กรมเจ้าท่าพบ เรือที่แตงโม พลัดตก ใบอนุญาตหมดแล้ว เตรียมดำเนินคดี วอนเรือที่ผ่านจุดเกิดเหตุ ให้แล่นช้าลง แจงขึ้นเรือต้องใส่ชูชีพ ไม่ทำผิด

วันที่ 25 ก.พ.2565 นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ด้านความปลอดภัย แถลงข่าวกรณีแตงโม นิดา-พัชรวีระพงษ์ นักแสดงชื่อดังพลัดตกเรือสูญหายเมื่อวานนี้ โดยทางกรมได้ตรวจสอบรายละเอียดเหตุการณ์ทั้งหมดแล้ว พบว่าแตงโมนั่งอยู่ท้ายเรือก่อนพลัดตกแม่น้ำเจ้าพระยาไป โดยใบอนุญาตของเรือสิ้นสุดลงแล้วด้ว

ทั้งนี้ทางกรมได้ตรวจเรือลำดังกล่าว ชื่อ โคบอล 25 เป็นเรือประเภทเรือกลเดินทะเลเฉพาะเขต ประเภทใช้สำหรับสำราญและกีฬาเรือเร็ว มีนายประพิณวิช รอดบางยาง เป็นเจ้าของเรือ เรือสามารถบรรทุกคนโดยสารได้จำนวน 8 คน ทำการจดทะเบียนเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2564 ณ เมืองท่าพัทยา ใบอนุญาตใช้เรือหมดอายุวันที่ 27 มกราคม 2565 ได้ทำประกันภัยไว้กับ บมจ.คุ้มภัยโตเกียวมารีนประกันภัย(ประเทศไทย) สิ้นสุดการคุ้มครอง 28 มกราคม 2565

จากการตรวจสอบฐานข้อมูลระบบทะเบียนเรือพบว่าใบอนุญาตใช้เรือลำนี้สิ้นอายุแล้ว พร้อมด้วยกรมธรรม์ความคุ้มครองได้สิ้นสุดลงด้วย แต่เนื่องจากอยู่ในการประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉินฯ ฉบับที่ 42 ซึ่งสิ้นสุดในวันที่ 31 มีนาคม 2565 พร้อมกันนี้กรมเจ้าท่า ได้มีประกาศกรมเจ้าท่าที่ 26/ 2564 สามารถให้เจ้าของเรือมาดำเนินการต่ออายุใบอนุญาติใช้เรือได้ต่อจากวันสิ้นสุด พรก.ฉุกเฉินฯ ได้อีก 60 วัน

อย่างไรก็ดีในกรณีดังกล่าว เรือลำนี้ใช้เรือเพื่อบรรทุกคนโดยสาร ในวันและเวลาที่เกิดเหตุ จึงถือได้ว่าเป็นเรือสำหรับโดยสาร หากไม่ได้ยื่นต่อทำประกันภัยเพื่อคุ้มครอง ก็จะไม่ได้รับการอนุโลม ตามประกาศกรมเจ้าท่าที่ 111 / 2564 ลงวันที่ 25 พฤษภาคม 2564 จากข้อมูลข้างต้นสามารถสรุปได้ว่าเรือลำนี้ใช้สำหรับโดยสารในขณะที่ใบอนุญาตใช้เรือสิ้นอายุแล้ว กรมเจ้าท่า จะทำการเปรียบเทียบปรับในกรณีใบอนุญาตใช้เรือสิ้นอายุ

ส่วนภารกิจการค้นหายังคงดำเนินการต่อเนื่อง โดยขอให้เรือที่ต้องเดินเรือผ่านบริเวณสะพานพระราม 7 ระมัดระวัง ไม่นำเรือเข้าใกล้ ให้เดินเรือช้าและเบา ให้เดินเรือชิดฝั่งด้านทิศตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา จนกว่าจะปฏิบัติการแล้วเสร็จ

ทั้งนี้ เรือสปีดโบ๊ทสามารถวิ่งในแม่น้ำเจ้าพระยาได้ แต่ต้องมีใบอนุญาตขับขี่เรือ จดทะเบียนกับกรมเจ้าท่า และต้องมีอุปกรณ์ช่วยชีวิตประจำเรือ ตามพ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย เน้นย้ำให้ผู้ควบคุมเรือแจ้งผู้โดยสารให้สวมใส่ชูชีพตลอดเวลา หากพบผู้โดยสารไม่สวมใส่ชูชีพ กรมเจ้าท่าจะดำเนินการเอาผิดกับผู้ควบคุมเรือในฐานะที่ปล่อยปะละเลยผู้โดยสาร ทำให้ไม่เกิดความปลอดภัยได้ ทางกรมเจ้าท่ามีอำนาจงดใช้ หรือยึดใบอนุญาตใช้เรือตามกฏหมายที่กรมเจ้าท่ากำหนดต่อไป