“กรณ์” ลงพื้นที่บางกะปิ ช่วยผู้สมัครหาเสียง เจอประชาชน โอดค่าไฟพุ่ง ลั่น ชาติพัฒนากล้า เตรียมทุบโครงสร้างพลังงาน ไม่กลัวทุนใหญ่
เมื่อวันที่ 19 เม.ย. 2566 ที่ตลาดลาดพร้าว 87 นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) ลงพื้นที่ช่วยนายธาม สมุทรานนท์ ผู้สมัคร ส.ส. เขตบางกะปิ เบอร์ 8 และนายกอบกฤต สุขสถิตย์ ผู้สมัคร ส.ส. เขตห้วยขวาง เบอร์ 13 หาเสียง โดยมีพ่อค้าแม่ค้า และประชาชนให้การต้อนรับเป็นอย่างดี พร้อมทั้งสะท้อนปัญหาค่าไฟที่เพิ่มขึ้น
นายกรณ์ กล่าวว่า ประชาชนสะท้อนเป็นเสียงเดียวกันว่า ค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นทุกครัวเรือน และในวันที่ 1 พ.ค.นี้ รัฐบาลประกาศขึ้นค่าไฟฟ้า ตามมติของคณะกรรมการนโยบายพลังงาน ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธาน โดยจะปรับขึ้นค่าไฟฟ้าภาคครัวเรือนจาก 4.72 บาท เป็น 4.77 บาท แต่ลดให้ภาคอุตสาหกรรมจาก 5.33 ลงมาเท่ากับภาคครัวเรือน คือ 4.77 บาท ในเดือนพ.ค.จึงเป็นวันเผาจริงของประชาชน
นายกรณ์ กล่าวว่า ไฟฟ้าส่วนใหญ่ใช้โดยภาคอุตสาหกรรม ตนเห็นด้วยที่จะลดราคาให้ แต่ขอให้ลดเพียง 8-9% ได้หรือไม่ เพราะเป็นจำนวนที่ไม่ต้องเพิ่มภาระให้ประชาชน และมันไม่มีเหตุผลอธิบายได้ว่าทำไมต้องขึ้นเวลานี้ เนื่องจากต้นทุนสำคัญในการผลิตไฟฟ้า คือการนำเข้าก๊าซธรรมชาติ ซึ่งถ้ามาดูความเคลื่อนไหวของราคาแก๊ส LNG ตั้งแต่ระดับช่วงที่สูงที่สุดอยู่ที่ 70 เหรียญสหรัฐ ต่อล้านบีทียู และได้ลดราคาลงมาอย่างรวดเร็วภายใน 6 เดือน เหลือ 11 ดอลลาร์ต้นทุนค่าใช้จ่ายของตัวเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้าลดลง ทำไมถึงต้องปรับค่าไฟเพิ่มขึ้น
นายกรณ์ กล่าวว่า วันนี้ประชาชนรับภาระเต็มๆ โดยไม่ได้มีการประเมินเลยว่า สาเหตุที่ต้นทุนเพิ่มขึ้นด้วยเหตุใด มีการอภิปรายในสภาหลายครั้งว่า กฟผ.ในอดีต ได้ไปอนุมัติเซ็นสัญญาที่จะซื้อไฟจากภาคเอกชน ในปริมาณที่มากเกินความต้องการ โดยปกติการรักษาเสถียรภาพอุตสาหกรรมไฟฟ้าอยู่ที่ประมาณ 15% ซึ่งเป็นปริมาณที่เหลือเฟือเพียงพอแล้ว แต่วันนี้กำลังผลิตของเรามีมากกว่าความต้องการถึง 50% ซึ่งเป็นต้นทุนค่าใช้จ่ายของการไฟฟ้าที่ต้องไปจ่ายให้กับภาคเอกชน คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 20% ที่โยนภาระให้ประชาชนแบกรับ
นายกรณ์ กล่าวว่า อีกปัญหา คือ เรื่องปริมาณแก๊สที่เราสามารถผลิตในอ่าวไทย ซึ่งเกิดจากความผิดพลาดในการถ่ายโอนตัวสัมปทาน ระหว่างเชฟรอน กับ ปตท.สผ. ทำให้ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ปริมาณแก๊สที่เราผลิตได้ในต้นทุนราคาที่ต่ำในอ่าวไทย มีปริมาณน้อยมาก น่าแปลกตรงที่ ปตท.สามารถโอนต้นทุนที่จะต้องไปซื้อแก๊สจากต่างประเทศในราคาที่แพงให้กับการไฟฟ้าได้
นายกรณ์ กล่าวต่อว่า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตผิดพลาดก็สามารถที่จะโอนต้นทุนที่เพิ่มขึ้นของการไฟฟ้า ส่งต่อมาให้กับประชาชนได้ ประชาชนเป็นผู้รับภาระแต่ผู้เดียว ไม่มีอำนาจที่จะเจรจาต่อรองใดๆ ซึ่งตรงนี้เป็นโครงสร้างที่ต้องปรับต้องเปลี่ยน เป็นเรื่องที่ชาติพัฒนากล้าจะต้องมาทุบเรื่องนี้แน่นอน
“ระบบการกำหนดค่าไฟบ้านเราเป็นระบบส่งต่อให้ประชาชนทั้งหมด ผู้ผลิตไม่รับความเสี่ยงอะไรเอาไว้เลย ต้นทุนเท่าไรก็ส่งมาที่ประชาชน ไม่แปลกที่จะทำให้มีคนร่ำรวยจากการสร้างโรงไฟฟ้า ผมมองว่ามันไม่ยุติธรรม และที่มีการออกมาให้ข่าวว่าไม่สามารถลดค่าไฟฟ้าได้ เนื่องจากได้ลงนามในสัญญาแล้ว ก็ต้องรอการเปลี่ยนแปลง ถ้าท่านไม่ทำจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม แต่ผมเชื่อว่าทำได้ มันอยู่ที่ความตั้งใจ
เรื่องของการรื้อระบบ การคำนวณราคาค่าไฟฟ้า มีผลกระทบต่อทุนใหญ่แน่นอน เพราะมีผู้เสียประโยชน์ ซึ่งเรื่องเหล่านี้เราไม่กลัว และสาเหตุที่เราเลือกอยู่พรรคเล็ก เพราะเรามีอิสระทางความคิดและทางนโยบาย เราไม่ต้องพึ่งทุนมากมายจากใคร ทำให้เราสามารถรักษาความซื่อสัตย์ต่อประโยชน์ของประชาชนไว้ได้” นายกรณ์ กล่าว