ไปต่ออย่าหยุด ผู้เสียหาย ดิไอคอน ทะลุ 3 พันราย ลามไปยังต่างประเทศ!?

Home » ไปต่ออย่าหยุด ผู้เสียหาย ดิไอคอน ทะลุ 3 พันราย ลามไปยังต่างประเทศ!?

ผู้เสียหายดิไปคอน

ผู้เสียหาย ดิไอคอน ทะลุ 3 พันราย มูลค่าเกือบ 1 พันล้านบาท ล่าสุดลามไปยังต่างประเทศ พบผู้เสียหาย 40 ราย ยอดรวม 20 ล้านบาท

วันนี้ 19 ต.ค.2567 ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับ การคุ้มครองผู้บริโภค แจ้งความคืบหน้าการดำเนินการคดี ดิไอคอนกรุ๊ป (The Icon Group)

โดยยอดผู้เสียหาย หลอกลวงลงทุนของบริษัท “ดิไอคอนกรุ๊ป” ที่มาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ณ ห้องประชุม ชั้น 2 อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม วันที่ 18 ตุลาคม 2567 มีผู้เสียหายที่สอบปากคำแล้ว จำนวน 345 ราย มูลค่าความเสียหาย 99.7 ล้านบาทเศษ ยอดรวมสะสม ระหว่างวันที่ 10 – 19 ตุลาคม 2567 สรุปยอด ณ เวลา 15.00 น. มีจำนวนผู้เสียหายที่สอบปากคำแล้ว 2,702 ราย มูลค่าความเสียหายเฉพาะที่สอบปากคำแล้วรวม 933 ล้านบาทเศษ

ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) สรุปข้อมูลการรับแจ้งความร้องทุกข์ในคดีดิ ไอคอน กรุ๊ป จากศูนย์รับแจ้งความร้องทุกข์ตำรวจภูธรจังหวัดและกองบังคับการตำรวจนครบาล ประจำวันที่ 18 ตุลาคม 2567 รวมผู้เสียหาย 1,881 ราย มูลค่าความเสียหาย 424 ล้านบาทเศษ โดยกองบัญชาการที่มีผู้เสียหายเดินทางเข้าร้องทุกข์มากที่สุด ได้แก่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล จำนวน 536 ราย กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 จำนวน 256 ราย และ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 จำนวน 221 ราย ตามลำดับ น้อยที่สุด คือ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 จำนวน 26 ราย

S 6652070

ตัวแทนผู้เสียหายชาวต่างชาติ ดิไอคอน

นอกจากนี้ นายอิทธิเดช ธเนศวัฒนะ ตัวแทนผู้เสียหายชาวต่างชาตินำเอกสารบิลเงินสด การสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ ในเครือ บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด รูปภาพร้านค้า ซึ่งมีการนำผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไปจำหน่ายในต่างประเทศ และรูปภาพผู้เสียหายซึ่งถ่ายคู่กับนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ พอล มอบให้พ.ต.ท.ปริญญา ปาละ รองผู้กำกับการ (สอบสวน) กองกำกับการ 1 บก.ปคบ. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มผู้บริหารบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด

โดยตัวแทนผู้เสียหายชาวต่างชาติ เปิดเผยว่า ในวันนี้ตัวเองเดินทางมาในฐานะตัวแทนผู้เสียหายคนไทยและชาวต่างชาติในต่างประเทศ รวมกว่า 10 ประเทศ ประกอบด้วย จีน ฮ่องกง มาเก๊า อิตาลี เยอรมัน แคนาดา เอสโตเนีย และ ลักเซมเบิร์ก ซึ่ง กลุ่มผู้เสียหายส่วนใหญ่ไม่ได้ต้องการจะเข้ามาเป็นแม่ข่ายแต่ต้องการจะนำสินค้าไปขายจริง ๆ ซึ่งรูปแบบความเสียหายที่พบ คือ การโอนเงินเพื่อชำระค่าสินค้าสำหรับนำไปจำหน่ายแต่กลับไม่ได้สินค้า และได้รับแจ้งจากผู้ค้าในประเทศไทยว่าให้รอสินค้าก่อน แต่เมื่อรอก็ยังไม่ได้รับ

โดยกลุ่มผู้เสียหายส่วนใหญ่เป็นกลุ่มแม่ค้าที่นิยมจะนำสินค้าไทยไปขายในต่างประเทศ และบังเอิญได้โฆษณาผ่านแอพใน Facebook ประกอบกับเห็นว่ามีบอสดาราร่วมอยู่ในบริษัท อีกทั้งยังมีกลุ่มผู้เสียหายบางคนเคยพบกับบอส พอลและบอสดาราที่ต่างประเทศ จึงทำให้เกิดความเชื่อมั่น และต้องการที่จะนำสินค้าดังกล่าวไปขายในต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้มีผู้เสียหายกว่า 40 คน แบ่งเป็นเอเชีย 20 คน และ ยุโรป 20 คน รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท

S 6595449

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ