​กรมราชทัณฑ์ ยื่นหนังสือชี้แจง ป.ป.ช. ปมช่วย ‘ทักษิณ’ ไม่ต้องติดคุก

Home » ​กรมราชทัณฑ์ ยื่นหนังสือชี้แจง ป.ป.ช. ปมช่วย ‘ทักษิณ’ ไม่ต้องติดคุก
ทักษิณ-ปก-min

​กรมราชทัณฑ์ ยื่นหนังสือถึง ป.ป.ช. ชี้แจง 5 ประเด็น ที่สังคมทั้งข้อสงสัย ปมให้การช่วยเหลือ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ ไม่ต้องติดคุก

วันที่ 23 เม.ย.67 ​กรมราชทัณฑ์ เผยแพร่เอกสารข่าวชี้แจงกรณีที่สื่อมวลชนเสนอข่าวหมอวรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี นำทีม เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. และกองทัพธรรม ส่งข้อมูลผู้ตรวจฯ ยื่น ป.ป.ช. ในการช่วยเหลือ นายทักษิณ ชินวัตร ไม่ต้องติดคุก โดยมีประเด็นต่างๆ เพื่อเรียกร้องคำตอบให้กับสังคมนั้น กรมราชทัณฑ์ ขอเรียนว่าได้ดำเนินการเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม กฎ ระเบียบ และภายใต้กฎหมาย ซึ่งสามารถชี้แจงได้ตามประเด็นต่าง ๆ ดังนี้

ประเด็นแรก การส่ง นายทักษิณ ไปรักษาที่รพ.ตำรวจ ไม่ได้ป่วยหนักจริง เพราะจากการแสวงหาข้อเท็จจริง พบว่าเป็นการส่งเพื่อป้องกันความเสี่ยงในประเด็นนี้ การส่งตัวออกไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจนั้น ขอเรียนว่า เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.ของวันที่ 22 สิงหาคม 2566 เจ้าหน้าที่พยาบาลเวรเรือนจำ ได้ตรวจติดตามอาการนายทักษิณ เนื่องจากเป็นผู้ต้องขังที่จัดอยู่ในกลุ่มเปราะบาง 608 (สูงอายุและมีโรคประจำตัว) และพบว่ามีอาการนอนไม่หลับ แน่นหน้าอก วัดความดันโลหิตสูง ระดับออกซิเจนปลายนิ้วต่ำ พยาบาลเวรเรือนจำ ได้ติดต่อขอคำแนะนำกับแพทย์ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์ได้สอบถามอาการโดยละเอียดแล้ว ตลอดจนพิจารณาจากรายงานประวัติการรักษาของผู้ป่วย โดยแพทย์จากโรงพยาบาลต่างประเทศ (สิงคโปร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์)

พบมีโรคประจำตัวหลายโรคที่อยู่ระหว่างการรักษา ติดตามอาการ เช่น กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ความดันโลหิตสูง พังผืดในปอด กระดูกสันหลังเสื่อม โดยโรคที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ คือโรคหัวใจ เนื่องจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ยังขาดเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีศักยภาพ แพทย์จึงมีความเห็นว่าเพื่อป้องกันความเสี่ยงอันตรายที่อาจจะส่งผลต่อชีวิต เห็นควรส่งตัวไปโรงพยาบาลตำรวจที่มีความพร้อม มีเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีศักยภาพสูงกว่า โดยแนวปฏิบัติกรณีมีผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจ ซึ่งอาจมีความเสี่ยงต่อชีวิตจะมีการส่งตัวรักษาให้ทันท่วงที และได้นำตัวส่งโรงพยาบาลเมื่อเวลาประมาณ 23.59 น.

ประเด็นที่ 2 การส่งตัวไปรพ.ตำรวจ ผิดกฎกระทรวงในการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ.2563 เพราะตามกฎกระทรวงต้องผ่านการรักษาพยาบาล จากสถานพยาบาลภายในเรือนจำเสียก่อน แต่จากรายงานไม่ได้ผ่าน ขอเรียนว่าเมื่อรับตัวนายทักษิณ เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ได้ดำเนินการตามมาตรฐานการรับตัวเสร็จเรียบร้อย และได้จัดให้อยู่ในสถานพยาบาล แดน 7 เพื่อสังเกตอาการ เนื่องจากการตรวจร่างกายเบื้องต้นพบว่าอายุ 74 ปี จึงถือว่าเป็นผู้สูงอายุ และมีโรคประจำตัว โดยมีโรคที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษคือ โรคหัวใจ และเมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. เจ้าหน้าที่พยาบาล ได้ตรวจติดตามอาการแล้วพบว่ามีอาการตามที่กล่าวแล้วในประเด็นแรก จึงได้นำตัวส่งออกรักษาตามความเห็นของแพทย์

  • เจอแล้ว! กะโหลกมนุษย์ ใกล้บ่อน้ำ สภาพถูกแทะ คาดเป็นส่วนที่ตามหา
  • เหิมเกริม! ลิงลพบุรีไม่แผ่ว ยกพวกฉีกป้ายต่อต้าน ไม่สนชาวบ้าน
  • อาลัย ‘แม่กิมไล้’ เจ้าของสูตรขนมหม้อแกงชื่อดัง จากไปด้วยวัย 90 ปี

ประเด็นที่ 3 ไม่มีการตัดผมนักโทษตามระเบียบ แม้จะอ้างว่านักโทษยังอยู่ รพ.ตำรวจ และต้องรอให้ รพ.ตำรวจส่งตัวกลับมาที่เรือนจำ ซึ่งฟังไม่ขึ้น เพราะนักโทษที่ไปรพ.ยังถือว่าเป็นผู้ถูกคุมขัง สำหรับเรื่องการตัดผมผู้ต้องขัง ขอเรียนว่า กรมราชทัณฑ์ ได้มีระเบียบว่าด้วยการตัดผมผู้ต้องขัง พ.ศ. 2565 โดยเรือนจำจะจัดให้ผู้ต้องขังเข้าใหม่ ได้รับการตัดผมภายในระยะเวลาที่เหมาะสม แต่ทั้งนี้ไม่เกิน 7 วัน กรณีรายนายทักษิณ ชินวัตร เมื่อเรือนจำได้รับตัว และกักโรคตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์แล้ว ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 23.59 น. ของวันที่ 22 สิงหาคม 2566 ได้ส่งออกไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจตามความเห็นของแพทย์โรงพยาบาลราชทัณฑ์ จึงเป็นระยะเวลาที่อยู่ในระหว่างการรักษาของแพทย์ เมื่อพ้นการรักษาแล้วเรือนจำก็จะได้ดำเนินการตามระเบียบต่อไป

ประเด็นที่ 4 การจัดให้อยู่ชั้น 14 ซึ่งเป็นห้องพิเศษ อยู่ต่อเนื่อง 180 วัน ผิดกฎกระทรวง ที่กำหนด ไม่มีเหตุผลที่อ้างเรื่องความปลอดภัย เพราะถ้ามีปัญหานี้ ตามกฎกระทรวง ต้องส่งกลับมารักษาที่รพ.ราชทัณฑ์ หรืออ้างเตียงสามัญและ ICU เต็ม ก็ฟังไม่ขึ้น สำหรับห้องพักรักษาตัวของผู้ป่วย โรงพยาบาลที่ทำการรักษาจะเป็นผู้กำหนดว่า จะให้ผู้ป่วยพักรักษาที่ห้องใด ตึกใด เพื่อการรักษาทางการแพทย์ กรณีอดีตนายกทักษิณ ชินวัตร โรงพยาบาลตำรวจได้กำหนดห้องสำหรับการพักรักษา ซึ่งเป็นไปตามกฎกระทรวงการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ. 2563 กล่าวคือ สถานพยาบาลที่ทำการรักษาจัดให้ และเป็นไปตามแผนการรักษาของแพทย์

ประเด็นที่ 5 การให้พักโทษกรณีพิเศษ ก็ให้คะแนนต่ำกว่าความเป็นจริง ที่สำคัญการมีคะแนนต่ำกว่า 11 คะแนน นักโทษต้องมีสภาพย่ำแย่ เพื่อไปใช้ชีวิตบั้นปลายกับครอบครัว สภาพการช่วยเหลือตนเองไม่ได้ ต้องต่อเนื่อง ระยะยาว จึงได้รับสิทธิ์พักโทษกรณีพิเศษ ไม่ใช่ดูแข็งแรงแบบที่เห็น โดยการพักการลงโทษ เป็นไปตามพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 และกฎกระทรวง กำหนดประโยชน์ของนักโทษเด็ดขาด ฯ พ.ศ. 2562 และประกาศกรมราชทัณฑ์ เรื่อง หลักเกณฑ์การพิจารณาพักการลงโทษ พ.ศ. 2562 ได้กำหนดประโยชน์ที่ผู้ต้องขังเด็ดขาดได้รับ

โดยกรณีนายทักษิณ (อดีตนายกฯ ) ได้เข้าคุณสมบัติที่ได้รับประโยชน์จากการพักการลงโทษ กรณีอายุ 70 ปี ขึ้นไป และไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ หรือช่วยเหลือตัวเองได้น้อย (โดยผลการประเมินตามแบบประเมินคัดกรองปัญหาสุขภาพผู้สูงอายุ ระยะยาวในชุมชน กรมอนามัยคะแนนไม่เกิน 11 คะแนน ) ซึ่งการประเมินดังกล่าวเป็นไปตามแบบเกณฑ์การประเมิน โดยผู้ทำการประเมินได้ดำเนินการประเมินตามสภาพข้อเท็จจริงที่ได้พบเห็นในข่วงระยะเวลาขณะนั้น

เอกสาร ราชทัณฑ์ (1)-min
เอกสาร ราชทัณฑ์ (2)-min

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ