ไม่เข็ดหลาบ ตำรวจพัทยา บุกจับผับดัง ลอบเปิดฝ่าฝืนคำสั่งซ้ำซาก พบนักเที่ยวมั่วสุมดื่มแอลกอฮอล์-สูบบุหรี่-บารากู่ หวั่นแพร่โควิด-19 เตรียมเสนอปิดถาวร
เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 24 ก.พ.2565 พ.ต.ต.กองพล เดชะคำภู สวป.สภ.เมืองพัทยา นำกำลังบุกจับ สถานบริการลักษณะเป็น ผับ คาราโอเกะ ลักลอบเปิดให้บริการโดยฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดชลบุรี สามารถจับกุมได้ 2 ร้าน ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนพัทยาสายสาม ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
ร้านแรกคือ ร้านอะพอลโล ผับ เมื่อเจ้าหน้าหน้าที่ตำรวจขับรถเข้าไปในซอยพบว่า มีคนนั่งอยู่ริมทาง เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ก็พากันตกใจ กระทั่งเข้าถึงตัวผับเป็นห้องทึบ เปิดเพลงเสียงดังสนั่น แสงไฟเลเซอร์วิบวับ มีนักเที่ยวกว่า 50 คน กำลังมั่วสุมดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เต้นตามเสียงดนตรี อย่างเมามันส์ ทั้งยังสูบบุหรี่ และบารากู่ไฟฟ้า พ่นควันคละคลุ้ง เจ้าหน้าที่จึงสั่งให้หยุดกิจกรรมทั้งหมดแล้วสวมหน้ากากอนามัยทันที
ร้านที่สองคือ ร้านร้านแจ๊กกี้ คาราโอเกะ ผับ พบกลุ่มวัยรุ่นทั้งชายและหญิง ยืนอออยู่เต็มสองข้างทาง เจ้าหน้าที่ไม่รอช้า นำกำลังบุกเข้าไปในตัวร้าน ซึ่งตัวร้านเป็นห้องปิดทึบ กลิ่นควันบุหรี่คละคลุ้งไปทั่ว มีนักเที่ยวยังคงนั่งดื่มกันอย่างเพลิดเพลิน บางคนเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่มาก็ทยอยกันเดินออก โดยไม่มีการสวมหน้ากากอนามัยป้องกันแต่อย่างใด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวผู้รับเป็นผู้ดูแลร้านทั้งสองร้าน ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งข้อกล่าวหา เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต จำหน่ายสุราเกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด จำหน่ายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดชลบุรี เพื่อดำเนินคดีถึงที่สุด พร้อมทั้งจะทำการเสนอสั่งปิดเนื่องจากทั้งสองร้านเคยถูกจับกุมมาแล้วหลายครั้ง แต่ยังไม่เข็ดหลาบ ยังคงฝ่าฝืนกระทำความผิดโดยไม่เกรงกลัวกฎหมายแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ภาครัฐได้ผ่อนปรนให้สถานบริการที่เปิดจำหน่ายอาหาร จำหน่ายสุรา และนั่งดื่มที่ร้านได้ โดยจะต้องอยู่ในมาตราที่กำหนด แต่ทั้งสองร้านที่ถูกจับกุมนั้น มีลักษณะเป็นผับ คาราโอเกะ เป็นพื้นที่ปิดทึบ มีจำนวนคนเข้าใช้บริการจนแออัด ถือว่ามีความเสี่ยงสูงมากที่จะเป็นแหล่งแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างหนัก โดยเฉพาะพื้นที่ จ.ชลบุรี ที่มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มอย่างต่อเนื่อง จึงถูกตั้งคำถามว่าสถานที่เหล่านั้นมีเหมาะสมหรือไม่