“พิธา” เผย กปน.ขอขึ้นค่าน้ำประปา มองต้องหารือกัน เพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ระบุ หน่วยงานของรัฐมีหน้าที่บริการประชาชน ให้ราคาถูกและมีประสิทธิภาพที่สุด
วันนี้ (14 มิ.ย. 66) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหมเป็นประธานการประชุม ช่วงหนึ่งพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้หยิบยกเรื่องที่การประปานครหลวง (กปน.) เสนอขึ้นค่าน้ำเข้ามายังกระทรวงมหาดไทย เนื่องจากที่ผ่านมาผลการดำเนินการขาดทุนมาโดยตลอด และไม่ได้รับการอุดหนุนจากรัฐบาลต่อที่ประชุม ครม. ว่าต้องมีการพูดคุยกันเชิงลึก ทั้ง กปน. และ กปภ.
เพราะจากการได้ติดตามข่าว และจากการค้นหาข้อมูลก็พบว่า กำไรเฉลี่ยปี 63-65 อยู่ประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท ลดลงจาก 5,000 กว่าล้านบาท เหลือ 4,000 กว่าล้านบาท และมีทรัพย์สินกว่า 80,000 ล้านบาท มีกระแสเงินสดที่เอากำไรบวกค่าเสื่อมประมาณ 8,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งตรงนี้คงต้องรับฟังเหตุผล ที่บอกว่าต้องมีการลงทุนเพิ่ม จะทำให้ระบบน้ำดีหรือไม่ แล้วที่ขาดคืออะไร เพราะเท่าที่ดูก็ยังมีกำไร และกระแสเงินสดดีอยู่ ดังนั้นประชาชนสามารถหาข้อมูลเพื่อดูข้อเท็จจริงเบื้องต้นได้
ซึ่งหากมีการวิเคราะห์พื้นฐานได้ แต่ก็ต้องฟังเหตุและผลจาก กปน.ก่อน ขณะเดียวกัน การที่เราเป็นหน่วยงานของรัฐของประชาชน มีหน้าที่บริการประชาชนให้ถูกที่สุดมีประสิทธิภาพที่สุด โดยจะต้องยึดหลักตรงนี้ และต้องหาทางออกร่วมกันและช่วยกัน เพื่อให้เกิดผลกระทบกับประชาชนน้อยที่สุด
ทั้งนี้ หาก กปน.ต้องการลงทุนเพิ่ม ก็จะต้องมาคิดข้อดีข้อเสียด้วยว่าคืออะไร และสิ่งสำคัญคือจะต้องบริการประชาชนด้วยต้นทุนที่ต่ำที่สุด แต่ประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้เรายินดีหากมีผู้นำองค์กรของ กปน. หรือกระทรวงมหาดไทยมาหารือ