กรมอนามัย เตือนอย่าหาทำ เครื่องดื่มฮิต “อิ๊วโซดา” โซเดียมพุ่ง กระทบสุขภาพ

Home » กรมอนามัย เตือนอย่าหาทำ เครื่องดื่มฮิต “อิ๊วโซดา” โซเดียมพุ่ง กระทบสุขภาพ


กรมอนามัย เตือนอย่าหาทำ เครื่องดื่มฮิต “อิ๊วโซดา” โซเดียมพุ่ง กระทบสุขภาพ

กรมอนามัย เตือนอย่าทำตามกระแส เครื่องดื่ม “อิ๊วโซดา” โซเดียมพุ่ง 3,600 มิลลิกรัม เกินกว่าที่ควรรับแต่ละวัน กระทบสุขภาพ ย้ำใช้แค่ปรุงรสเล็กน้อย

วันที่ 11 เม.ย.2566 นพ.สราวุฒิ บุญสุข รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงกระแสสูตรเทรนด์เครื่องดื่มใหม่ “อิ๊วโซดา” ในโซเชียล โดยนำซีอิ๊วดำสูตร 1 จำนวน 3 ช้อนโต๊ะผสมกับโซดา 1 กระป๋อง ดื่มคลายร้อน และยังมีการนำซีอิ๊วดำราดไอศกรีมกินด้วย ว่า ซีอิ๊วดำมีส่วนประกอบหลัก คือ น้ำตาลทรายร้อยละ 56 กลูโคสไซรัป ร้อยละ 13.4 และซีอิ๊ว (soy sauce ) ร้อยละ 13.6 หากผสมซีอิ๊ว 3 ช้อนโต๊ะ เครื่องดื่มแก้วนั้นจะมีปริมาณน้ำตาลสูง และมีโซเดียมสูงถึง 3,600 มิลลิกรัม

ซึ่งซีอิ้วดำ 1 ช้อนโต๊ะ มีโซเดียมประมาณ 1,200 มิลลิกรัม เกินกว่าปริมาณที่เหมาะสมตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก คือ ไม่ควรกินน้ำตาลเกิน 6 ช้อนชาต่อวัน และโซเดียมไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน หรือเทียบเท่าเกลือ 1 ช้อนชา หรือน้ำปลาไม่เกิน 4 ช้อนชา หรือซีอิ๊วดำไม่เกิน 6 ช้อนชาต่อวัน

นพ.สราวุฒิ กล่าวว่า ปกติร่างกายจะได้รับน้ำตาล โซเดียมจากอาหารที่บริโภคทั่วไปในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว ประชาชนจึงควรระมัดระวังการดื่มเครื่องดื่มที่จะทำให้ร่างกายได้รับน้ำตาลและโซเดียมเพิ่มขึ้น อีกทั้งโซดาเป็นเครื่องดื่มอัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ละลายอยู่ในน้ำ ทำให้มีความซ่า ช่วยให้รู้สึกสดชื่น กะปรี้กะเปร่า แต่มีฤทธิ์เป็นกรด

หากดื่มตอนท้องว่างจะทำให้เกิดการระคายเคืองกระเพาะอาหาร และเต็มไปด้วยก๊าซที่ทำให้อิ่มเร็ว การดื่มโซดามากเกินไปอาจทำให้ร่างกายได้รับน้ำเปล่าไม่เพียงพอ โดยเฉพาะช่วงที่อากาศร้อนจัด ควรดื่มน้ำเปล่าที่ไม่เย็นจัด เพื่อคลายร้อน และช่วยลดอุณหภูมิของร่างกาย ป้องกันโรคลมแดด (heat stroke)

“ประชาชนควรทำความเข้าใจให้ดีก่อนทำตามกระแส ผู้ที่แพ้ถั่วเหลืองหรือกลูเตนต้องระวัง ย้ำว่าซีอิ๊วดำจัดเป็นเครื่องปรุงรสที่มีรสเค็ม แม้โซเดียมน้อยกว่าเกลือและน้ำปลา แต่ควรจะใช้เพื่อปรุงรสอาหารเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หากทำเป็นเครื่องดื่มอาจทำให้รับโซเดียมสูงมากเกินไป กระทบกับสุขภาพ ปัจจุบันมีการผลิตซีอิ๊วหลายสูตร ควรเลือกใช้ให้เหมาะตามวัตถุประสงค์ อ่านฉลากก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ สำหรับผู้ป่วยโรคไต หรือความดันโลหิตสูง ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารที่มีเกลือปริมาณสูงหรือบริโภคในปริมาณจำกัด” นพ.สราวุฒิ กล่าว

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ