วันที่ 28 กันยายน 2567 กรมชลประทาน ได้มีการประกาศแจ้ง ปรับเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปอย่างเหมาะสม และสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำฝน-น้ำท่าปัจจุบัน จึงจะทยอยเพิ่มอัตราการระบายน้ำจากเดิม 1,850 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็นอัตรา 1,900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

โดยประกาศเตือน 11 จังหวัดภาคกลางได้แก่ จังหวัดอุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานครฯ เตรียมการรับมือปริมาณน้ำที่จะเพิ่มขึ้น

• กรมอุตุชี้ ไทยอากาศยังแปรปวน ฝนถล่มลมกระโชกแรง ก่อนอุณหภูมิลด
• อ่วมหนัก! สหรัฐอเมริกา เจอ พายุเฮอริเคน ถล่ม หลายรัฐ ดับ 49 ราย
• ป้ามหาภัย ตะโกนไล่ ชาย ลงรถเมย์ เหตุ ตัวสกปรก กลัวแพร่เชื้อโรคใส่

สถานการณ์น้ำล่าสุด ที่เขื่อนเจ้าพระยา ได้ปรับเพิ่มอัตราการระบาย เพื่อลดผลกระทบทั้งเหนือและท้ายเขื่อน โดยปริมาณน้ำเหนือที่ไหลลงเขื่อนเจ้าพระยาผ่านจุดวัดน้ำ C2 หน้าค่ายจิรประวัติ จ.นครสวรรค์ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และล่าสุด เมื่อเวบา 12.00 น. วัดได้ 1,930 ลูกบาศเมตรต่อวินาที

ทั้งนี้จากการเพิ่มอัตราการระบายน้ำในเกณฑ์ 1,900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ของเขื่อนเจ้าพระยา ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ ริมคลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล บ้านบางหลวงโดด ต.บางบาล ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้น 40-60 ซม.ใน 24 ชม.ข้างหน้า จึงขอให้ประชาชนยกของขึ้นที่สูง และเฝ้าสังเกตความเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำ และติดตามประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิดต่อไป