กกท. กำชับ พัทลุงเกมส์ หากพบสารต้องห้ามจากกัญชาจะถูกตัดสิทธิ์ทันที

Home » กกท. กำชับ พัทลุงเกมส์ หากพบสารต้องห้ามจากกัญชาจะถูกตัดสิทธิ์ทันที


กกท. กำชับ พัทลุงเกมส์ หากพบสารต้องห้ามจากกัญชาจะถูกตัดสิทธิ์ทันที

กกท. กำชับ เวทีเยาวชนแห่งชาติ “พัทลุงเกมส์” หากพบสารประเภท THC ซึ่งถือเป็นสารต้องห้ามทางการกีฬาจากการเสพกัญชาจะถูกตัดสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันทันที

ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการและจับสลากแบ่งสายการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 37 “พัทลุงเกมส์” และกีฬาอาวุโสแห่งชาติ ครั้งที่ 4 “เสกักเกมส์” ครั้งที่ 1/2565 โดยมี นายฉัตรชัย อุสาหะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง, นายประชุม บุญเทียม รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา, นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุง, นายปรีชา ลาลุน ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ, นายสุนทร คงทองสังข์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพัทลุง, นายวิศิษฐ์ กาญจโนภาศ นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดพัทลุง, ผู้แทนสมาคมกีฬาแห่งจังหวัด, ผู้แทนสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย, ผู้สนับสนุนสิทธิประโยชน์กลาง กกท. และผู้บริหาร กกท. เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมศรีวราแกรนด์บอลรูม ชั้น 2 โรมแรมทาวน์อินทาวน์ เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา

ที่ประชุมรับทราบการเตรียมความพร้อมในการจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 37 “พัทลุงเกมส์” ซึ่งมีกำหนดจัดการแข่งขัน ระหว่างวันที่ 29 กรกฎาคม – 10 สิงหาคม 2565 และการแข่งขันกีฬาอาวุโสแห่งชาติ ครั้งที่ 4 “เสกักเกมส์” มีกำหนดจัดการแข่งขัน ระหว่างวันที่ 20 – 27 สิงหาคม 2565 โดยทางจังหวัดได้มีการเตรียมความพร้อมไว้ครบทุกด้านเเล้ว ทั้งในด้านของสนามแข่งขันและสนามฝึกซ้อม ด้านสถานที่พักของนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ ได้จัดเตรียมที่พักให้อยู่บริเวณใกล้สนามเเข่งขัน เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางสำหรับนักกีฬา ด้านการขนส่งต่าง ๆ ภายในจังหวัด มีการจัดเตรียมรถ รับ-ส่ง นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ระหว่างที่พักและสนามแข่งขัน

ด้านการรักษาความปลอดภัย ทางจังหวัดได้วางมาตรการในการรักษาความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกในด้านการจราจร ให้แก่นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ รวมถึงมีการจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำที่พักนักกีฬา เพื่อรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ในส่วนของพิธีเปิดและปิดการแข่งขันจะจัดขึ้น ณ สนามกีฬากลางองค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุง โดยจะมีพิธีเปิดกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 37 ในวันศุกร์ที่ 29 กรกฎาคม 2565 เวลา 18.00 น. และพิธีปิดในวันพุธที่ 10 สิงหาคม 2565 เวลา 17.30 น. ในส่วนพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาอาวุโสแห่งชาติ ครั้งที่ 4 จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม 2565 เวลา 17.30 น. และพิธีปิดในวันที่ 27 สิงหาคม 2565 เวลา 17.30 น. โดยมีศูนย์ประสานงานสื่อมวลชน (Press Center) จัดตั้งที่ โรงแรมศิวารอยัล พัทลุง

ผู้ว่าการ กกท. กล่าวว่า กีฬาเยาวชนแห่งชาติและกีฬาอาวุโสแห่งชาติ ได้กลับมาจัดการแข่งขันครั้งแรกในรอบ 3 ปี หลังจากจังหวัดตราดยกเลิกการแข่งขันไป เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 โดย กกท. พร้อมให้ความสนับสนุนในทุกๆด้านอย่างเต็มที่ เพื่อยกระดับการจัดการแข่งขันให้ได้มาตรฐานเทียบเท่าระดับสากลมากที่สุด และเชื่อว่ากีฬาเยาวชนแห่งชาติ จะเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างนักกีฬาต่อยอดไปสู่ทีมชาติ เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันในรายการแข่งขันระดับนานาชาติ ทั้งนี้ กกท. ยังคงเน้นย้ำเรื่องมาตรการการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด โดยจะหารือกับทางศบค. และสาธารณสุขจังหวัด และจะประกาศให้ทราบต่อไป

“ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะประกาศให้กัญชาอย่างถูกกฎหมาย แต่ในทางการกีฬานั้น กัญชามีสารประเภท THC ซึ่งถือเป็นสารต้องห้ามทางการกีฬา จึงขอให้ทุกฝ่ายระมัดระวังเรื่องนี้ด้วย หากตรวจพบจะถูกตัดสิทธิการแข่งขันทันที”

ทั้งนี้ การแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติมีนักกีฬาและเจ้าหน้าที่เข้าร่วมการแข่งขันรวมทั้งสิ้น 15,183 คน โดยเป็นนักกีฬาชายจำนวน 6,266 คน นักกีฬาหญิงจำนวน 5,657 คน และเจ้าหน้าที่จำนวน 3,260 คน ซึ่งทำการจัดแข่งขันกีฬาทั้งสิ้นจำนวน 45 ชนิดกีฬาและกีฬาสาธิตจำนวน 8 ชนิดกีฬา และในส่วนของการแข่งขันกีฬาอาวุโสแห่งชาติ มีนักกีฬาและเจ้าหน้าที่เข้าร่วมการแข่งขัน รวมทั้งสิ้น 4,444 คน โดยเป็นนักกีฬาชายจำนวน 2,701 คน นักกีฬาหญิงจำนวน 960 คน และเจ้าหน้าที่จำนวน 783 คน ซึ่งทำการจัดแข่งขันกีฬาทั้งสิ้นจำนวน 16 ชนิดกีฬา

โดยภายหลังการประชุม ได้มีการจับสลากแบ่งสายการแข่งขันกีฬาฟุตบอล ในการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 37 “พัทลุงเกมส์” โดย ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. และนายฉัตรชัย อุสาหะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ซึ่งผลการจับสลากแบ่งเป็น 4 สาย ประกอบด้วย สาย A ได้แก่ 1.จังหวัดนครราชสีมา 2.จังหวัดพัทลุง 3.จังหวัดนครศรีธรรมราช สาย B ได้แก่ 1.จังหวัดกรุงเทพฯ 2.จังหวัดสงขลา 3.จังหวัดเชียงราย สาย C ได้แก่ 1.จังหวัดสุพรรณบุรี 2.จังหวัดบุรีรัมย์ 3.จังหวัดขอนแก่น และสาย D ได้แก่ 1.จังหวัดจันทบุรี 2.จังหวัดพะเยา 3.จังหวัดกาญจนบุรี

ทั้งนี้ สามารถติดตามรับชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันฯ ได้ตลอดทุกวันจนจบการแข่งขัน ผ่านทางทีวีดิจิทัลช่อง T Sports 7 และสื่อออนไลน์ผ่านทาง Facebook Fanpage และ Youtube T Sports 7

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ