กงสุลใหญ่จีน ในอังกฤษ ยอมรับ “ดึงหัว” หนุ่มฮ่องกงต้าน สี จิ้นผิง
วันที่ 20 ต.ค. บีบีซี รายงานว่า นายบ๊อบ ชาน พลเมืองฮ่องกง ออกมาชี้แจง หลังถูกทำร้ายร่างกายในสถานกงสุลใหญ่จีนประจำนครแมนเชสเตอร์ของสหราชอาณาจักร ขณะประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยและต่อต้านประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ด้านนอกสถาน กงสุลใหญ่จีน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 ต.ค. วันเดียวกับการประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์จีนเปิดฉาก
นายชานกล่าวในการแถลงข่าวที่ส.ส.อังกฤษจำนวนมากจัดเมื่อวันพุธที่ 19 ต.ค. ว่า ตนไม่ได้พยายามเข้าไปในสถานกงสุลใหญ่จีน และว่าตนถูกลากเข้าไปในพื้นที่สถานกงสุลใหญ่จีน จากนั้นกลุ่มผู้ชายทุบตีจนตนบาดเจ็บทางกายและจิตใจที่ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล
“ผู้ชายหลายคนสวมหน้ากากอนามัยด้านนอกสถานกงสุลใหญ่รุมทุบตีตน บางคนพยายามฉีกป้ายลงมา จากนั้นผมพบว่าตัวเองถูกลากเข้าไปในบริเวณสถานกงสุลใหญ่ ผมจับที่ประตูรั้วที่ผมถูกเตะและต่อย ผมไม่สามารถทนได้นาน ในที่สุด ผมถูกดึงลงมาที่พื้นสถานกงสุลใหญ่ ผมรู้สึกถูกต่อยและเตะจากผู้ชายหลายคน ผู้ประท้วงคนอื่นๆ พยายามนำตัวผมออกจากไปแต่ไม่เป็นผล กระทั่งชายคนหนึ่งซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบจากตำรวจนครแมนเชสเตอร์ดึงผมออกไปนอกประตูสถานกงสุลใหญ่
“ให้ผมพูดชัดเจนอีกครั้งนะ ผมถูกลากเข้าไปในสถานกงสุลใหญ่ ผมไม่ได้พยายามเข้าไปในสถานกงสุลใหญ่” นายชานกล่าว
นายชานพูดถึงความตกใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าวและบอกถึงความกังวลต่อสมาชิกครอบครัวที่ยังอยู่ในฮ่องกงว่า “ผมตกใจเนื่องจากไม่เคยคิดว่าอะไรเช่นนี้จะเกิดในสหราชอาณาจักร ผมยังเชื่อว่าสหราชอาณาจักรเป็นประเทศที่ให้เสรีภาพการพูดและการประท้วงเป็นสิทธิมนุษยชนพื้นฐาน ไม่มีความรุนแรงหรือแรงกดดันทางการทูตเท่าใดจะเปลี่ยนแปลงได้ ผมได้รับบาดเจ็บทางร่างกายและจิตใจ”
ตำรวจในเมืองแมนเชสเตอร์ระบุว่า ในวันนั้น กลุ่มผู้ประท้วงมากถึง 40 คน ส่วนใหญ่มาจากฮ่องกง รวมตัวด้านนอกสถานกงสุลใหญ่จีน ซึ่งเป็นที่ทำการทูตขนาดเล็กของจีนที่เป็นดินแดนสหราชอาณาจักร แต่คนภายนอกไม่สามารถเข้าไปได้โดยไม่ได้รับอนุญาต
ตำรวจนครแมนเชสเตอร์กล่าวว่า ราว 16.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น กลุ่มผู้ชายคนหนึ่งออกมาจากสถานกงสุลใหญ่ และผู้ชายคนหนึ่ง (นายชาน) ถูกลากเข้าไปข้างในพื้นที่สถานกงสุลใหญ่และทำร้ายร่างกาย ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปห้ามปรามและนำตัวผู้ชายคนดังกล่าวออกมาจากพื้นที่สถานกงสุลใหญ่ เนื่องจากเกรงกลัวความปลอดภัยต่อผู้ถูกทำร้ายร่างกาย
คำชี้แจงของนายจางมีขึ้นหลังน.ส.อาลิเซีย เคิร์นส์ หนึ่งในส.ส.อังกฤษระดับสูง กล่าวว่า นักการทูตระดับสูงคนหนึ่งของจีนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้ความรุนแรงต่อต้านกลุ่มผู้ประท้วงที่สถานกงสุลใหญ่จีนในนครแมนเชสเตอร์
“สิ่งที่เราเห็นคือว่ากงสุลใหญ่จีนฉีกโปสเตอร์และทำลายการประท้วงอย่างสันติ” น.ส.เคิร์นส์บอกกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในสภาสามัญชน
ต่อมา นายเจิ้ง ซีหยวน กงสุลใหญ่จีนในนครแมนเชสเตอร์ ให้สัมภาษณ์สกายนิวส์เมื่อวันพุธที่ 19 ต.ค. ยืนยันว่า ตนอยู่ขณะที่ผู้ชุมนุมประท้วง แต่ปฏิเสธว่าตนและเจ้าหน้าที่ทำร้ายผู้ชุมนุม
“ผมไม่ได้ทุบตีใครเลย ผมไม่ให้คนของผมทุบตีใคร ความจริงแล้ว กลุ่มที่เรียกตัวผู้ประท้วงทุบตีคนของผม” นายเจิ้งกล่าว
อย่างไรก็ตาม นักข่าวสกายนิวส์ถามต่อเกี่ยวกับภาพจากกล้องวงจรปิดที่เห็นว่า นายเจิ้งดึงหัวของผู้ประท้วงคนหนึ่ง นายเจิ้งมีท่าทียอมรับและกล่าวว่า ตนกำลังพยายามปกป้องคนของสถานกงสุลใหญ่จีนที่ถูกผู้ประท้วงคนดังกล่าวข่มขู่คุกคาม
นายเจิ้งพูดว่า “เขา (ผู้ประท้วงคนนั้น) กำลังดูถูกประเทศของผม ผู้นำของผม ผมคิดว่านี่เป็นหน้าที่ของผม” เมื่อนักข่าวสกายนิวส์ถาม “ด้วยการดึงหัว” นายเจิ้งตอบ “ใช่แล้ว!” และเสริมว่า ตนรักษาศักดิ์ศรีและประชาชนจีน และว่านักการทูตทุกคนคงทำเช่นเดียวกันในสถานการณ์เช่นนี้
โฆษกสถานกงสุลใหญ่จีนระบุก่อนหน้านี้ว่า กลุ่มผู้ประท้วงแขวนรูปภาพประธานาธิบดีจีนในลักษณะดูหมื่นที่ประตูทางเข้า ต่อมา ทางการจีนอ้างว่า เจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่จีนถูกคุกคาม และกล่าวว่า กลุ่มผู้ประท้วงมีความพยายามที่จะเข้าไปในบริเวณสถานกงสุลใหญ่จีน
นอกจากนี้ จีนแจ้งต่อรัฐบาลสหราชอาณาจักรเพื่อเพิ่มความคุ้มครองแก่เจ้าหน้าที่ทางการทูตของจีนด้วย