กกท. โดย ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. สวนกลับ กสทช. ยืนยันว่าได้ปฎิบัติตามกฎ Must Carry (มัสต์แครี่) เข้าถึงทุกกลุ่ม ลั่นไม่คืน 600 ล้าน พร้อมท้าให้ กสทช. กลับไปดูคำสั่งศาล
จากการที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีมติเอกฉันท์เรียกเงินคืนเงิน 600 ล้านบาทจากการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และให้คืนเงินภายใน 15 วัน เรื่องการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์ การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ ซึ่งตอนนี้เดินทางมาถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายแล้ว
ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.65 “บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การกีฬาแห่งประเทศไทย ( กกท.) ได้ทำหนังสือ ชี้แจงไปยัง กสทช. แล้ว ซึ่งไม่ทราบว่าในที่ประชุมบอร์ด กสทช. ได้เห็นหนังสือหรือไม่ ซึ่ง กกท. ยืนยันว่าได้ปฎิบัติตามกฎมัสต์ แคร์รี่ ด้วยการส่งสัญญาณไปยังดิจิทัลทีวี ทั้งภาคพื้นดิน และดาวเทียมต่างๆ ซึ่งเข้าถึงทุกกลุ่มอยู่แล้ว แต่ในขณะเดียวกันเราก็ต้องอยู่ในกรอบภายใต้ลิขสิทธิ์ด้วย
- กสทช. ลงมติทวงคืน 600 ล้าน ค่าลิขสิทธิ์บอลโลก จาก กกท.
“ก่อนหน้านี้ กสทช.ได้ส่งหนังสือแจ้งเตือนมายัง ซึ่งก็ได้โต้แย้งกลับไปแล้ว กกท. ยืนยันว่าไม่ได้ทำผิดกฎ Must Carry (มัสต์แครี่) แต่อย่างใด และส่งสัญญาณถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 ให้ทุกคนได้ดูแบบไม่เสียค่าใช้จ่ายตามกฎ Must Have มัสต์แฮฟ (Must Have) แล้ว”
“ศาลได้วินิจฉัยกรณีข้อพิพาทระหว่าง AIS กับ True โดยคำสั่งศาลได้กล่าวถึงการกีฬาแห่งประเทศไทย และกสทช. ที่ดำเนินการถ่ายทอดฟุตบอลโลกให้ประชาชนได้ดูฟรีตามช่องทางต่างๆ ที่ไม่ใช่เฉพาะ IPTV เท่านั้น ถือว่าเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของมัสต์ แคร์รี่แล้ว ซึ่งคำสั่งศาลเขียนไว้ชัดเจน เพราะฉะนั้นการดำเนินการของกกท.อยู่ภายใต้ลิขสิทธิ์ของคำสั่งศาล ไม่ได้ไปละเมิดอะไร” ดร.ก้องศักด กล่าว
ดร.ก้องศักด กล่าวต่อไปว่า ถึงตรงนี้การที่ กสทช.เรียกเก็บเงินคืนแบบนี้ อยู่ที่มุมมอง และทางนั้นมองมุมที่ต่างกัน เป็นที่มาของการทำหนังสือตอบกลับไปทันทีว่า กกท.ไม่ได้ทำผิดอะไร ทุกอย่างให้ไปดูในคำสั่งศาลได้
“ท้ายที่สุดก็คงต้องพูดคุย แต่หาก กสทช.ยืนกรานว่าจะเรียกเงิน 600 ล้านบาทคืน ก็คงต้องไปสู้กันในกระบวนการของกฎหมาย ทว่าก็คงไม่อยากให้ไปถึงจุดนั้น เนื่องจากเป็นองค์กรของรัฐด้วยกันทั้งคู่น่าจะมีวิธีการที่ดีกว่า ที่สามารถตกลงพูดคุยกันได้ อย่างไรก็ดี หาก กสทช. จะเรียก กกท. เข้าไปชี้แจงก็ยินดี แต่ที่ผ่านมาไม่มีการพูดคุยแต่อย่างใด และเมื่อมติออกมาก็ยิ่งทำให้ กกท. สับสนไปกันใหญ่”