กกต.ดุดันไม่แผ่ว ขีดเส้นตายเพื่อไทยใน 7 วัน แจงที่มาเงิน ใช้ 62 นโยบายหาเสียง

Home » กกต.ดุดันไม่แผ่ว ขีดเส้นตายเพื่อไทยใน 7 วัน แจงที่มาเงิน ใช้ 62 นโยบายหาเสียง


กกต.ดุดันไม่แผ่ว ขีดเส้นตายเพื่อไทยใน 7 วัน แจงที่มาเงิน ใช้ 62 นโยบายหาเสียง

กกต.ดุดันไม่แผ่ว ขีดเส้นตายเพื่อไทยใน 7 วัน แจงที่มาเงินใช้ 62 นโยบายหาเสียง พร้อมแจ้งหน.ทุกพรรคการเมืองต้องแจงรายละเอียดนโยบายตามกม.กำหนดกลับมาภายใน 18 เม.ย.

เมื่อวันที่ 11 เม.ย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่กกต.พบว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้จ้งวงเงินที่จะใช้และที่มาของเงินที่จะใช้ดำเนินการตามนโยบายหาเสียงแจกเงินในกระเป๋าเงินดิจิทัลให้​คนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไปคนละ 10,000 บาท ตามที่มาตรา 57 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2561 กำหนดไว้ มีรายงานว่า วันที่ 10เม.ย.ที่่ผานมา สำนักงานกกต.โดยนายแสวง บุญมี เลขาธิการกกต. มีหนังสือแจ้งไปยังพรรคเพื่อไทยว่านโยบายหาเสียงที่เกี่ยวข้องกับการใช้จ่ายเงินที่พรรคได้แจ้งมานั้น ยังมีรายการที่ดำเนินการไม่ครบถ้วนตามมาตรา 57 วรรคหนึ่ง(1) คือ ขาดที่มาขอเงินที่จะใช้ในการดำเนินการ และวงเงินที่ต้องใช้ในการดำเนินการรวมทั้งสิ้น 62 นโยบาย โดยให้พรรคเพื่อไทยดำเนินการแก้ไขรายการดังกล่าวให้ครบถ้วนถูกต้อง และแจ้งกลับมายังสำนักงานกกต.ภายใน 7 วัน นับแต่วันได้รับหนังสือ

ขณะเดียวกันวันดังกล่าว เลขาธิการฯกกต.ยังมีหนังสือแจ้งถึงหัวหน้าทุกพรรคการเมือง เรื่องการกำหนดนโยบายหาเสียงของพรรคการเมือง เน้นย้ำให้พรรคการเมืองต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย โดยกรณีการกำหนดนโยบายที่ต้องใช้จ่ายเงิน ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามมาตรา 57 โดยต้องมีรายการอย่างน้อย 1.วงเงินที่ต้องใช้และที่มาของเงินที่จะใช้ดำเนินการ 2.ความคุ้มค่าและประโยชน์ในการดำเนินนโยบาย 3 ผลกระทบและความเสี่ยงในการดำเนินนโยบายโดยพรรคการเมืองต้องระบุรายละเอียดดังกล่าวเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ และแจ้งต่อกกต.จึงให้พรรคการเมืองแจ้งรายละเอียดดังกล่าวต่อสำนักงาน กกต.ภายในวันที่ 18 เม.ย.นี้

ทั้งนี้หนังสือดังกล่าวยังระบุด้วยว่าการหาเสียงของพรรคต้องไม่ขัดหรือแย้งกับแนวที่กำหนดเป็นนโยบายของพรรคการเมืองตามมาตรา74 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.2561หากพรรคไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของกกต.ตามมาตรา 57 วรรคสองต้องระวังโทษปรับไม่เกิน 5แสนบาทและปรับอีกวันละ 1หมื่นบาทตลอดระยะเวลาที่ยังไม่ปฏิบัติให้ถูกต้องและถ้าผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 74 หรือหาเสียงไม่ว่าด้วยประการใดให้ประชาชนหลงเชื่อหรือเข้าใจผิดว่าเป็นนโยบายของพรรคการเมืองตามมาตรา 74 ต้องระวังโทษจำคุก 1-10 ปีปรับตั้งแต่ 20,000 -200,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับและให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิ์ผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี

เชิญร่วมโหวตครั้งประวัติศาสตร์ “มติชน x เดลินิวส์” โพลเลือกตั้ง ’66 เลือกนายกฯ ที่ใช่-เลือกพรรคการเมืองที่ชอบ คลิกทำโพลได้ที่ >> https://www.matichon.co.th/thai-election66-poll/ #โหวตอนาคต #โพลเลือกตั้งมติชนเดลินิวส์ #เลือกตั้ง66 #มติชนเลือกตั้ง66

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ