กรมป่าไม้ ลุยนโยบาย รมว.ทส. “วราวุธ ศิลปอาชา” ส่งพยัคฆ์ไพร ผนึกกำลังทุกฝ่าย เปิดยุทธการรื้อทำลายต้นปาล์มน้ำมันที่หมดอายุพื้นที่ป่าปลายคลองพระยา รวม 5 พันไร่ ตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 พร้อมเตรียมฟื้นฟู กันพื้นที่บางส่วนประกาศเป็นป่าชุมชน
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 15 มี.ค. นายสมชาย นุชนานนท์เทพ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ (สจป.) ที่ 12 สาขากระบี่ และนายชาญชัย กิจศักดาภาพ ผอ.ส่วนปฏิบัติการพิเศษ หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) กรมป่าไม้ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตำรวจ ฝ่ายปกครอง กว่า 200 นาย เข้าดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่สวนปาล์มน้ำมันที่หมดสัญญาสัมปทานของบริษัทเอกชน มากว่า 10 ปี ในพื้นที่หมู่ 4, 5, 7 และหมู่ 8 ต.ปลายพระยา รวมพื้นที่ 5 พันไร่ ตามโครงการโค่นล้มต้นปาล์มน้ำมันในพื้นที่หมดอายุสัมปทานของกรมป่าไม้ เพื่อปลูกป่าไม้ทดแทน และสร้างป่าชุมชน
นายสมชาย เปิดเผยว่า ตามที่นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ดร.ยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษารมว.ทส. และนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดทส. มีนโยบายให้ยับยั้งการบุกรุกทำลายป่าและลักลอบทำไม้มีค่าหายาก รวมทั้งดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด จึงสั่งการให้กรมป่าไม้ กำหนดยุทธการรื้อถอนทำลายต้นปาล์มน้ำมันออกจากพื้นที่ที่หมดอายุการอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติและไม่มีการต่ออายุการขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าปลายคลองพระยา ท้องที่ หมู่ที่ 4,5,7,8 ต.ปลายพระยา อ.ปลายพระยา จ.กระบี่
ด้านนายชาญชัย กล่าวว่า ในวันนี้หน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) ได้รับคำสั่งจากนายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ ให้นำเจ้าหน้าที่พยัคฆ์ไพร ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่, สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 (นครศรีธรรมราช) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช, ฝ่ายปกครองอำเภอปลายพระยา, สถานีตำรวจภูธรปลายพระยา, สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า โดยส่วนปฏิบัติการพิเศษ ส่วนยุทธการด้านป้องกันและปราบปราม หน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 4 (ภาคใต้) และ กอ.รมน. จังหวัดกระบี่ รวม 170 นาย
ร่วมเปิดยุทธการรื้อถอนทำลายต้นปาล์มน้ำมันในพื้นที่เป้าหมาย รวมจำนวน 5,000 ไร่ พร้อมกันนี้ ได้มีการจัดตั้งจุดสกัด จำนวน 3 จุด และชุดควบคุมพื้นที่ปฏิบัติงานโดยใช้เครื่องจักร จำนวน 1 ชุด รวมถึงเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์และปฏิบัติการข่าวในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีการวางแผนเผชิญเหตุไว้ หากมีกรณีการรวมตัวกันของกลุ่มมวลชนในพื้นที่ และเข้าเผชิญหน้ากดดันคณะเจ้าหน้าที่ที่ร่วมปฏิบัติการ ส่วนระยะเวลาดำเนินการรื้อถอนต้นปาล์มน้ำมัน จะทำอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะเสร็จสิ้นตามเป้าหมาย
“การรื้อถอนต้นปาล์มน้ำมันในพื้นที่ที่หมดอายุการอนุญาต จำนวน 5,000 ไร่ครั้งนี้ กรมป่าไม้ ได้ดำเนินการตามระเบียบครบทุกขั้นตอนของมาตรา 25 แห่งพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 ส่วนการดำเนินการต่อไป กรมป่าไม้จะดำเนินการฟื้นฟู คืนความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ระบบนิเวศ เพื่อให้มีสภาพป่ากลับคืนมา รวมถึงจะมีการประกาศให้พื้นที่บางส่วนเป็นป่าชุมชน เพื่อให้ประชาชนได้เข้ามาใช้ประโยชน์ต่อไป” หัวหน้าหน่วยพยัคฆ์ไพร กล่าว