วันที่ 12 มกราคม 2567 นายชัยชนะ เดชเดโช ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร นัดหมายผู้บริหารรพ.ตำรวจ ขอเดินทางเข้าไปศึกษาดูงาน และเยี่ยมชมการปฏิบัติหน้าที่ในการควบคุมผู้ต้องขังป่วยที่รักษาตัว โดยมุ่งเน้นไปที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นักโทษคดีทุจริต รักษาตัวอยู่ที่ชั้น 14 อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา ได้ให้สัมภาษณ์

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ได้ขึ้นไปที่ชั้น 14 หรือไม่

นายชัยชนะ กล่าวว่า จากการที่ได้แลกเปลี่ยนพูดคุยกับ รพ.ตำรวจ โดยมี พล.ต.สามารถ ม่วงศิริ และแพทย์ ก็ได้รับทราบว่าขณะนี้ มีผู้ต้องขังมารักษาตัวแค่คนเดียว คือ ทักษิณ ชินวัตร ที่เหลือก็จะเป็นนักโทษที่ไปรักษาเช้า เย็นกลับ ผมได้หรือตามกรอบระเบียบ รพ.ตำรวจให้เราขึ้นไปยังชั้น 14 พื่อไปดูขั้นตอน วิธีการคุมขัง มีจนท.ปฏิบัติหน้าที่อยู่ 8 นาย

หลังจากที่เราได้ไปเห็น เราก็ได้ลงมาที่ชั้น 7 เพื่อมาดูขั้นตอนการปฏิบัติกับนักโทษ ผู้ต้องขังที่มารักษา ว่ามีขั้นตอนการปฏิบัติอย่างไร ผู้ต้องขัง ก็มีจนท.มาควบคุม เราก็เห็นได้อย่างหนึ่งว่า การปฏิบัติของจนท. มีความเท่าเทียมกัน แต่ว่า ในส่วนที่ขึ้นไปชั้น 14 ผมได้พบเจอจนท.จริง แต่ถ้าถามว่าได้พบเจอนักโทษหรือเปล่า ก็จะเป็นในส่วน พรบ.คุ้มครอง ที่เขาอนุญาตเขาแค่นี้

• สรุปให้! ปม พ่อตีลูก 2 ขวบ ขู่ขอคืนดีแม่ ล่าสุด ขอโทษที่ทำไปเพราะรักเมีย

• ดรามาฉ่ำ! ครูทำ อาหารกลางวันเด็กนักเรียน ‘ข้าวสวย ไข่ต้ม น้ำปลา’

• เพจดัง แฉต่อ! สำนัก อาจารย์แมน เคยมีนักการเมืองรุ่นเก๋าเข้าใช้บริการ

ผู้ถามว่า ได้ทำตามวัตถุประสงค์ที่มาวันนี้หรือยัง นายชัยชนะ กล่าวว่า เราก็มาเพื่อให้สังคมหายสงสัย สิ่งที่เราทำได้ตามกรอบระเบียบคือ เราได้พบเจอจนท. ส่วนนายทักษิณ พักรักษาตัวอยู่ที่นี่หรือไม่นั้น ก็เป็นส่วนของราชทัณฑ์ เขาชี้แจง เพราะก่อนหน้านี้เขาก็ได้ชี้แจงว่า มันเป็น พรบ.คุ้มครองบุคคล เขาจะมีสิทธิให้ใครเยี่ยมหรือห้ามเยี่ยมก็เป็นส่วนของ ผู้ต้องหา แต่เราไม่ได้มาขอเยี่ยมใครคนใดคนหนึ่ง เรามาดูขั้นตอนวิธีการปฏิบัติเท่าเทียมกันหรือไม่

กมธ.มีข้อสงสัยทางการแพทย์หรือไม่ เกี่ยวกับอาการป่วยที่ต้องรักษาตัวนานขนาดนี้

นายชัยชนะ กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องที่รพ.ตำรวจ และกรมราชทัณฑ์ต้องไปตอบสังคมเอง ส่วนเรื่องที่นายทักษิณ รักษาตัวมาแล้วเกิน 120 วันแล้ว ได้ขยายเวลาต่อนั้น เป็นสิทธิ์ของกรมราชทัณฑ์ที่จะพิจารณา ไม่ขอก้าวล่วง เพราะหน้าที่ของผม คือการมาหาข้อเท็จจริง หลังจากนี้คงจะต้องกลับไปถามกรมราชทัณฑ์

ยืนยันการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมือง แค่ตอบสนองความสงสัยของประชาชน ถ้ารพ.ตำรวจ ไม่ต้องการเป็นจำเลยสังคมก็ต้องให้ข้อมูลอย่างเต็มที่