทางราชการ พูดตรงๆ มันมีฎีกา เอาหมายจับไปปิดประกาศในร้านตัวเองว่าคนนี้ฉ้อโกง ไปปิดประกาศแล้วเขียนข้อความเพิ่มเติมที่ไม่เกี่ยวกับหมายจับ ศาลมองว่าเจตนาประจาน ความผิดฐานหมิ่นประมาท แต่ถ้าตัดข้อความที่เจตนาประจาน เช่น หาเบาะแส ผมว่าไม่ผิด ขึ้นอยู่กับเจตนา หรือกรณีขออนุญาตแล้ว ตร.ออกหมายจับแล้วตร.ไม่จับซะที ผมก็โพสต์หาเบาะแสให้คนพบเห็นชี้เบาะแส ผมว่ามีประโยชน์ ลูกความไม่เสียหาย กรณีที่ลูกความยินยอมให้โพสต์หรือแสดง ผมว่าไม่ผิด

ปริญญา : อยากเตือนห้างร้านต่างๆ ถ้ามีกล้องวงจรปิดก็ติดป้ายซะหน่อยครับ ว่าบริเวณนี้เป็นบริเวณซีซีทีวี แอเรีย ให้คนเขาเห็นว่ามีกล้องนะ ถ้าไม่อยากให้โดนถ่ายก็ไม่ต้องเข้ามา เพื่อให้ถูกต้องตามพ.ร.บ. เท่านั้นเอง ทุกตึกด้วย ถ้าขอแลกบัตร ดูดชิฟถ่ายหน้าบัตรหมดเลย ในบัตรประชาชนมีข้อมูลส่วนบุคคลไม่ได้นะครับ ผมต้องยินยอม ผมกลับไปแล้ว คุณเซฟบัตรประชาชนผมไว้ เป็นภาระคุณนะครับ

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ