ไต้หวัน จับ9คนจาก2แก๊งใต้ดิน สั่งเฮโรอีน7กก. ซุกในกล่องอาหารเสริมจากไทย
วันที่ 13 พ.ย. กองสืบสวนที่ 3 สำนักงานอาชญากรรม ไต้หวัน พร้อมกรมศุลกากรไต้หวัน แถลงข่าวการยึดเฮโรอีนบริสุทธิ์สูง น้ำหนัก 7.3 กิโลกรัม มูลค่าตลาดไต้หวันกว่า 40 ล้านดอลลาร์ไต้หวันใหม่ (ราว 46 ล้านบาท) ที่ส่งมาจากประเทศไทย เมื่อเดือนก.ย. ต่อมาจับกุมสมาชิกกลุ่มขนส่งยาเสพติดทั้งหมด 9 คน
ในจำนวนนี้มีนายไช่ อายุ 52 ปี (ผู้มีประวัติครอบครองยาเสพติด ละเมิดเสรีภาพผู้อื่น ทำร้ายร่างกายผู้อื่น และความผิดอื่นๆ) หัวหน้าสาขาถงซินของสหภาพเทียนเต่า (1 ใน 3 องค์กรใต้ดินขนาดใหญ่ในไต้หวัน) ที่ร่วมมือกับสาขาผิงถังซงซานของแก๊งสหภาพไม้ไผ่ (องค์กรใต้ดินชาวจีนข้ามชาติที่มีต้นกำเนิดในไต้หวัน) ก่อตั้งกลุ่มขนส่งยาเสพติดข้ามชาติ สั่งซื้อ “ผลิตภัณฑ์ทดแทนมื้ออาหาร” ทางออนไลน์จากกรุงเทพมหานครที่ซุกซ่อนเฮโรอีนเข้ามาในไต้หวัน
กองสืบสวนที่ 3 สำนักอาชญากรรมไต้หวัน ชี้ว่า ในช่วงไม่กี่ปีผ่านมา เนื่องจากผลกระทบของการระบาดใหญ่ของโควิด-19 กลุ่มขนส่งยาเสพติดลักลอบนำเข้ายาเสพติดจากต่างประเทศโดยใช้พัสดุระหว่างประเทศเพื่อซุกซ่อนยาเสพติด หน่วยงานรัฐบาลที่เกี่ยวข้องจึงบูรณาการช่องทางติดต่อหน่วยงานภายใน และยกระดับการป้องกันพรมแดนเพื่อสกัดกั้นการขนส่งยาเสพติดข้ามชาติ เป็นการรับมือกับสถานการณ์ปัจจุบันเช่นนี้
กรมศุลกากรตรวจพัสดุทางอากาศที่บรรจุกล่องอาหารเสริม 72 กล่อง จากกรุงเทพมหานครของประเทศไทย ผ่านเครื่องสแกนด้วยเอ็กซ์เรย์ เมื่อวันที่ 14 ก.ย. เจ้าหน้าที่ศุลกากรและสำนักงานอาชญากรรมพบความผิดปกติ จึงเปิดพัสดุเพื่อตรวจสอบ พบอาหารเสริม 25 กล่องมีเฮโรอีน แต่ละกล่องมีซองเฮโรอีน 8 ซอง แต่ละซองมีเฮโรอีน 30 กรัม น้ำหนักเฮโรอีนสุทธิ 7.378 กิโลกรัม จำนวนซองเฮโรอีนทั้งหมดอยู่ที่ราว 200 ซอง
กรมศุลกากร และกองสืบสวนที่ 3 สำนักอาชญากรรมไต้หวัน พร้อมด้วยสถานีตำรวจเขตว่านหัว เขตต้าอัน เขตเหวินซาน ในนครไทเป และสถานีตำรวจหย่งเหอในนครนิวไทเป แจ้งต่อสำนักงานอัยการเขตไทเปเพื่อสั่งการให้ทีมพิเศษดำเนินการสอบสวนเชิงลึกและพบว่าที่อยู่ของผู้รับพัสดุเป็นอพาร์ตเมนต์ในเขตว่านหัว นครนิวไทเป อัยการไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ขณะที่เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบปลอมตัวเป็น “บุรุษไปรษณีย์” ไปดักซุมตามที่อยู่จัดส่งบนพัสดุยาเสพติด เมื่อวันที่ 17 ก.ย. นอกจากพบผู้รับพัสดุ ที่จุดเกิดเหตุของกลุ่มขนส่งยาเสพติดแล้ว ยังมีผู้ต้องสงสัยอีก 3 คน ในลานจอดรถใกล้เคียงเพื่อติดตามกระบวนการขนส่งยาเสพติด
ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัย 4 คนแรก ได้แก่ นายเฉิน ผู้รับพัสดุ, นายหยาง หัวหน้างานผู้ควบคุมดูแลการขนส่งยาเสพติด, คนขับจักรยานยนต์ให้นายเฉิน และนายหลิน ผู้ให้ซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือเพื่อใช้ติดต่อทางอาชญากรรม ต่อมา วันที่ 23 พ.ย. ตำรวจจับกุมนายหลินคนที่ 2 ผู้ติดตามสายการขนส่ง และวันที่ 4 ต.ค. ตำรวจจับกุม นายเฉินคนที่ 2 ซึ่งเป็นสมาชิกทีมป้องกันแก๊งสหภาพไม้ไผ่ (กลุ่มสาขาของแก๊งสหภาพไม้ไผ่)
ตามคำสารภาพของสมาชิกที่ถูกจับกุมข้างต้น อัยการพุ่งเป้าที่ไปนายไช่ หัวหน้าสาขาถงซินของสหภาพเทียนเต่า ผู้อยู่เบื้องหลังของการขนส่งยาเสพติด, นายลฺหวี่ มือไม้ของนายไช่ และนายหวง สมาชิกสาขาผิงถังซงซานของแก๊งสหภาพไม้ไผ่ ซึ่งให้ความร่วมมือระหว่างทั้งสองแก๊งในการขนส่งยาเสพติด
ตำรวจพบว่า กลุ่มขนส่งยาเสพติดมีการแบ่งชั้นอย่างแน่นหนาและแบ่งงานอย่างละเอียด เพื่อไม่ให้คนในกลุ่มติดต่อกันเอง เพราะกลัวถูกตำรวจจับได้ โดยนายไช่ ผู้ต้องสงสัยหลัก สั่งการจากระยะไกล และติดต่อนายหวงในการหานายเฉิน ผู้รับพัสดุ และคนขับรถให้นายเฉินเพื่อไปรับยาเสพติด และยังแต่งตั้งนายหยาง หัวหน้างานผู้รับผิดชอบโดยตรงต่อนายไช่ในการรับและขนถ่ายยาเสพติด
จากการสอบสวนของตำรวจ นายไช่ หัวหน้าสาขาผิงถังซงซานของสหภาพเทียนเต่า ติดต่อนายหลินเกี่ยวกับการลักลอบขนยาเสพติด จากนั้นนายหลินติดต่อนายเฉินคนที่ 2 ซึ่งเป็นสมาชิกทีมป้องกันแก๊งสหภาพไม้ไผ่ เพื่อหาผู้รับพัสดุ และนายไช่ยังขอให้นายลฺหวี่และนายหวง สมาชิกสาขาผิงถังซงซานของแก๊งสหภาพไม้ไผ่ เพื่อติดตามปลายน้ำของการขนส่งยาเสพติด
ขณะที่นายเฉิน ผู้รับพัสดุ หลังถูกจับกุม อ้างว่า ตนแค่ได้รับแจ้งให้ช่วยรับพัสดุจากต่างประเทศ หากสำเร็จจะได้รับค่าตอบแทนเป็นเงิน 2,000,000 ดอลลาร์ไต้หวันใหม่ (ราว 2.3 ล้านบาท) หากล้มเหลว จะยังได้รับค่าเดินงาน 150,000 ดอลลาร์ไต้หวันใหม่ (ราว 170,000 บาท) นายเฉินจึงตกลงรับพัสดุ
หลังตำรวจจับกุมสมาชิกของกลุ่มขนส่งยาเสพติดชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 อย่างต่อเนื่องเมื่อเดือนก.ย.และต.ค. ต่อมาวันที่ 1 พ.ย. ตำรวจเดินทางไปเขตหลินโข่ว นครนิวไทเป และสถานที่อื่นๆ เพื่อจับกุมผู้ต้องสงสัยอีก 3 คน ได้แก่ นายไช่, นายลฺหวี่ และนายหวง ตำรวจยังยึดกาแฟผสมยาเสพติด 89 ถุง จากที่พักของนายหวง ในอาคารชุมชนเขตหลินโข่ว และยึดเงินสด 5,039,000 ล้านดอลลาร์ไต้หวันใหม่ (ราว 5.8 ล้านบาท) ที่ต้องสงสัยว่าเป็นเงินทุนในการขนยาเสพติด จากที่พักของนายไช่และนายลฺหวี่
ก่อนสั่งยาเสพติดจากต่างประเทศ นายไช่ยังขอให้คนของแก๊งสหภาพไม้ไผ่พานายเฉิน ผู้รับพัสดุ ไปธนาคารกรุงเทพ สาขาไทเป ริมถนนซงเจียง ในนครไทเป โอนเงิน 53,000 ดอลลาร์ไต้หวันใหม่ (ราว 61,000 บาท) ไปประเทศไทย ในชื่อของนายเฉิน ผู้รับพัสดุ และติดตามว่าเฮโรอีนรั่วไหลหรือไม่ เพื่อสร้างหลักฐานที่เป็นใบสำคัญธุรกรรมสำหรับการสั่งซื้ออาหารเสริมจากประเทศไทย เป็นการหลบเลี่ยงการติดตามของศุลกากรและตำรวจ แต่ไม่คาดคิดว่า เฮโรอีน 7 กิโลกรัม ที่ซุกซ่อนในอาหารเสริมถูกจับตาทันทีที่เข้าด่านศุลกากรไต้หวัน หลังตำรวจรายงาน นายเฉิน ผู้รับพัสดุ ถูกส่งไปสำนักงานอัยการเขตไทเป เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันอันตรายจากยาเสพติดในข้อหาลักลอบขนยาเสพติด
ผู้ต้องสงสัยบางคนให้การสารภาพว่าลักลอบขนเฮโรอีน ขณะที่นายหวงอ้างว่า กาแฟผสมยาเสพติดเป็นของตนที่ใช้เสพเอง ส่วนนายไช่ นายลฺหวี่ และนายหลิน ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา และปฏิเสธที่จะให้การรายละเอียดของอาชญากรรม ด้านอัยการควบคุมตัวนายไช่ นายลฺหวี่ และนายหลิน เนื่องจากปฏิเสธการมีส่วนเกี่ยวข้องในคดี ส่วนผู้ต้องสงสัย 6 คนที่เหลือได้รับการประกันตัวด้วยวงเงินคนละ 50,000 หยวน (ราว 57,000 บาท) และถูกกักบริเวณที่พักระหว่างการพิจารณาคดี
ที่มา: อีทีทูเดย์ ซีนิวส์ ยูดีเอ็น เอฟทีวีนิวส์ (ข่าว) และ ไชน่าทีวีนิวส์ (วิดีโอ)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ไต้หวัน ยึดเฮโรอีน 7 กก. นำเข้าจากไทย บด-บรรจุเป็น “อาหารเพื่อสุขภาพ”
ไต้หวันยึด “เฮโรอีนบริสุทธิ์” 6 พันล้านบาท ซุกไม้จากไทย หัวหน้าแก๊งเผ่นไปจีน