“พุทธคุณในพระเครื่องมีจริงไหม?” หรือ “พระเครื่องเหล่านั้นมีฤทธานุภาพได้อย่างไร?”  อ.โอ๊ต บางแพ ตอบคำถามยอดฮิต

คำถามตรงนี้สำหรับผมให้ตั้งข้อสังเกตว่าคงไม่มีใครเอาเงินไปจ่ายให้กับดินก้อนละล้านหรือจ่ายแลกกับทองเหลืองก้อนละเป็นล้าน ดังนั้นสิ่งที่มีคนยอมจ่ายเงินมูลค่าสูงๆ ให้กับวัตถุมงคลเขาเหล่านั้นแลกกับอะไร ?

แต่ถ้าจะให้อธิบายอย่างชัดเจนกว่านี้ก็คือ…เป็นสิ่งที่ป้องกันอันตรายเหล่านั้นให้กับผู้ครอบครองวัตถุมงคลเหล่านั้นคือ “อำนาจ” คือ “พลังจิต” ที่บรรจุอยู่ในพระเครื่องด้วยวิธีการและพิธีกรรมของเหล่าคณาจารย์ผู้สร้างจากพุทธคุณ ธรรมคุณ และสังฆคุณ…

ชัดเจนครับ เขาแลกกับความเป็นมงคล แล้วพิสูจน์ได้ไหม ได้หรือไม่ได้นั้น คนที่พิสูจน์รู้ได้ด้วยตัวเองแล้วถึงยอมจ่าย และเมื่อหลายคนที่ได้ใช้ความเป็นมงคลในสิ่งนั้นหรือที่เรียกว่าพุทธคุณเกิดขึ้นซ้ำกับหลายๆ คน จึงเป็นการการันตีว่าพระเครื่องนั้นๆ มีพุทธคุณจริง แล้วจึงบอกกล่าวกันอย่างแพร่หลายจนเกิดเป็นความนิยม 

มาถึงคำถามที่ว่าแล้วพระแต่ละอย่างเราจะรู้ได้อย่างไรว่าใช้ด้านไหน…?

คนในสมัยก่อนเขารู้เพราะเขาบวชเรียนอยู่กับวัด ใกล้ชิดกับพระผู้สร้างวัตถุมงคล ได้เห็นตำหรับตำราแต่ต่างจากสมัยนี้ที่พระสร้างจากโรงงานเสียเป็นส่วนใหญ่จึงไม่มีคนค่อยได้เห็นวิธีการสร้างนัก หรือจะกล่าวได้ว่าบางครั้งก็สร้างไม่ตรงตำราไปเสียทั้งหมด  วัตุมงคลจึงเชื่อว่าแต่ละอย่างมีพุทธคุณไม่เท่ากัน เปรียบเสมือนรถที่ขับถึงจุดหมายเหมือนกันแต่รถ 250 cc. ย่อมถึงเร็วกว่ารถ 120 cc. จะเปรียบเทียบง่ายแบบนี้ก็ว่าได้

การเลือกใช้พระเครื่องนั้นเรามักคิดว่าดีเหมือนกันหมด จริงๆ แล้วไม่ใช่ พระมหาอุตม์พระเมตตา พระช่วยด้านเรียกโชคลาภหรือช่วยเมตตาค้าขายต่างกันชัดเจน แล้วเราจะดูตรงไหน?

อันที่จริงแล้วเรื่องนี้ไม่ยากหากได้ทำการศึกษาตำราพระเวทย์แต่ท่านผู้อ่านอาจจะใจร้อนและลำบากต่อการศึกษา ทางผู้เขียนจึงขอให้ข้อสังเกตง่ายๆ โดยให้รู้หัวใจคาถาที่เขียนเป็นภาษาขอม

ทว่าก่อนจะไปรู้เรื่องหัวใจคาถาผู้เขียนข้อกล่าวให้ทราบก่อนว่า ทำไมวัตถุมงคลต้องใช้ภาษาขอม ภาษาขอมคือภาษาเทวดา ดังนั้นจะขอพรหรือสื่อสารกับเทวดาจึงต้องเขียนภาษาที่เทวดามาอ่านแล้วท่านเข้าใจ ก็เสมือนเราจะติดต่อกับฝรั่งก็ต้องเขียนหรือพูดภาษาอังกฤษ การสร้างวัตถุมงคลขอพระเทวดาจึงต้องเขียนและสวดบทสวดมนต์เป็นภาษาเทวดา

การสร้างวัตถุมงคลคือการทำให้ของธรรมดาเป็นของวิเศษมีหลักสำคัญ

1.ผู้สร้างผู้เสกต้องรู้วิธีการเตรียมมวลสารและของให้ครบองค์ประกอบ เสมือนการทำอาหารที่ต้องเตรียมเครื่องปรุงให้ครบ

2.ผู้สร้างผู้เสกต้องสำเร็จวิชาที่จะทำให้ของเหล่านั้นผ่านกรรมวิธีจนเป็นของวิเศษได้ด้วยการสะกดธาตุทั้ง 5 ลงไปในวัตถุมงคล ซึ่งตรงนี้ไม่ใช่ว่าใครจะทำการสะกดธาตุได้ ถ้าไม่ได้ผ่านการฝึกกรรมฐานจิตจนสำเร็จ ทั้งธาตุใหญ่ นะ โม พุธ ธา ยะ  ,ธาตุกรณี นะ มะ ภะ ทะ ,ดวงแก้วทั้งสี่ นะ มะ อะ อุ

3.กำหนดฤกษ์ยามที่ได้เวลาที่บรรจุหัวใจคาถาแล้วของสิ่งนั้นเกิดอิทธิฤทธิ์มากที่สุด

4.บริกรรมคาถาสวดบอกกล่าวขอพรให้ครบกับเทวดา พระพระอรหันต์และดวงจิตวิญญาที่มีอำนาจในสามโลก เรียกว่าขอให้ทั้ง ขอผี ขอพุทธ ขอพราหมณ์  ขอผีคือมีการเข้าทรง ขอพุทธคือสวดพุทธาภิเสก ขอพราหมณ์คือตั้งของบวงสรวงอัญเชิญชุมนุมเทวดา

อาจมีรายละเอียดยิบย่อยอีกมากอยู่ที่ผู้รู้มากก็สร้างของได้วิเศษมากกว่าผู้รู้น้อย

เรื่องโดย “โอ๊ต บางแพ” 

เซียนพระผู้คร่ำหวอดในวงการพระเครื่องนานกว่า 20 ปี และเป็นผู้ก่อตั้งแอปพลิเคชัน SK Check ช่องทางตรวจสอบพระเครื่องกับกูรูตัวจริง