กรมควบคุมโรค เผย “ไวรัสเลย์วี” ติดจากสัตว์สู่คน พบ “หนูผี” เป็นพาหะ 25% เก็บตัวอย่างสัตว์ป่า 262 ตัว ยังพบในสัตว์ฟันแทะ แพะ สุนัข ย้ำไม่พบแพร่จากคนสู่คน อาการไม่รุนแรง ไม่มีคนตาย
12 ส.ค. 65 – นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีจีนรายงานตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสเลย์วี (LayV) เป็นครั้งแรก ว่า
ผู้ติดเชื้อมีประวัติสัมผัสกับสัตว์ในช่วงที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร อาศัยอยู่ในพื้นที่หลายจังหวัดของมณฑลซานตงและเหอหนาน ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน คณะนักวิทยาศาสตร์พบว่า เชื้อไวรัสเลย์วีมีแนวโน้มแพร่ระบาดจากสัตว์สู่คน และได้นำสัตว์ป่ามาตรวจหาเชื้อไวรัสเลย์วี
และพบการติดเชื้อในหนูผี (shrew) ร้อยละ 25 จากทั้งหมด 262 ตัว ผลวิจัยในครั้งนี้บ่งชี้ว่า หนูผี อาจเป็นพาหะในการแพร่เชื้อตามธรรมชาติ และยังพบสัตว์อื่นๆ ที่ติดเชื้อคือ แพะ ร้อยละ 2 และสุนัข ร้อยละ 5
“ไวรัสเลย์วีอยู่ในกลุ่มเดียวกับไวรัสนิปาห์ (Nipah) และไวรัสเฮนดรา (Hendra) ยังไม่มีหลักฐานพบการแพร่ระบาดจากคนสู่คนได้ ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูง อ่อนเพลีย ไอ เบื่ออาหาร และปวดกล้ามเนื้อ และยังไม่พบผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสเลย์วี เพราะเชื้อไวรัสชนิดนี้ไม่ได้ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตหรือมีอาการรุนแรง และไม่ควรตื่นตระหนกต่อการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสดังกล่าว” นพ.โอภาส กล่าว
นพ.โอภาสกล่าวว่า การติดเชื้อไวรัสเลย์วีเป็นไวรัสชนิดหนึ่งติดเชื้อในสัตว์ฟันแทะ พวกหนู แต่ไม่ก่อโรคในคน แต่ตามข่าวของจีนที่พบการติดเชื้อในคน อาการจะเหมือนติดเชื้อไวรัสทั่วไป มีไข้ อ่อนเพลีย ปวดตามตัว อาการไม่รุนแรง แต่ยังไม่มีผู้เสียชีวิต และยังไม่มีรายงานติดเชื้อจากคนสู่คน เบื้องต้นจะเป็นการติดเชื้อจากสัตว์สู่คน ดังนั้น วิธีป้องกันคือการหลีกเลี่ยงสัมผัสสัตว์ฟันแทะ