ไม่กินของหวานแต่ยังเป็นเบาหวาน แพทย์เผยสัญญาณเตือน หาก “ส่วนนี้” ใหญ่ขึ้น เสี่ยงสูงขึ้นถึง 5 เท่า
เว็บไซต์ ETtoday รายงานว่า ดร.หลิว จงผิง แพทย์โรคหัวใจ ได้โพสต์ในเพจเฟซบุ๊ก “บันทึกโรคหัวใจของ ดร.หลิว จงผิง” ว่า หลายคนไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงเป็นเบาหวาน ทั้งๆ ที่ไม่ได้ชอบกินของหวาน
สาเหตุจริงๆ อยู่ที่ “หน้าท้อง” เพราะการนั่งนานๆ ขาดการออกกำลังกาย พฤติกรรมการกินที่ไม่ดี และอายุที่มากกว่า 40 ปี มักทำให้เกิด “พุงเล็กๆ” ซึ่งแต่ก่อนเราอาจคิดว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ตอนนี้พบว่าไขมันในช่องท้องเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดโรคเบาหวาน
ดร.หลิว จงผิง อธิบายว่า ไขมันใต้ผิวหนังที่เราสัมผัสได้เมื่อจับหน้าท้องนั้นไม่ใช่ตัวการที่อันตรายที่สุด แต่ปัญหาอยู่ที่ไขมันในช่องท้องที่ลึกลงไป ไขมันชนิดนี้เกาะอยู่บนตับและตับอ่อน ก่อให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง ทำให้ภาวะดื้อต่ออินซูลินเพิ่มขึ้น และสุดท้ายพัฒนาไปเป็นโรคเบาหวานได้
โดยหากผู้ชายมีรอบเอวเกิน 90 เซนติเมตร (36 นิ้ว) หรือผู้หญิงเกิน 80 เซนติเมตร (32 นิ้ว) ความเสี่ยงในการเป็นเบาหวานจะเพิ่มขึ้น และหากผู้ชายมีรอบเอวเกิน 100 เซนติเมตร ความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 5 เท่า
ดร.หลิว จงผิง ชี้ว่า ปัญหาอยู่ตรงที่หลายคนไม่ได้ทำอะไรผิด แต่เมื่ออายุมากขึ้น ไขมันในช่องท้องก็ค่อยๆ สะสมเองจนหน้าท้องเริ่มหย่อน ในประเทศพัฒนาแล้วอย่างสหรัฐฯ และออสเตรเลีย มีคนกว่าครึ่งที่ประสบปัญหารอบเอวเกินมาตรฐาน
“ด้วยวิถีชีวิตที่เต็มไปด้วยอาหารอร่อยและเทคโนโลยีทันสมัยของไต้หวัน คาดว่าปัญหาโรคอ้วนจะกลายเป็นวิกฤตเร่งด่วนในอนาคตเช่นกัน”
พร้อมทิ้งท้ายด้วยการเตือนว่า หลายคนแม้น้ำหนักตัวจะไม่เพิ่ม แต่รอบเอวกลับขยายขึ้น สาเหตุเกิดจากกล้ามเนื้อรอบๆ ลดลง ทำให้น้ำหนักไม่เปลี่ยน แต่รอบเอวดูใหญ่ขึ้นกว่าเดิม
“จากการวิจัย เราพบว่ารอบเอวมีความสำคัญมากกว่าน้ำหนักตัว หากคุณเริ่มใส่กางเกงสมัยหนุ่มสาวไม่ได้แล้ว ก็ถึงเวลาที่ต้องเริ่มออกกำลังกายอย่างจริงจัง”