กมธ. ยื่นกฎหมายลูก 2 ฉบับแล้ว ชี้ขาด 9 มิ.ย. เผยใช้ 3.2 แสนคะแนน แลก ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ด้านส.ว.ไม่การันตียื่นศาลตีความ ‘ชูศักดิ์’ ปัดเอื้อเพื่อไทยแลนด์สไลด์

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 24 พ.ค.2565 ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. (ฉบับที่…) พ.ศ… ยื่นร่างกฎหมายลูก 2 ฉบับเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ต่อนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เพื่อบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมรัฐสภา

จากนั้นนายสาธิต ปิตะเตชะ รมช.สาธารณสุข ในฐานะประธานกมธ. แถลงว่า กมธ.ได้ยื่นร่างกฎหมายลูก 2 ฉบับเรียบร้อยแล้ว นายชวนแจ้งว่า จะบรรจุเข้าที่ประชุมรัฐสภาได้วันที่ 9-10 มิ.ย.นี้ โดยทั้ง 2 ฉบับจะเป็นเครื่องมือให้รัฐบาลและนายกฯเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ไม่ว่ารัฐบาลจะครบวาระหรือนายกฯ ยุบสภา

ทั้งนี้ ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มี 37 มาตรา คงเนื้อหาตามร่างหลัก 23 มาตรา แก้ไขเพิ่มเติม 9 มาตรา และตราขึ้นใหม่ 5 มาตรา มีสาระสำคัญ เช่น แบ่งส.ส. เป็นส.ส.เขต 400 คน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน มีวิธีคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยนำคะแนนรวมส.ส.บัญชีรายชื่อทั้งประเทศ หารด้วย 100 มาหาคะแนนเฉลี่ยต่อ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และใช้เบอร์สมัครรับเลือกตั้งต่างเขตต่างเบอร์

ขณะที่ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มี 16 มาตรา คงเดิม 7 มาตรา แก้ไขเพิ่มเติม 6 มาตราและเพิ่มขึ้นใหม่ 3 มาตรา โดยกมธ.แก้ไขวิธีทำไพรมารีโหวตให้สะดวกขึ้น ให้พรรคคัดเลือกผู้สมัครส.ส. ด้วยวิธีไพรมารีโหวตแค่เขตใดเขตหนึ่งในจังหวัดเท่านั้น ไม่ต้องทำทุกเขต

ด้านนายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา ในฐานะเลขานุการกมธ. กล่าวว่า หลังจากร่างกฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับผ่านที่ประชุมรัฐสภา ในวาระ 2-3 แล้ว จะส่งให้ กกต. พิจารณาว่าเห็นด้วยหรือแก้ไขในส่วนใดหรือไม่ ไม่ต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ยกเว้นมีผู้เห็นแย้ง สามารถส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้ โดยใช้เสียงสมาชิกรัฐสภา 1ใน 10 ส่งตีความ

ขณะที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กมธ. กล่าวว่า หากยึดคะแนนจากการเลือกตั้งปี 2554 เป็นเกณฑ์แล้ว การคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ตามร่างกฎหมายลูกที่แก้ไขใหม่ จะมีค่าเฉลี่ยของส.ส.บัญชีรายชื่อต่อคนอยู่ที่ 3.2 แสนคะแนน ส่วนคะแนนปัดเศษหลังคำนวณแล้ว ยังได้ส.ส.บัญชีรายชื่อไม่ครบ 100 คนนั้น พรรคที่จะได้ปัดเศษมีส.ส.ในส่วนที่เหลือ อย่างน้อยต้องมีคะแนนเศษตั้งแต่ 1.7 แสนคะแนนขึ้นไป ส่วนที่เสนอแปรญัตติเพื่อแก้สูตรคำนวณโดยใช้ 500 หารนั้น การเสนอคำแปรญัตติทำได้ แต่หากถูกแก้ไขเป็นหารด้วย 500 อาจต้องพักการประชุม เพื่อหารือถึงรายละเอียด

ด้านนางกาญจนารัตน์ ลีวิโรจน์ ส.ว. ในฐานะกมธ. กล่าวว่า แม้กมธ.จะมีมติวิธีคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ ให้หารด้วย 100 แต่กมธ.บางส่วนและตสเห็นว่า ควรหารด้วย 500 เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกพรรค ซึ่งจะทำให้พรรคเล็กได้ประโยชน์ด้วย อย่างไรก็ตาม หากที่ประชุมรัฐสภาลงมติวาระ 2-3 ยืนยันให้ใช้ 100 หาร ตนคงไม่ร่วมลงชื่อส่งตีความ แต่ไม่การันตีส.ว.คนอื่นได้

ขณะที่นายชูศักดิ์ ศิรินิล แกนนำพรรคเพื่อไทย ในฐานะกมธ.และที่ปรึกษา กล่าวว่า ยืนยันว่าสูตรคำนวณที่ใช้ 100 หารนั้น มีหลายพรรคเสนอเนื้อหา ไม่ใช่พรรคเพื่อไทยเสนอเท่านั้น ส่วนจะทำให้พรรคเพื่อไทยชนะแบบแลนด์สไลด์หรือไม่ เป็นประเด็นที่คนตั้งคำถามคิด แต่ท้ายสุดอยู่ที่ประชาชน