- กอร์ดอน คอเรรา
- ผู้สื่อข่าวความมั่นคง บีบีซี นิวส์
การตัดสินใจส่งกองกำลังพิเศษเข้าไปพุ่งเป้าสังหารนายอาบู อิบราฮิม อัล อาชิมี อัล คูไรชี แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลสหรัฐฯ เห็นว่า เขาเป็นบุคคลสำคัญมาก
กลุ่มรัฐอิสลาม (Islamic State–IS) หรือไอเอส และกลุ่มอัลไคดา ตกเป็นเป้าโจมตีด้วยโดรนอยู่บ่อยครั้งมานานหลายปีแล้ว
การส่งกองกำลังภาคพื้นดินมีความเสี่ยงมากขึ้นและจะใช้เฉพาะกับเป้าหมายที่ถูกมองว่า “มีคุณค่าสูง” หรือเป้าหมายที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย อย่างการบุกสังหารนายโอซามา บิน ลาเดน ผู้นำกลุ่มอัลไคดาในปากีสถานเมื่อปี 2011
บางครั้งจะมีการจู่โจมเช่นนั้นเมื่อสหรัฐฯ ต้องการจับเป็น หรือมีข่าวกรองบางอย่างที่พวกเขากำลังพยายามเก็บรวบรวมจากจุดนั้น
ในภารกิจล่าสุดนี้มีความเสี่ยงสูงมากอย่างเห็นได้ชัด โดยต้องส่งเฮลิคอปเตอร์เข้าไป แต่ไม่มีรายงานว่า มีทหารสหรัฐฯ ได้รับบาดเจ็บ
ภารกิจของกองกำลังพิเศษยังทำให้นายอาบู บาการ์ อัล บักห์ดาดี ผู้ก่อตั้งและผู้นำคนก่อนหน้านี้ของไอเอสเสียชีวิตด้วย เขาเสียชีวิตในเดือน ต.ค. 2019 ด้วยการจุดชนวนระเบิดฆ่าตัวตายหลังถูกกองกำลังสหรัฐฯ ต้อนจนจนมุมในซีเรีย มีรายงานว่านายอัล คูไรชี ซึ่งได้ผู้นำไอเอสต่อจากนั้น ก็ได้จุดชนวนระเบิดฆ่าตัวตายระหว่างการบุกจู่โจมล่าสุดเช่นกัน
แทบไม่มีใครรู้อะไรเกี่ยวกับนายอัล คูไรชี เขาไม่ได้โด่งดังเหมือนกับผู้นำคนก่อนหน้าที่เป็นผู้ก่อตั้งดินแดนที่เรียกว่ารัฐอิสลาม ซึ่งเป็นดินแดนภายใต้การปกครองของไอเอส
นายอัล คูไรชี เก็บตัวเงียบ แต่คาดว่าเขาเคยเป็นเจ้าหน้าที่ในกองทัพอิรักสมัยที่นายซัดดัม ฮุสเซน เป็นผู้นำ ก่อนเข้าร่วมการต่อสู้ต่อต้านสหรัฐฯ หลังปี 2003 โดยในช่วงแรกได้เข้าร่วมกับกลุ่มอัลไคดา ก่อนเข้าร่วมกับกลุ่มไอเอสในเวลาต่อมา
ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ เคยเสนอรางวัลแก่ผู้ที่ให้เบาะแสเกี่ยวกับนายอัล คูไรชี โดยระบุว่า “เขาเป็นผู้นำผู้ก่อการร้ายอาวุโสในองค์กรอัลไคดาในอิรัก (al-Qa’ida in Iraq–AQI) ซึ่งเป็นองค์กรก่อนที่จะกลายมาเป็นไอเอส และได้เลื่อนขั้นขึ้นเรื่อย ๆ จนได้เป็นผู้นำอาวุโสในกลุ่มไอเอสในตำแหน่ง รองหัวหน้ากลุ่มไอเอส”
สหรัฐฯ ยังระบุด้วยว่า นายอัล คูไรชี “เป็นหนึ่งในคนที่ยึดมั่นในอุดมการณ์ที่อาวุโสที่สุด” และ “ช่วยสนับสนุนและให้ความชอบธรรมกับการลักพาตัว การสังหาร และการลักลอบค้าชาวยาซิดี ชนกลุ่มน้อยทางศาสนาทางตะวันตกเฉียงเหนือของอิรัก และยังเป็นผู้นำในปฏิบัติการก่อการร้ายระดับโลกของไอเอสหลายครั้งด้วย”
ไอเอสไม่ได้ควบคุมพื้นที่ขนาดใหญ่ในอิรักและซีเรียอย่างในช่วงที่เรืองอำนาจสูงสุด และไม่ได้ดึงดูดนักรบจีฮัดเหมือนเช่นที่เคยเป็น โดยตอนนั้นไอเอสใช้โซเชียลในการคัดเลือกสมาชิกและยั่วยุให้ผู้คนก่อเหตุโจมตีในถิ่นที่ตัวเองอาศัยอยู่ ไอเอสไม่สามารถก่อเหตุโจมตีพื้นที่ภายนอกอย่างในยุโรป เช่น การโจมตีกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในปี 2015 ได้อีกแล้ว
ปี 2021 กลุ่มไอเอส-เค (IS-K) ในอัฟกานิสถานที่เกิดมาจากกลุ่มไอเอส กลายเป็นที่สนใจ โดยเฉพาะในการโจมตีที่กรุงคาบูลที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตขณะที่สหรัฐฯ และพันธมิตรกำลังถอนกำลังออกจากอัฟกานิสถาน
แต่ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทางการต่อต้านก่อการร้ายมีความกังวลว่า ไอเอส-เคกำลังพยายามสร้างกลุ่มขึ้นมาใหม่ในอิรักและซีเรีย และเพิ่มขีดความสามารถมากขึ้น เห็นได้จากการซุ่มโจมตีและการโจมตี อีกทั้งยังมีความพยายามครั้งสำคัญในการหลบหนีออกจากเรือนจำครั้งใหญ่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรียเมื่อเดือน ม.ค. 2022 และการกลับมาโฆษณาชวนเชื่ออีกครั้ง
รัฐบาลสหรัฐฯ หวังว่า การสังหารนายอัล คูไรชี จะยุติการฟื้นกลับคืนมาของไอเอสได้ แต่ในความเป็นจริงคือ ทางกลุ่มก็จะหาผู้นำคนใหม่ได้ไม่ยาก ทว่าการที่ผู้นำคนใหม่ต้องใช้ความพยายามในการเอาตัวรอดและรักษาชีวิตของตัวเองมากขึ้น ย่อมทำให้การเปิดปฏิบัติการต่าง ๆ ทำได้ลำบากขึ้น
…………
ข่าว BBCไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ข่าวสด เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว