กกต. ชงสำนักงบฯ ขอ 5 พันล้าน จัดเลือกตั้ง วาง 3 โมเดลแบ่ง 400 เขต ติวเข้มจนท.-พัฒนาแอปฯ ฉลาดเลือก คู่มืออำนวยความสะดวกประชาชนก่อนเข้าคูหา
เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 2565 นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมของกกต. ในการจัดการเลือกตั้ง ส.ส. เป็นการทั่วไปในปี 2566 ว่า กกต. ได้เตรียมความพร้อมสำหรับการจัดการเลือกตั้ง ส.ส. ที่จะมีขึ้นไว้แล้ว โดยทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนที่ได้วางแผนไว้ เมื่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มีผลใช้บังคับ กกต.จะเร่งพิจารณาออกระเบียบและประกาศที่สืบเนื่องจากพ.ร.ป.ทั้ง 2 ฉบับ
ทั้งเรื่องวิธีการสรรหาผู้สมัครไพรมารีโหวต และการจัดตั้งสาขาพรรคการเมืองและตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด รวมทั้งการแบ่งเขตเลือกตั้งส.ส. ซึ่งการแบ่งเขตเลือกตั้ง ทางสำนักงานกกต.ประจำจังหวัด (กกต.จว.) เตรียมจัดทำเขตเลือกตั้งตามรูปแบบไว้แล้วอย่างน้อย 3 รูปแบบ โดยยึดตามจำนวนประชากรปี 2564
แต่หากช่วงต้นปีหน้ามีการประกาศจำนวนประชากรปี 2565 จะต้องมีการคำนวณจำนวนส.ส. ในแต่ละจังหวัดใหม่ และดำเนินการแบ่งเขตเลือกตั้งในจังหวัดที่มีการเปลี่ยนแปลงจำนวนส.ส.ใหม่ แต่คาดว่าไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงมาก
นายอิทธิพร กล่าวถึงความพร้อมของสำนักงานกกต. ว่า ได้มีการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด (ผอ.กกต.จว.) ทั่วประเทศ ซึ่งเป็นกลไกหลักขับเคลื่อนงานจัดการเลือกตั้งในแต่จังหวัด เตรียมความพร้อมและซักซ้อมความเข้าใจการปฏิบัติในรายละเอียด สำหรับการจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ในการเลือกตั้งและบุคลากร อยู่ระหว่างการจัดเตรียมเพื่อให้เป็นไปตามแผนดำเนินการ
นอกจากนี้ กกต.ยังได้พัฒนาแอปพลิเคชั่นฉลาดเลือก Smart Vote เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน ในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเลือกตั้ง เช่น การตรวจสอบหน่วยเลือกตั้งของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ข้อมูลผู้สมัครส.ส.ทั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง แยกตามเขตเลือกตั้งทั่วประเทศ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ แยกตามพรรคการเมือง และรายชื่อบุคคลซึ่งพรรคการเมืองเสนอให้เป็นนายกรัฐมนตรี รวมทั้งข้อมูลของพรรคการเมือง
นายอิทธิพร กล่าวอีกว่า สำหรับงบประมาณจัดการเลือกตั้งได้จัดทำคำขอต่อสำนักงบประมาณเรียบร้อยแล้ว โดยเสนอคำขอไปประมาณ 5,000 ล้านบาท โดยเมื่อการเลือกตั้งส.ส.เป็นการทั่วไป ปี 2562 กกต. ของบไปประมาณ 4,200 ล้านบาท สาเหตุที่มากกว่าเดิม เนื่องจากเขตเลือกตั้งเพิ่มขึ้นจาก 350 เขตเลือกตั้งเป็น 400 เขตเลือกตั้ง และใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ รวมทั้งจำนวนกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) เพิ่มขึ้นจากหน่วยละ 5 คน เป็นหน่วยละ 9 คน
นอกจากนี้ ในส่วนของการสืบสวนไต่สวนการกระทำความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง ทางกกต. ได้เตรียมการแต่งตั้งผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัด และชุดเคลื่อนที่เร็วไว้ในทุกพื้นที่ รวมทั้งมีชุดปฏิบัติการข่าว ทำหน้าที่สืบสวนหาข่าวในพื้นที่อยู่โดยตลอด โดยขอเชิญชวนประชาชนร่วมเป็นผู้แจ้งเบาะแสการกระทำความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง
นายอิทธิพร กล่าวอีกว่า หากการแจ้งเบาะแสนำไปสู่การลงโทษผู้กระทำผิด จะมีสิทธิ์ได้รับเงินรางวัลตามที่ระเบียบกำหนด และหากบุคคลนั้นถูกข่มขู่ หรือคุกคาม ทางกกต.ได้มีมาตรการคุ้มครองพยานให้ด้วย ดังนั้น ขอให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นว่ากกต. ได้เตรียมความพร้อมและมีแผนสำหรับรองรับสถานการณ์ไว้แล้ว