กต.อัปเดตเหตุความไม่สงบอิสราเอล คนไทยเสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย รวมเป็น 20 ราย และ บาดเจ็บเพิ่ม 4 ราย รวมเป็น 13 ราย ถูกจับเป็นตัวประกันเพิ่มอีก 3 ราย รวมเป็น 14 ราย ส่วนยอดคนลงทะเบียนจะกลับประเทศไทย รวม 5,019 คน 61 คนไม่กลับ เพราะอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยแล้ว
นางกาญจนา ภัทรโชค โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ และ อธิบดีกรมสารนิเทศ กล่าวว่า เป็นรายงานที่ทางกระทรวงต่างประเทศได้รับรายงานเบื้องต้นจากผู้ที่เห็นเหตุการณ์ แต่ทั้งนี้ ต้องรอคำยืนยันอย่างเป็นทางการอีกครั้งจากรัฐบาลอิสราเอล
ด้านกลุ่มติดอาวุธฮามาสขู่ว่าจะสังหารตัวประกันชาวอิสราเอลทุกครั้งที่ระเบิดของอิสราเอลตกลงใส่บ้านเรือนของชาวปาเลสไตน์โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า อะไรที่สามารถเป็นตัวรับประกันได้ว่า ในสถานการณ์ตึงเครียดแบบนี้ ตัวประกันคนไทย จะปลอดภัย นางกาญจนา กล่าวว่า เรื่องนี้ทางกระทรวงต่างประเทศ ยอมรับว่า เป็นเรื่องที่ประเมินได้ยาก ไม่สามารถรับรองได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ หรือ ระบุเป็นเปอร์เซ็นต์ได้ เพราะ อยู่ในภาวะสงคราม สถานการณ์ มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แต่เท่าที่ได้รับรายงานจากแหล่งข่าวในพื้นที่ ให้ข้อมูลตรงกันว่า คนไทย รวมไปถึง ชาวต่างชาติ ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของกลุ่มติดอาวุธฮามาส
ส่วนหากสถานการณ์มีความรุนแรงเพิ่มขี้น มีการปิดน่านฟ้า ในประเทศรอบข้างอิสราเอล ทางกระทรวงต่างประเทศมีแผนสำรองในการอพยพคนไทยกลับประเทศนั้น นางกาญจนา กล่าวว่า ได้มีการหารือ ในเรื่องของแผนอพยพทางเรือ ไว้เป็นแผนสำรองในกรณีที่มีการปิดน่านฟ้าอิสราเอล และ น่านฟ้าของประเทศรอบข้างอิสราเอล แต่ในการอพยพทางเรือ ต้องมีการหารือกัน ระหว่างไทยและอิสราเอล เพราะ หลายท่าเรือในอิสราเอล เป็นจุดเสี่ยงภัย และยังมีการสู้รบ หากมีแผนอพยพทางเรือ ต้องหาจุดท่าเรือที่ปลอดภัย หรือ มีความเสี่ยงน้อยที่สุด
นางกาญจนา เปิดเผยอีกว่า สำหรับสถานการณ์ในอิสราเอล ในขณะนี้ ได้รับรายงานว่า สายการบิน แอล อัล สายการบินแห่งชาติของอิสราเอล กลับมาให้บริการเที่ยวบินเพิ่มขึ้นกว่าเดิม สวนทางกับสายการบินอื่นๆ เพื่อนำทหารกำลังสำรองกลับประเทศและเข้าประจำการรับใช้ชาติ ถือเป็นการเรียกตัวกำลังพลสำรองครั้งใหญ่ที่สุดของอิสราเอล ซึ่งทางกระทรวงต่อประเทศของไทย ได้สอบถามสถานการณ์กับทางการอิสราเอล อยู่ตลอดเวลา เพื่อประเมินสถานการณ์ และ เตรียมแผนอพยพคนไทยกลับประเทศ